WebBoard :กฎหมาย|ไม่ได้ขายแต่บอกขาย

ไม่ได้ขายแต่บอกขาย

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

ไม่ได้ขายแต่บอกขาย

  • 241
  • 2
  • post on 8 ก.ย. 2562, 20:07

เมื่อช่วงเดือนก.ค.ที่ผ่านมามีหมายมาจากกองบังคับการปราบปรามยาเสพติดส่งมาที่บ้านแฟน เรียกย่าของแฟนไปเป็นพยานคดีที่ว่า ระบุเพียง แฟนได้หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการล่อซื้อยาเสพติดโดยร่วมกันกับพวก ไม่ระบุชื่อ ไม่ระบุว่ากี่คน โดยนัดหมายให้มาเป็นพยานในวันที่26ส.ค.2562

   เมื่อถึงวันดังกล่าว ในช่วงเช้าได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาในบ้าน เข้ามาเลยโดยที่ไม่มีบุคคลใดในบ้านเซ็นรับหมาย และได้มาเจอกับคนในบ้านแฟนซึ่งมีย่า และเพื่อนของแฟนที่แฟนพามาอยู่เพราะหลบหนีเงินกู้นอกระบบ

   แฟนเคยมีประวัติพัวพันกับยาเสพติดจริง โดยเคยถูกจับก่อนหน้านั้นมาหลายครั้ง แต่เมื่อพ้นโทษในช่วงสิ้นปีพ.ศ.2560 แฟนก็ไม่เคยยุ่งเกี่ยวอีกเลย ซึ่งเพื่อนแฟนคนที่ถูกจับกุมที่บ้าน เป็นคนนำยาเสพติดจากท้องที่เก่าของตัวเองมาจำหน่าย และตัวดิฉันก็มีความกลัว กลัวว่าแฟนจะถูกจับไปด้วย จึงได้พาแฟนมาอยู่กับดิฉันที่อพาร์ทเมนท์แถวจังหวัดนนทบุรี ในวันดังกล่าวนั้นเอง ช่วงประมาณ10.00น ดิฉันลงมาจากห้องเพื่อไปกับพี่แถวบ้านที่มารับจะไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ ได้มีรถเก๋งคันนึงขับปาดหน้ามาจอด ในระหว่างที่ดิฉันกำลังจะก้าวขาขึ้นรถ ได้เดินตรงมาที่ฉันและถามถึงชื่อแฟน ซึ่งดิฉันไม่รู้ และตกใจจึงพยักหน้าว่ารู้จัก ตำรวจจึงให้ดิฉันพาขึ้นไปบนห้อง

