WebBoard :กฎหมาย|ขอคำแนะนำด้วยค่ะ.. (ไม่มีที่พึ่งแล้ว)

ขอคำแนะนำด้วยค่ะ.. (ไม่มีที่พึ่งแล้ว)

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

ขอคำแนะนำด้วยค่ะ.. (ไม่มีที่พึ่งแล้ว)

  • 1459
  • 4
  • post on 2 มิ.ย. 2560, 13:56

เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 60 เวลา 17.30 น. ที่ผ่านมานั้น แฟนดิฉันขณะขับมอไซด์กำลังจะกลับบ้าน วิ่งอยู่เลนส์ซ้ายตามปกติ อยุ่ๆ ก็มีรถกะบะออกมาจากซอยตัดหน้ารถแฟนฉัน ทำให้ต้องเบรกอย่างกระทันหัน และได้เสียหลักล้มลงได้รับบาดเจ็บ ต้องนอนอยู่ที่โรงพยาบาล 1 คืน  ค่ารักษาพยาบาลรวม 13,010.- บาท พรบ.ออกค่ารักษาให้ 11,000.- บาท ดีที่แฟนมีประกันอุบัติเหตุของบัตร เอทีเอ็ม ธ.กสิกรไทย เลยใช้บัตรนั้นออกค่ารักษาพยาบาลเพิ่มอีด 2,010.- บาท (ถ้าไม่มีประกัน ฉังก็คงต้องออกค่ารักษาเอง)  ส่วนรถมอไซด์ พัง ได้รับความเสียหายหลายจุดจนขับไม่ได้ จากนั้นดิฉันเลยได้ไปแจ้งความที่ สน. ในวันที่เกิดเหตุเลย เวลา 22.00 น. ตำรวจผู้รับแจ้งความ สรุปว่าฝ่ายผู้ขับกะบะเป็นฝ่ายผิด ตำรวจให้ฉันกับคู่กรณี ตกลงกันเรื่องค่าซ่อมรถของฉัน  ฝ่ายคู่กรณีแจ้งว่า รถของเค้านั้นไม่มีประกัน จะยอมจ่ายค่าซ่อมรถให้ในราคา 12,000.- บาท แต่ฉันไม่ตกลง เพราะรู้ว่าค่าซ่อมต้องแพงกว่านั้นแน่ๆ ดูจากสภาพรถแล้ว 


พอแฟนออกจากโรงพยาบาล 18พ.ค. 60 เวลา 15.00 น. หมอให้กลับมานอนรักษาตัวที่บ้าน รวม 5 วัน (ซึ่งขณะนอนอยุ่ที่โรงพยาบาลนั้น คู่กรณีไม่เคยมาเยี่ยมหรือโทรมาสอบถามอาการเลย) 

วันเสาร์ที่ 20 พ.ค. 60 ฉันได้นัดคู่กรณี ไปที่ศูนย์ซ่อมรถ ปรากฎว่า ศูนย์ตีราคาค่าซ่อมมา 28,370.- บาท ทางคู่กรณีดูรายการที่จะต้องซ่อมแล้ว ให้ฉันออกค่าซ่อมเอง 3 รายการ เป็นเงิน สามพันกว่าบาท ดิฉันก็ตกลง เพราะอยากจะให้เรื่องจบๆ  ทางคู่กรณีจึงได้นัดกับทางศูนย์ซ่อมว่าจะมาจ่ายเงินให้ในวัน จ.ที่ 22 พ.ค. 60 แค่คู่กรณีก็ผิดนัด ฉันได้โทรตามตั้งแต่วัน จันทร์ - อังคาร และพุธ ทางคู่กรณีมาชำระเงินให้ในวัน พุธ ที่24 พ.ค. 60 เวลา 18.00 น. (ร้านใกล้จะปิดแล้ว) แต่ชำระแค่ครึ่งเดียว 13,000.- บาท และตกลงกับทางศูนย์ซ่อมว่า ถ้าซ่อมรถเสร็จจะมาจ่ายส่วนที่เหลือให้ครบ


