WebBoard :กฎหมาย|โดนทำร้ายร่างกาย ยอมความไปแล้วแต่ตอนนี้ไม่อยากยอมความแล้ว

โดนทำร้ายร่างกาย ยอมความไปแล้วแต่ตอนนี้ไม่อยากยอมความแล้ว

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

โดนทำร้ายร่างกาย ยอมความไปแล้วแต่ตอนนี้ไม่อยากยอมความแล้ว

  • 1315
  • 5
  • post on 16 ก.ย. 2555, 23:12

ดิฉันมีเรื่องต่อเถียงกับคนที่ทำงาน แล้วเขาก็ตบดิฉันค่ะ ดิฉันเลยต่อยที่ตาเขาเบาๆหนึ่งที เขาก็ไม่หยุด จะทำร้ายดิฉันอีก ดิฉันเลยทุบหัวแล้วก็ถีบเขาไปเพื่อป้องกันตัว ดิฉันปากแตกมีเลือดเต็มปาก และมีเลือดไหลตรงที่โดนเล็บข่วนหน้าสองจุด เขารีบไปแจ้งตำรวจว่าบันดานโทสะตบดิฉัน และพอดิฉันไปลงบันทึกประจำวันตำรวจถามจะเอาผิดเขาไหม ดิฉันไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่เลยยอมความไปค่ะ แต่ตอนนี้ยี่สิบกว่าวันแล้วแต่แผลที่ปากแตกก็ยังไม่หายเลยค่ะ ยิ้มไม่ค่อยได้ จะเจ็บ แล้วไม่รู้ว่าปากยังบวมอยู่นิดๆหรือปากเสียรูปทรงไปเลย เครียดมากเลยค่ะ ตอนนี้ถ้าจะเปลี่ยนเป็นไม่ยอมความแล้วจะได้ไหมค่ะ และถ้าถึงขั้นต้องฟ้องร้องกัน ดิฉันจะเสียประวัติไหมค่ะ แล้วต้องใช้เงินในการดำเนินคดีมากไหมค่ะ ช่วยตอบด้วยนะค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

โดยคุณ เอ (115.67.xxx.xxx) 16 ก.ย. 2555, 23:12

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 5

โดนคนเมาเอาขวดฟาดที่หัวตรงท้ายทอยจนเลือดออกได้เย็บหูสามารถแจ้งความพยายามฆ่าได้ไหมพอตอนแจ้งความคนทำร้ายตอบตำรวจว่ามันไส้เลยตีเราสามรถเรียกร้องสินไหมได้ประมาณเท่าไรคัฟ

โดยคุณ ภัทรกร 16 มี.ค. 2563, 17:25

ความคิดเห็นที่ 4

แต่ดิฉันป้องกันตัวด้วยคะ ตามที่เล่าไปตอนแรกคะ แล้วถ้าไม่มีใครยอมเป็นพยานให้ละคะ 

โดยคุณ เอ 18 ก.ย. 2555, 21:57

ความคิดเห็นที่ 3

ขอบคุณมากคะ ถามอีกนิดคะ แล้วดิฉันจะเสียประวัติไหมคะ แล้วจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีมากไหมคะ

โดยคุณ เอ 18 ก.ย. 2555, 21:47

ความคิดเห็นที่ 2

เพิ่มเติมอีกนิดค่ะ

เขาหาเรื่องดิฉันหลายครั้งแล้วค่ะ แต่ดิฉันก็เงียบ ไม่โต้ตอบ แต่ครั้งนี้มันหมดความอดทนจริงๆค่ะ เขาหาว่าดิฉันทำในสิ่งที่ดิฉันไม่ได้ทำ เหมือนเขาพยายามจะให้มีเรื่องค่ะดิฉันเลยตอบกลับไปว่าไม่ได้ทำ เขาเลยไม่พอใจเลยด่าดิฉันกลับมาค่ะ ก็เลยทำให้เป็นเรื่องโต้เถียงกันค่ะ ดิฉันไม่ได้อยากจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทเลยค่ะ และตำรวจก็บอกว่าเขาผิดเต็มๆ ถึงจะโต้เถียงกันอย่างไร แต่เขาก็ไม่มีสิทธิทำร้ายร่างกายคนอื่นค่ะ ตำรวจบอกถ้าดิฉันเอาเรื่องเขา ตำรวจจะปรับคนละห้าร้อย และจะปรับเขาเพิ่มอีกพันเพราะเขาเป็นคนก่อเรื่อง แต่ดิฉันไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ และไม่ได้อยากได้เงินพันเดียวของเขา ก็เลยยอมความไปค่ะ จะได้ไม่ต้องเอาเงินพันของเขาด้วย แต่ยี่สิบกว่าวันแล้วแผลที่ปากก็ไม่หาย เสียค่ารักษาไปประมาณห้าพันแล้วค่ะ และเขายังไปคุยกับพวกเขาว่าเขาเก่ง ตบดิฉันปากแตก และดิฉันก็ทำไรเขาไม่ได้แถมกลัวเขาจนนั่งทำงานเงียบไม่ขยับ

