เมื่อวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 00.00 นาฬิกา รองสารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบางกรวย

บทความวันที่ 17 มี.ค. 2563, 11:45

มีผู้อ่านทั้งหมด 1028 ครั้ง

เมียโดน "ผช.ผญบ." ด่าเรื่องหมา ผัวทนไม่ได้ปืนจ่อยิงดับ

    เมื่อวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 00.00 นาฬิกา รองสารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบางกรวย จังหวัดนนทบุรี รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิต จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่ป่อเต็กตึ้ง ที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิตทราบว่าเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ตำบลบางขุนกอง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี มีแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนข้าที่ลำตัว 9 นัด นอนจมกองเลือดเสียชีวิต ผู้ก่อเหตุคือผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ช่างไฟฟ้าองค์การบริหารส่วนตำบลบางขุนกอง รอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. ที่ใช้ก่อนเหตุ
    ผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพว่า เป็นคนก่อเหตุเนื่องจากผู้ตาชอบเลี้ยงสุนัขไว้หลายตัว และปล่อยออกจากกัดสุนัขที่บ้านตนเลี้ยงไว้ ซึ่งอยู่ตรงข้ามบ้านกัน จนมีปากเสียงทะเลากันหลายครั้ง ในวันเกิดเหตุ ตนกับภรรยากลับมาถึงบ้านขณะนั้นมีสุนัขไล่กัดกันอยู่ แฟนตนจึงพูดขึ้นว่า "..ไม่หลับไม่นอนบ้านไม่มีบ้านอยู่หรือไง" ซึ่งขณะนั้นคนตายจอดรถนอนอยู่ริมถนนพอดี จึงลงจากรถมาด่าทอใส่ตนกับแฟน ด้วยความโมโหตนจึงวิ่งเข้าไปหยิบปืนในบ้านออกมายิงใส่ผู้ตายจนเสียชีวิตและรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
ที่มา : www.dailynews.co.th

ตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 72  ผู้ใดบันดาลโทสะโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จึงกระทำความผิดต่อผู้ข่มเหงในขณะนั้น ศาลจะลงโทษผู้นั้นน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้
มาตรา 288  ผู้ใดฆ่าผู้อื่น ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี

ตัวอย่างคำพิพากษาศาลฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2770/2544
            ผู้เสียหายตะโกนด่าถึงมารดาจำเลยว่ามารดาจำเลยเป็นโสเภณีและถึงแก่กรรมด้วยโรคเอดส์ เป็นการกล่าวหาว่ามารดาจำเลยสำส่อนทางเพศ ถือว่าเป็นการข่มเหงจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรม การที่จำเลยตบหน้าผู้เสียหาย2 ครั้ง ในขณะนั้นจึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ ซึ่งศาลฎีกาลงโทษจำเลยตามที่พิจารณาได้ความได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคท้ายประกอบด้วยมาตรา 215 และมาตรา 225