เมื่อวัน จ.ที่ 29 พ.ค.60 ทางศูนย์ซ่อมได้โทรมาแจ้งกับทางฉันว่า รถได้ซ่อมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ยอดรวมค่าซ่อมรถทั้งหมด 24,600.- บาท และทางศูนย์ซ่อมก็ได้โทรแจ้งไปยังคู่กรณีเรียบร้อยแล้วด้วย ทางคู่กรณ๊แจ้งว่า จะนำเงินมาจ่ายให้ในวัน จ.29 พ.ค.60  แต่คู่กรณีไม่มาตามที่ได้นัดไว้ ทางศูนย์ซ่อม จึงได้โทรให้ฉันเป็นผู้ติดต่อกับคู่กรณี  ฉันได้โทรตามอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่รับสาย โทรจนคู่กรณ๊รับสายเมื่อวันที่ 31 พ.ค.60 เวลา 14.10 น. แต่เขาพูดมาว่า พี่ยุ่งอยู่ยังไม่ว่าง เด๊ะจะโทรกลับ ...ฉันรอ รอคู่กรณ๊โทรกลับ จนเวลา 18.00น. ก็ยังไม่โทรมาซักที ดิฉันจึงส่งข้อความไปหาคู่กรณีว่า รถซ่อมเสร็จมา 2 วันแล้ว ตำลงจะยังไงดีค่ะ พี่จะมาจ่ายค่าซ่อมรึป่าว เพราะฉันเดือดร้อนมาก ไม่มีรถใช้ไปทำงาน ต้องเสียเงินค่่าเดินทาง ต้องเสียทั้งเวลา  แต่คู่กรณีก็ไม่อ่าน จนข้ามวันเป้นวันที่ 1 มิ.ย. 60 เวลา 6.38 น. ทางคู่กรณีส่งข้อความตอบกลับมาว่า "ทำไมผมต้องรับผิดชอบเต็ม 100% ด้วย อยากรู้เหมือนกันว่าจะเป็นยังไง ถ้าไม่พอใจก็ไปแจ้งที่ สน. ได้เลย" จนมาถึงวันนี้คู่กรณีก็ยังไม่รับสาย เอาเบอร์ที่ทำงานโทร เค้าก็ไม่รับ ทางศูนย์ซ่อมโทรไป เค้าก็ไม่รับ 


แบบนี้ เรียกว่าหนี รึป่าวค่ะ ???


เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.60 ดิฉันได้ไปที่ สน. ติดต่อกับทางตำรวจเป็นเจ้าของคดี ทางตำรวจแจ้งว่า จะออกหมายเรียกตัวให้ แต่ต้องใช้เวลา 30 วัน ดิฉันเลยามกลับไปว่า ถ้าเรียกตัวมาแล้ว ให้ทางคู่กรณีจ่ายค่าซ่อมรถส่วนที่เหลือเลยได้ไหม  แต่ตำรวจกลับตอบว่า  ออกหมายเรียก ก็แค่เรียกให้เค้ามาเสียค่าปรับ 400.- บาท ส่วนเรื่องค่าเสียหาย ตำรวจไม่มีอำนาจที่จะบอกให้เค้าจ่ายเงินได้ คุณต้องไปตกลงกันเอง   ดิฉันเลยถามกลับว่า ถ้าฉันขอฟ้องละ ตำรวจตอบ "เงินแค่หมื่นกว่าบาท ถ้าคุณไม่อยากเสียรถ คุณก็ไปจ่ายเถอะ ถ้าจะฟ้องมันได้ไม่คุ้มเสียหรอกนะ"  ดิฉัน อึ้ง กับคำพูดของตำรวจมาก มีคำถามอยู่ในใจว่า แบบนี้คนทำผิดก็รอดซิ แล้วจะมีกฎหมายไว้เพื่ออะไร เพราะตำรวจไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย แต่เราเปนฝ่ายเสียหาย เราทั้งเจ็บตัว รถพัง หยุดงานก็โดนหักเงิน เสียเวลา แล้วยังจะต้องมาเสียเงินค่าซ่อมรถ เป็นหมื่น ทั้งๆที่เราไม่ได้ผิดเลยนะ


ดิฉัน ขอสอบถามผู้รู้ และขอคำแนะนำด้วยเถอะค่ะ  ว่าดิฉันจะต้องทำอย่างไรต่อไป (ดิฉันไม่มีที่พึ่งแล้ว)


ปล. ให้ฉันออกค่าซ่อมเอง 3 รายการ ก็ตกลงออกแล้ว แต่นี่ยังมาเบี้ยวจ่ายค่าซ่อมส่วนที่เหลืออีก 

คนไทยด้วยกัน ไม่น่ามาทำกันแบบนี้เร้ยยยยย


โดยคุณ บุษกร ปุ้นปุ้น (125.25.xxx.xxx) 2 มิ.ย. 2560, 13:56

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 4

ดิฉันโดนคดีมีไว้ครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ยยาบ้า30เม็ดและเงินล่อซื้ออีก800บาทประกันตัวออกมาแล้วรอศาลตัดสินจะต้องมีโทษประมาณไหนและลดโทษโดยไม่ติดคุกได้ไหมคะ


