ด้วยข้าพเจ้านายวันชัย เชิญขวัญมา มีบิดา-มารดาชื่อนายบุญชุบ-นางสุดา เชิญขวัญมาๆ มีบุตร-ธิดา รวม ๓ คน เป็นชาย ๑ คน หญิง ๒ คน บิดามีที่ดินอยู่ ๑ แปลง พื้นที่ ๕๒ ตรว. ต่อมาบิดา-มารดาได้เสียชีวิตลงตามลำดับเมือวันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๙ และวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๑ ทั้งสองไม่ได้จัดทำพินัยกรรมไว้ ต่อมาข้าพเจ้าในฐานะบุตรชายได้ไปยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งขอเป็นผู้จัดการมรดกเมื่อวันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๑ ศาลได้นัดไต่สวนในวันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๖๒ โดยมีน้องสาวคนที่๒ให้คำยินยอม แต่น้องสาวคนที่ ๓ ได้ไปร้องคัดค้านขอเป็นผุ้จัดการมรดกร่วม ศาลแพ่งได้ไต่สวนคำร้องแล้วได้พิพากษาออกคำสั่งให้ข้าพเจ้านายวันชัย เชิญขวัญมา เป็นผู้จัดการมรดก และให้นำที่ดินแปลดังกล่าวข้างต้นออกขายเพื่อให้นำเงินแบ่งให้แก่ทายาททั้ง ๓ คน โดยศาลแพ่งให้เวลาข้าพเจ้า ๖ เดือน โดยแบ่งเป็นข้าพเจ้าดำเนินการขายในเวลา ๓ เดือน ถ้ายังขายไม่ได้ให้น้องสาวผู้คัดค้านขายในเวลา ๒ เดือน ถ้าผู้คัดค้านยังขายไม่ได้ อีก ๑ เดือนสุดท้ายให้นำขายได้ทั้งสอง โดยตั้งเงื่นไขว่าไม่ให้ตำกว่าราคาประเมินจากกรมที่ดิน ซึ่งข้าพเจ้าได้ให้คำยินยอมต่อศาลแพ่งๆจึงประกาศให้ข้าพเจ้าเป็นผู้จัดการมรดกเพียงแต่ผู้เดียว แต่เนื่องจากโฉนดที่ดินแปลงดังกล่าวอยู่ที่บ้านของบิดาและผู้คัดค้าน ต่อมาบ้านได้ถูกรื้อถอนไปเนื่องแล้วเนื่องจากติดจำนอง และข้าพเจ้าได้ติดตามทวงถามให้ผู้คัดค้านส่งมอบโฉนดที่ดินให้กับข้าพเจ้าเป็นผู้ถือเพื่อดำเนินการขาย และข้าพเจ้าได้ติดต่อผู้ซื้อแล้วผู้ซื้อตกลงแต่ขอดูโฉนดที่ดินฉบับจริงเพื่อตกลงราคา แต่ผู้คัดค้านได้ผลัดผ่อนเวลามา ๔-๕ วันแล้ว ยังไม่ส่งมอบโฉนดที่ให้ข้าพเจ้าหรือทนายความของข้าพเจ้า
ดังนั้น ในประเด็นปัญหานี้ ข้าพเจ้าควรดำเนินการต่อไปอย่างไรกับกรณีนี้ และผู้คัดค้านน๊้
จึงได้เรียนถามมายังทนายคลายทุกข์ฯ นี้ โปรดให้คำชี้แนะนำด้วยครับ ขอขอบคุณครับ.