ด้วยข้าพเจ้ามีปัญหาเรื่องการขอรับเงินฌาปนกิจของมารดาซึ่งเป็นสมาชิกของฌาปนกิจกองทัพบก กรมสวัสดิการทหารบก โดยบิดา-มารดาของข้าพเจ้าเป็นสมาชิกของสถานฌาปนกิจดังกล่าวข้างต้น และม่บุตร-ธิดาด้วยกันรวม ๓ คน โดยต่างคนต่างมอบผลประโยชน์หลังการตายไว้ให้ซึ่งกันและกัน ต่อมาบิดาได้ถึงแก่กรรมลงก่อนเมื่อปีเดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๕๙ มารดาโดยน้องสาวของข้าพเจ้าเป็นผู้รับมอบอำนาจจากมารดาได้ไปขอรับเงินฌาปนกิจของบิดาและจัดการของศพบิดาจนเสร็จสิ้น ต่อมาเมื่อเดือนตุลาคา ๒๕๖๑ มารดาของข้าพเจ้าได้เสียชีวิตลง และหลังจากจัดการเรื่องงานศพเสร็จเรียบร้อยแล้ว ข้าพเจ้าซึ่งศาลได้มีคำสั่งให้เป็นผู้จัดการมรดกเรื่องที่ดิน และทรัพย์สินอื่นๆของบิดา(ถ้ามี) ได้ไปยื่นขอรับเงินฌาปนกิจของมารดา ซึ่งมีชื่อบิดาของข้าพเจ้าเป็นผู้รับผลประโยชน์ แต่สถานฌาปนกิจกองทัพบกไม่ยินยอมจ่ายเงิน โดยอ้างระเบียบฯ ของตนว่า "เงินฌาปนกิจของมารดา ซึ่งมีชื่อบิดาของข้าพเจ้าเป็นผู้รับประโยชน์ไม่ถือว่าเป็นมรดก เพราะเป็นการจัดการช่วยเหลือกันในระหว่างสมาชิกที่ประกอบอาชีพเดียวกัน??" และยังอ้างระเบียบฯของตนเองอีกว่า "ถึงแม้ว่าบิดาของข้าพเจ้าและเป็นสามีของมารดา มีชื่อเป็นผู้รับประโยชน์ก็จริง แต่บิดาได้ตายไปก่อนมารดา และมารดาไม่ได้ไปแจ้งเปลี่ยนผู้รับประโยชน์คนใหม่ภายในสามสิบวัน" สถานฌาปนกิจกองทัพบกถือว่า ไม่มีผู้รับประโยชน์ ให้ถือใช้ระเบียบข้อที่เกี่ยวข้องคือให้ดำเนินการสอบสวนทายาททั้งหมดของบิดา-มารดา ว่าเป็นทายาทจริงจากที่ทำการเขตภูมิลำเนา จึงจะทำการจ่ายเงินทั้งหมดให้ โดยหักค่าใช้จ่ายในการจัดการศพของทายาทแต่ละคนถ้ามี หรือปฏิเสธว่าไม่มี-ไม่รับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น จึงจะจ่ายเงินโดยแบ่งส่วนที่เหลือให้เท่าๆกัน
ประเด็นปัญหาคือ ๑) เงินฌาปนกิจจำนวนนี้ เป็นมรดกหรือไม่?
๒) ผู้จัดการมรดกตามคำสั่งสาลแพ่ง มีอำนาจขอรับเงินจำนวนนี้ไหม เพื่อนำมาจัดแบ่งตามหน้าที่ของผู้จัดการมรดก?
จึงเรียนรบกวนขอถามปัญหานี้ เพื่อจะขอรับคำวินิจฉัยชี้แจง และหาทางแก้ไขต่อไปด้วยครับ??
ขอขอบคุณ และด้วยความเคารพครับ/วันชัย