   เมื่อเข้ามาในห้อง ขณะนั้นแฟนอยู่ในห้องน้ำ ตำรวจขึ้นมาบนห้องทั้งหมด4นาย ได้ทำการตรวจค้น เจออุปกรณ์การเสพ ซึ่งยอมรับว่าแฟนเสพจริง ตำรวจหยิบถุงซิปที่มีไว้ใส่้ยาเสพติดเพื่อมาเสพนั้นขึ้นมาดู ซึ่งภายในถุงนั้นไม่มียาเสพติด เนื่องจากแฟนเสพหมดไปนานแล้ว จากนั้นก็ค้นหาต่อนานมาก และอยู่ๆเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกนาย ก็ชูถุงซิปขึ้นมาและบอกว่านี่ไงยาไอซ์ ซึ่งบริเวณที่ตำรวจหยิบนั้น ก็คือภายในกล่องที่ใส่อุปกรณ์การเสพ ที่ตำรวจนายแรกชูขึ้นมาและเป็นถุงเปล่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมแฟนตั้งข้อหาครอบครองยาเสพติด โดยส่งตัวให้สน.ท้องที่ของจังหวัดนนทบุรี ซึ่งดิฉันก็ได้พาย่าของแฟนไปที่สโมสรตำรวจเพื่อให้ย่าได้เป็นพยานตามที่หมายนัดในช่วงบ่าย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถามถึงแฟนเก่าของแฟนด้วย ว่าเบอร์โทรศัพท์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจให้สายลับล่อซื้อนั้น เป็นชื่อของแฟนเก่า และถามย่าแค่ว่า แฟนพักอยู่ที่บ้านหลังนี้มานานเท่าไหร่แล้ว โดยย่าก็ได้ตอบตามความจริงไปว่าอยู่มาตั้งแต่เกิด จากนั้นดิฉันก็ดำเนินการประกันตัวแฟนออกมาในข้อหามียาเสพติดไว้ในครองครองเป็นยาไอซ์ ซึ่งในระหว่างที่แฟนถูกควบคุมตัวที่โรงพักนั้น โดยปกติแล้วก่อนจะส่งตัวไปที่ศาล แฟนจะต้องถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้รับเรื่องนั้นสอบสวนก่อนว่าแฟนปฎิเสธหรือยอมรับ แต่ครั้งนี้กลับไม่มีการเรียกใดๆเลย เมื่อดิฉันได้ทำการเดินเรื่องประกันแฟนออกมา ไม่นานก็พบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมญาติห่างๆของแฟน โดยจับได้ที่บริเวณวัด และไม่พบยาเสพติดแต่อย่างใด โดยญาติแฟนคนนี้ในระหว่างถูกจับกุมไปแล้ว ไม่มีผู้ใดรู้เลยว่าถูกจับไปที่สน.ไหน ทั้งๆที่โทรศัพท์ก็อยู่ที่ตัวญาติคนนั้น ศึกษามาคร่าวๆก็เห็นว่้าเค้ามีสิทธิ์ที่จะโทรบอกญาติว่าถูกจับอยู่ที่ใด ต่อมารู้อีกทีคือญาติของแฟนส่งตัวเข้าเรือนจำไปแล้ว โดยถูกจับกุมเป็นคู่คดีกับแฟน ข้อหาร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่าย ซึ่งดิฉันงงมาก และเพิ่งมารู้ว่าวันที่เกิดเหตุในสำนวนญาติคนนั้น เป็นวันที่25ก.พ.2562 ซึ่งตัวดิฉันยืนยันเลยว่าแฟนดิฉันไม่ได้ไปขายยาที่บริเวณดังกล่าวอย่างแน่นอน เพราะตอนนั้นฉันกับแฟนเพิ่งคบกันและแฟนได้ออกจากบ้านมาหาดิฉันเมื่อวันที่18ก.พ. จนถึงวันที่25ก.พ.ซึ่งเป็นวันที่เกิดเหตุนั่นเอง ที่แฟนได้กลับไปที่บ้าน เพื่อมาเอาเสื้อผ้ามาอยู่กับดิฉัน แต่วันและเวลา่ดังวกล่าว ที่อ้างในสำนวนญาติคนนั้นระบุว่าได้ทำกา่รล่อซื้อในเวลา17.20น. ซึ่งในวันนั้นแฟนดิฉันมานั่งเล่น นอนเล่นกับดิฉันที่ร้านที่ฉันทำงานอยู่และมีพี่ๆที่ทำงานเป็นพยานยืนยันได้ว่า ณ วันนั้น แฟนดิฉันอยู่ที่ร้านจริง และดิฉันสามารถขอหลักฐานว่าในช่วงวันใกล้เคียงกัน ดิฉันได้มาเช่าห้องรายวันอยู่กับแฟนจริง โดยป้าแม่บ้านสามารถยืนยันได้ว่าแฟนแทบจะไม่เคยออกไปไหนเลย ซึ่งดิฉันก็สงสัยว่าในวันที่ตำรวจมาจับแฟนที่ห้องของดิฉันนั้น แน่นอนว่าจะต้องมีคนบอกว่าห้องดิฉันอยู่ที่ไหน และจะมีคนเดียวที่รู้คือเพื่อนของแฟนที่แฟนพามาอยู่ที่บ้าน ในวันนั้น ดิฉันได้ถามเจ้าหน้าที่ที่มาจับกุมว่าขอดูรายละเอียดได้หรือไม่ ว่าหมายจับที่ตำรวจกล่าวถึงนั้นมันคือวันที่เท่าไหร่ เหตุการณ์เป็นยังไงกันแน่ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกับไม่ยอมบอกรายละเอียด ทั้งๆที่ดิฉันถามหลายรอบมาก และกำลังสงสัยอีกว่า อยู่ๆจะมาจับกุมเลยหรอ ไม่เห็นมีหมายเรียกตัวแฟนให้ไปที่ศาลเลย และหากแฟนมีหมายจับจริง ทำไมในหมายนั้นไม่ระบุชื่อญาติลงไปด้วย เพราะสำนวนของญาติระบุชื่อแฟนชัดเจน ส่วนญาติคนนั้นมีแค่เพียง ชื่อเล่นและระบุว่าไม่ทราบชื่อและนามสกุล และแฟนไม่ได้หนีการจับกุมเลยแม่้แต่น้อย ยังไม่รู้ตัวเลยว่าไปหนีตอนไหน แต่หากกล่าวถึงข้อความที่ตำรวจอ้างว่ามีข้อความการแชทซื้อขายของแฟนนั้น จะเป็นแฟนเก่าของแฟนที่เป็นคนขายโดยใช้เฟสบุคแฟนเล่นซะส่วนใหญ่ โดยเฟสบุคนั้น แอพพลิเคชั่นเมสเซนเจอร์สามารถเปิดซ้อนกันได้ และระหว่างนั้น แฟนดิฉันได้สมัครเหสบุคใหม่อีกอันนึง เพราะดิฉันไม่พอใจที่แฟนเก่าชอบเข้ามาวุ่นวายกับเฟสบุคแฟนตัวเอง และดิฉันมีพยานอีกหนึ่งคนซึ่งถูกตำรวจจับกุมส่งตัวเข้าเรือนจำไปแล้วซึ่งผู้หญิงคนนั้นสามารถยืนยันได้ว่ายาเสพติดที่ตัวเองถูกจับตั้งข้อหานั้น เป็นยาเสพติดของแฟนเก่า ในขณะนั้นแฟนของดิฉันยังถูกควบคุมตัวในคดีครอบครองยาเสพติดอยู่โดยได้รับการเพิ่มโทษในการกระทำผิดซ้ำซาก

