ขออนุญาตเขียนอีกรอบค่ะ เมื่อกี้ โพสต์แล้วไม่ขึ้น
..... ขอถามเกี่ยวกับคดี 2 เรื่องค่ะ คู่สมรสได้อยู่ร่วมกันประมาณ ๑๙ ปี มีบุตรบุญธรรมที่เป็นหลานของภรรยาที่ฝ่ายภรรยารับมาเลี้ยงไว้แล้วซื้อรุยนต์ให้กับบุตรบุญธรรมเพื่อให้ขับไปเรียนหนังสือ แต่เด็กก็เกเร เรียนไม่จบ และเกิดปัญหา โดยฝ่ายชายจับได้ว่าฝ่ายหญิงมีพฤติกรรมที่มีชู้ จึงได้ฟ้องหย่า แต่ศาลไดไกล่เกลี่รวมถึงหนี้สินที่ฝ่ายอดีตภรรยา สร้างไว้อบครอง
คำสั่ง ข้อที่ ๖ รถยนต์คันทะเบียน .... ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ และโจทก์มีหน้าที่เป็นผู้ผ่อนชำระแต่เพียงฝ่ายเดียว
ต่อมาโจทก์ได้เกษียณอายุงานจากบริษัทหลังจากที่หย่าไดด้ประมาณ ๑ เดือน และไม่มีงานทำต่อจึงไ่ม่สามารถผ่อนชำระรถได้เพื่อที่จะเก็บเงินไว้ส่งบ้าน และจ่ายเป้นรายสัปดาห์ให้กับบุตรบุญธรรม ๒,๐๐๐ บาท ต่อสัปดาห์ จนกกว่าจะอายุ ๒๐ ปี โจทก์ได้แจ้งให้ขอรถคืน เพื่อ ตีราคา ส่งคืนไฟแนนซ์ แต่ทางจำเลยได้ข่มขู่ทุกครั้ง และมักจะมาอาละวาด โดยไม่สามารถเจรจาได้ ทางโจทก์จึงไม่ชำระเงินโดยขาดการชำระ ๔ งวด และเซนต์เอกสารยินยอมให้ไฟแนนซ์เข้ายึดรถ เมื่อไฟแนนซ์เข้่าไปติดต่อขอคืนรถแล้ว ทางสองคนไม่ยอมคืนรถให้ ทำให้เรื่องถูกส่งไปทางกฎหมายของบริษัทไฟแนนซ์ ทางโจทก์ได้ยื่ยคำร้องต่อศาลเยาวชนฯ เพื่อขอบังคับคดี แต่ทางศาลได้แจ้งว่าเป็นคดีที่ถูกปิดไปแล้ว ให้โจทก์ไปยื่นฟ้องใหม่
** จึงอยากขอคำแนะนำจากอาจารย์ว่า โจทก์ควรทำอย่างไร ทางไฟแนนซ์ จะฟ้อง โจทก์ อย่างไร และจะฟ้องจำเลยผู้ครอบครองรถหรือไม่
คำสั่งข้อ ๔ บ้านเลขที่ ... พร้อมที่ดินโฉนดเลขที่ .. ทั้งแปลงให้เป็นกรรมสิทธิ์ของโจกท์ โดยโจทก์มีหน้าที่ผ่อนชำระแต่เพียงผู้เดียว จนเสร็จสิน โดยโจทก์ตำลงให้จำเลย และบุตรบุญธรรมอยู่ในบ้านเป็นเวลา ๑๐ ปี นับแต่มีคำสั่ง
*** ถ้าโจทก์ ไม่มีรายได้เพราะไม่มีงานทำ และไม่สามารถเจรจาต่อรองกับจำเลยได้ เพราะเขาคงไม่ยอมย้ายออก โจทก์สามารถโอนบ้าน ให้กับญตอพี่น้อง หรือบุคคลอื่น ผ่อนชำระต่อด้วยการไปปิดหนี้ที่ธนาคาร แล้วให้เขาสองคนอยู่ต่อ ได้หรือไม่ ถ้าญาติยินยอม หากไม่มีใครที่จะสามารถมาผ่อนต่อได้ ถ้าหากบ้านถูกยึดโดยธนาคาร กรณีนี้ ถือว่าละเมิด คำสั่งศาลหรือไม่ หรือมีวิธีการใดที่จะสามารถจัดการได้
ขอแสดงความนับถือ
อังคณา