ศาลสั่งจำคุกทันทีไม่รอลงอาญา 5 ผู้ค้าโขกราคา'แมสก์'!
เกี่ยวกับกรณีตามข่าวที่มีการขายหน้ากากอนามัยซึ่งเป็นสินค้าควบคุมเกินราคาปกติอย่างมาก เช่น 50 ชิ้น 700 บาท หรือสูงกว่านั้น การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดกฎหมาย ซึ่งมีโทษจำคุกและโทษปรับ เมื่อวันที่ 19 มีนาคม ที่ผ่านมา ศาลอาญาได้พิพากษาลงโทษจำคุกและปรับบุคคลที่ขายหน้ากากอนามัยเกินราคาจำนวน 7 ราย โดยโทษจำคุกและปรับมากน้อยไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับจำนวนหน้ากากอนามัยที่อยู่ในความครอบครองและพฤติการณ์ในการกระทำความผิดว่าร้ายแรงเพียงใด แต่ส่วนใหญ่ศาลพิพากษาให้ลงโทษจำคุกโดยไม่รอการลงโทษให้ เนื่องจากเห็นว่าเป็นพฤติการณ์ร้ายแรง สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนโดยส่วนรวม
เนื้อหาข่าว
เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานอัยการคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 ได้นำตัว น.ส.ณัปอิศรา ขอสุข, นายพงษ์พันธ์ โสมสุด, น.ส.น้ำฝน เอยศิริ, น.ส.อุมาพร มั่นคง, น.ส.นิศรา มหาเรือนขวัญ, นางทัศพร ฉันทนาภิธาน และ น.ส.ตาว ตรีเทวี มายื่นฟ้องต่อศาลเป็นจำเลย ในความผิดฐานจำหน่ายหน้ากากอนามัยซึ่งเป็นสินค้าควบคุมในราคาสูงเกินสมควร หรือทำให้ปั่นป่วนซึ่งราคาของสินค้า ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มาตรา 29, 40 สืบเนื่องจากช่วงบ่ายที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) นำสำนวนคดีของผู้ต้องหาทั้ง 7 กรณีขายหน้ากากอนามัยเกินราคาควบคุมตามกฎหมาย มาให้อัยการพิจารณาและนำตัวส่งฟ้องเป็นจำเลยต่อศาล
อัยการได้แยกฟ้องจำเลยคนละสำนวน รวม 7 สำนวน ศาลสอบคำให้การจำเลยทั้งหมดแล้ว จำเลยให้การรับสารภาพทั้งหมด ซึ่ง น.ส.อุมาพร มีหน้ากากอนามัยสีเขียวไว้ในครอบครองและจำหน่ายเกินราคา จำนวน 4 พันชิ้น ศาลพิพากษาจำคุก 3 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี 6 เดือน, น.ส.ตาว มีหน้ากากอนามัย จำนวน 750 ชิ้น พิพากษาจำคุก 2 ปี ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี, น.ส.น้ำฝน มีหน้ากากอนามัย จำนวน 125 ชิ้น, นายพงษ์พันธ์ มีหน้ากากอนามัย จำนวน 150 ชิ้น และ น.ส.ณัปอิศรา มีหน้ากากอนามัย จำนวน 150 ชิ้น พิพากษาจำคุก 1 ปี ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยทั้งสามคนละ 6 เดือน
ศาลพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นว่า จำเลยทั้ง 5 มีการกระทำอันเป็นการฉกฉวยโอกาสที่โรคไวรัสโควิด-19 อุบัติร้ายแรงแพร่ระบาดไปทั่วโลก บุคคลากรทางแพทย์และประชาชนมีความจำเป็นต้องใช้หน้ากากอนามัย สร้างความเดือดร้อนไปทั่ว แต่จำเลยทั้ง 5 กลับจำหน่ายหน้ากากอนามัยเกินราคาควบคุมที่กฎหมายกำหนดไว้ จึงเห็นสมควรไม่รอการลงโทษจำเลยทั้ง 5 ส่วน นางทัศพร มีหน้ากากอนามัย จำนวน 50 ชิ้น และ น.ส.นิศรา มีหน้ากากอนามัย จำนวน 8 ชิ้น พิพากษาจำคุกคนละ 1 ปี ปรับคนละ 5 หมื่นบาท ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยคนละ 6 เดือน ปรับคนละ 25,000 บาท พิเคราะห์พฤติการณ์จำเลยทั้งสองมีของกลางปริมาณน้อย และไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนดคนละ 2 ปี ทางเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัวจำเลย 5 คน ที่ศาลไม่รอการลงโทษไปคุมขังไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลางต่อไป
ที่มา : https://www.dailynews.co.th/crime/763850?fbclid=IwAR3hyCwHL3xyMWBA5O9KS_6Bkvr4ZPIeeCKKq8-kiza7ErrpPFx-JUiQUag
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
พระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการพ.ศ. 2542
มาตรา 29 ห้ามมิให้ผู้ประกอบธุรกิจดำเนินการใด ๆ โดยจงใจที่จะทำให้ราคาต่ำเกินสมควร หรือสูงเกินสมควร หรือทำให้เกิดความปั่นป่วนซึ่งราคาของสินค้าหรือบริการใด
คณะกรรมการอาจกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการที่ถือว่าเป็นการทำให้ราคาต่ำเกินสมควร หรือสูงเกินสมควร หรือทำให้ปั่นป่วนซึ่งราคาของสินค้าหรือบริการใดก็ได้ หลักเกณฑ์และวิธีการดังกล่าวให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
มาตรา 41 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 29 มาตรา 30 หรือมาตรา 31 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