     ดิฉันอยากสู้คดีให้ถึงที่สุดค่ะ เพราะตามหลักแล้วคนที่เคยต้องโทษมาก่อน ศาลอาจมองไม่เห็นน้ำหนักที่จะน่าเชื่อถือ แต่หากศาลมองในมุมกลับ ว่าคนเรามันจะไม่มีทางคิดได้เลยหรือ ศาลคงจะเข้าใจค่ะ

โดยคุณ ด ญ ปอม (172.68.xxx.xxx) 8 ก.ย. 2562, 20:07

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 2

ขอบพระคุณมากค่ะท่าน

แต่หนูอยากรู้รายละเอียดว่า หนูจะต้องหาหลักฐานอะไรบ้างเพื่อช่วยทนายในการต่อสู้คดี เพราะตั้งใจจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

โดยคุณ ด ญ ปอม 11 ก.ย. 2562, 02:53

ความคิดเห็นที่ 1

ปัญหาข้อเท็จจริง


  เรื่องที่คุณเล่ามา  เป็นข้อเท็จจริง  คงต้องมีการสืบพยาน หรือมีพยานประกอบคำกล่าวอ้าง  ให้มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ  ในเมื่อถูกดำเนินคดี  ถ้าจะต่อสู้คดี ก็เป็นสิทธิที่สามารถทำได้  แต่ควรมีทนายความช่วยเหลือ อย่างจริงจัง  หรือแจ้งศาลให้จัดหาทนายความให้ก็ได้...

โดยคุณ มโนธรรม เจษฎาสาธุชน 9 ก.ย. 2562, 09:15

แสดงความเห็น