โดยคุณ เอ 17 ก.ย. 2555, 12:45

ตอบความคิดเห็นที่ 2

 ถ้าตำรวจยืนยันว่า  ไม่ใช้การสมัครใจทะเลาะวิวาท  คือคุณถูกทำร้ายฝ่ายเดียว  เมื่อรักษาเกิน 20 วันยังไม่หาย  ก็เข้าข่ายบาดเจ็บสาหัส  มีโทษ จำคุก  หกเดือนถึง สิบปี  และในทางแพ่งก็เรียกร้องค่าเสียหายได้ตามควรแก่กรณีอีกด้วย...คดีนี้ไม่สามารถยอมความได้  แม้คุณเคยบอกว่าไม่ติดใจเอาความ   คดีก็ยังไม่ยุติ  ถ้ามีพยานชัดเจน  และตำรวจ มีความเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อคุณ  ก็สามารถรื้อฟื้นให้มีการดำเนินคดีได้ ภายในอายุความ 15 ปี   แต่คุณก็คงต้องเหนื่อยอีกพอสมควร   ถ้าคิดจะไม่อยากจบเรื่องนี้  ก็คงต้องว่ากันอีกยาวนานพอสมควร    ถ้าคุณพร้อม....ก็แจ้งตำรวจให้ดำเนินการต่อไปได้   แต่ตำรวจก็คงไม่ปลื้มคุณเท่าที่ควร  เพราะบอกว่าจบแล้วไม่จบ.....

โดยคุณ มโนธรรม เจษฎาสาธุชน (สมาชิก) 17 ก.ย. 2555, 17:14

ความคิดเห็นที่ 1

 จากข้อเท็จจริง  เป็นการสมัครใจทะเลาะวิวาท  ทั้งคู่ไม่ใช่ผู้เสียตามกฎหมายที่จะฟ้องร้องดำเนินคดีซึ่งกันและกันได้   ถ้าไม่ยอมยุติเรื่อง ตำรวจก็ต้องส่งเรื่องให้อัยการ   อัยการก็ึคงฟ้องศาลในข้อหาทำร้ายร่างกายซึ่งกัน  คือฟ้องศาลในข้อหาทำร้ายร่างกายทั้งคู่ ครับ...แนวคำพิพากษาศาลฎีกาเทียบเคียง....

.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7135/2547
 
เหตุคดีนี้เกิดเพราะจำเลยเป็นผู้ก่อเหตุขึ้นก่อน และเป็นการสมัครใจทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน มิใช่เป็นภยันอันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย จำเลยจะอ้างว่าการกระทำเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายไม่ได้
  การที่ผู้เสียหายถูกจำเลยรัดคอด้วยมือซ้าย ผู้เสียหายจึงดิ้นต่อสู้กอดปล้ำกับจำเลย จำเลยจึงไม่มีโอกาสเลือกแทง แต่แทงไปตามโอกาสที่จะอำนวยและไม่ได้ใช้กำลังแทงรุนแรงนัก ทั้งเมื่อจะแทงอีก ผู้เสียหายปัดมือ จำเลยจึงเปลี่ยนเป็นใช้ด้ามมีดกระแทกศีรษะผู้เสียหายแทน แสดงให้เห็นว่าไม่ต้องการแทงซ้ำ บาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับมีบาดแผลบวมช้ำฉีกขาดกลางศีรษะและบาดแผลฉีกขาดหลังมือซ้ายตัดเอ็นนิ้วนางและนิ้วก้อยขาด ส่วนบาดแผลที่บริเวณหน้าอกด้านขวาระดับซี่โครงที่ 6 ไม่ปรากฏขนาดของบาดแผล ไม่ทะลุเข้าไปในช่องอก แสดงว่าจำเลยไม่ได้แทงอย่างแรง กรณีจึงยังถือไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย คงมีเจตนาทำร้ายผู้เสียหายเท่านั้น

โดยคุณ มโนธรรม เจษฎาสาธุชน (สมาชิก) 17 ก.ย. 2555, 09:46

แสดงความเห็น