โดยคุณ ลินดา 27 มิ.ย. 2560, 21:21

ตอบความคิดเห็นที่ 4

กรณีตามปัญหา   พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522  มาตรา 66 บัญญัติว่า “ผู้ใดจำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 โดยไม่ได้รับอนุญาตและมีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ หรือมีจำนวนหน่วยการใช้ หรือมีน้ำหนักสุทธิไม่ถึงปริมาณที่กำหนดตามมาตรา 15 วรรคสาม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงสิบห้าปี หรือปรับตั้งแต่แปดหมื่นบาทถึงสามแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”  หากจำเลยให้การรับสารภาพว่ากระทำความผิดจริง ศาลอาจใช้ดุลพินิจลดโทษให้กึ่งหนึ่งได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 

โดยคุณ ทีมงานทนายคลายทุกข์ 20 ก.ค. 2560, 15:48

ความคิดเห็นที่ 3

ค่าสินไหมทดแทน


  กฏหมายก็เปิดโอกาสให้ฟ้องร้องได้  ฟ้องเป็นคดีมโนสาเร่ก็ได้ ซึ่งมีค่าใข้จ่ายน้อย..."กฎหมายไม่ใช่ความยุติธรรม   แต่เป็นบทบัญญัติที่ตราไว้เพื่อรักษาความยุติธรรมเท่านั้น"  นานาอารยะประเทศทั้งหลาย  ก็ได้พยายามตรากฎหมายออกมามากมาย เพื่อผดุงความยุติธรรม  แต่ความยุติธรรมที่แท้จริงคืออะไร อยู่ที่ไหน ก็ยังไม่มีใครพบพานหน้าตาที่แท้จริง ครับ

โดยคุณ มโนธรรม เจษฎาสาธุชน 4 มิ.ย. 2560, 15:35

ความคิดเห็นที่ 2

แล้วแบบนี้ คนทำผิดก็รอดซิค่ะ .. แบบนี้ กฎหมายทำอะไรคนผิดไม่ได้เลยหรอค่ะ.. 

อะไรก็ไม่ได้ กลับมาเจ้บตัว แถมต้องมาเสียตังค่าซ่อมรถเองอีก .. แบบนี้ถูกต้องหรอค่ะ 

ทั้งๆที่เราไม่ได้เรียกร้องอะไรมากมายเลย ขอแค่ให้คู่กรณี จ่ายค่าซ่อมรถให้ครบตามจำนวนที่ซ่อมจริง ... แต่นี่ เค้าผิดสันยา แล้วไปรับปากบอกที่ศูนย์ซ่อมรถทำไม ว่าจะมาจ่ายให้ในวันที่ซ่อมรถเสร็จล่ะค่ะ

โดยคุณ บุษกร ปุ้นปุ้น 3 มิ.ย. 2560, 10:53

ความคิดเห็นที่ 1

อุบัติเหตุ


  ในเมื่อแฟนของคุณไม่ถึงบาดเจ็บสาหัส ก็ไม่มีโทษทางอาญา  คู่กรณีก็เพียงรับผิดทางแพ่ง  คือชดใช้ค่าเสียหายต่างๆ ตามที่ฝ่ายคุณจ่ายจริง  แต่เป็นเรื่องทางแพ่งต้องใช้การเจรจาตกลงกันเท่านั้น  ถ้าตกลงกันไม่ได้ ก็ต้องฟ้องศาล ซึ่งน่าจะไม่คุ้ม  ตำรวจเขาบอกนั้นถูกต้องแล้ว  คือฟังดูอาจไม่เพราะหูนัก คือไม่ถูกใจ   แต่ตามกฎหมายตำรวจก็ไม่อำนาจไปบังคับให้เขาจ่ายเงินได้ ตำรวจทำได้เพียง ปรับตาม พรบ.จราจรฯ เท่านั้น... แม้ฟ้องศาล   ถ้าศาลให้ใช้หนี้ตามที่ถูกฟ้อง ก็ใช่ว่าจะได้รับการชดใช้ทันที  ถ้าเขาไม่ชดใช้ ต้องขอหมายบังคับคดี ไปยึดทรัพย์ของเขาไปขายทอดตลาดเพื่อใช้หนี้ ตามคำพิพากษา ซึ่งจะมีขั้นตอนยาวนานขึ้นไปอีก การที่เขาใช้ให้ 13,000  บาท แม้ไม่คุ้ม ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย ด้วยความปรารถนาดี ครับ

โดยคุณ มโนธรรม เจษฎาสาธุชน 2 มิ.ย. 2560, 16:38

แสดงความเห็น