ดิฉันได้ไปค้ำประกันรถยนต์ให้กับลูกจ้างในร้าน ต่อมาร้านเลิกกิจการ ดิฉันไม่ทราบว่าลูกจ้างไม่ส่งค่างวด จนทางบริษัท tc ได้ติดต่อมาให้นำรถไปคืน ดิฉันติดตามรถจากผู้เช่าซื้อจนเจอ และนำไปคืนที่บริษัท tc ในสภาพดีเพราะดูแลให้ก่อนนำส่งคืน และถามพนักงานว่าจะมีค่าใช้จ่ายอื่นๆติดตามมาอีกรึไม่ ทางพนักตอบว่าไม่มี ทางบริษัทจะเอาไปขายปิดหนี้จนครบ ต่อมาดิฉันได้รับหมายศาลไปที่บ้านให้ไปขึ้นศาล แต่ในช่วงนั้นตกงานจึงไม่มีเงินเดินทางไป เพราะคิดว่านำรถส่งคืนเรียบร้อยแล้วไม่น่าจะมีปัญหาอะไรอีก เพราะพนักงานแจ้งว่าทางบริษัทจะติดตามผู้เช่าซื้อเอง ต่อมามีหมายมาบังคดียึดทรัพย์ติดที่บ้านซึ่งเป็นที่ดินของญาติที่เคยทำเรื่องยืมเพื่อขอกู้ทำธุรกิจ และยังไม่ได้ดอนคืนให้ หมายส่งมายึดทรัพย์เพราะยังเป็นชื่อของดิฉัน จำนวนเงินที่ถูกฟ้อง 80,000 บาท แต่ด้วยเพราะตกงานและพยายามติดตามคนเช่าซื้อมาชำระไม่ได้ ดิฉันจึงโทรไปยังบริษัทเพื่อขอความเป็นธรรม ทางบริษัทบอกจะลดให้ 40,000 บาท หากชำระในงวดเดียว แต่ถ้าไม่สามารถชำระได้ให้ผ่อนชำระเดือนละ 5,000 บาท ซึ่งดิฉันตกงานและมีหนี้ที่ถูกฟ้องส่วนตัว ทำให้ไปยืมหรือกู้ใครไม่ได้เลยค่ะ ดิฉันได้แจ้งไปทางแม่ผู้เช่าซื้อ เมื่อเค้ารู้ว่าเราถูยึดทรัพย์จึงเพิกเฉยไม่สนใจ เพราะเค้าไม่ต้องมารับภาระ และขาดการติดต่อไป ดิฉันพยายามหาทางทุกช่องทางส่งจดหมายไปหาผู้เช่าซื้อใหมารับผิดชอบ จนเมื่อปลายปีที่แล้วได้รับการติดต่อมาว่าเพิ่งได้ทำงานใหม่ จะกู้นอกระบบมาคืนให้จำนวน 40,000 บาท ดิฉัดีใจมากจึงโทรไปยังบริษัท TC แต่ถูกปฎิเสธบอกว่าต่อจ่ายเต็มจำนวนเพราะเลยเวลามานานแล้ว ดิฉันทุกข์ใจมาก เพราะกว่าที่ผู้เช่าซื้อจะยินยอมจ่ายเงินให้ก็ต้องลำบากทุกอย่าง ดิฉันจึงอยากขอรบกวนท่านทนายคลายทุกข์ กรุณาแนะนำวิธีต่อรองให้ทางบริษัทไฟแนนซ์ยอมรับเงินจำนวนดังกล่าวด้วยนะคะ ถ้าพ้นจากเวลานี้ไปดิฉันไม่มีเงินรับผิดชอบ ที่ดินบ้านญาติถูกยึด ลูกๆญาติก็จะไม่มีที่อยู่ ขอความเมตตาแนะนำวิธีด้วยนะคะ ขอบพระคุณค่ะ