นายจ้างลวงลูกจ้างเข้าไปข่มขืน |นายจ้างลวงลูกจ้างเข้าไปข่มขืน

นายจ้างลวงลูกจ้างเข้าไปข่มขืน

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

นายจ้างลวงลูกจ้างเข้าไปข่มขืน

คดีนี้เป็นคดีดังที่ลงข่าวในหนังสือพิมพ์หลายฉบับ ซึ่งผู้ตายเป็นผู้สมัคร สส.พรรคการเมืองที่ประจวบ ถูกฆ่าตายในเกตเฮ้าส์ หลังจากฆ่าผู้ตายแล้ว ผู้ต้องหาซึ่งเป็นหญิงสาววัย 18 ปี

บทความวันที่ 6 ธ.ค. 2550, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 1808 ครั้ง


สาวมือฆ่า ผู้สมัครสส

                                               

                                                                           นายจ้างลวงลูกจ้างเข้าไปข่มขืน

 

                         คดีนี้เป็นคดีดังที่ลงข่าวในหนังสือพิมพ์หลายฉบับ ซึ่งผู้ตายเป็นผู้สมัคร สส.พรรคการเมืองที่ประจวบ ถูกฆ่าตายในเกตเฮ้าส์ หลังจากฆ่าผู้ตายแล้ว ผู้ต้องหาซึ่งเป็นหญิงสาววัย 18 ปี ได้หลบหนีไป และได้เข้ามามอบตัว ทนายคลายทุกข์จึงขอนำคดีนี้ที่มีข่าวลงไว้ในข่าวสดมาวิเคราะห์ข้อกฎหมายให้ความรู้กับประชาชนดังนี้คือ

 

1.   คดีนี้ถ้าหญิงสาวพิสูจน์ได้ว่า ผู้ตายซึ่งเป็นนายจ้างพยายามจะข่มขืนกระทำชำเรา ซึ่งการเสียสาวถือเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับผู้หญิง ถ้าหญิงสาวคนนี้ได้ฆ่าผู้ตายโดยทันทีทันใดเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกข่มขืน ตาม ป.อ.มาตรา 68 การกระทำของหญิงสาวคนนี้ไม่มีความผิด เนื่องจากเป็นการป้องกันสิทธิของตนเอง

 

2.   แต่ถ้าเป็นกรณีที่หญิงสาวคนนี้ไปฆ่าผู้ตายเพื่อหวังชิงทรัพย์ก็จะมีความผิด ตาม ป.อ.มาตรา 288  และ มาตรา 339 ซึ่งมีโทษถึงขั้นประหารชีวิต

 

3.   การต่อสู้คดีนี้จะหาพยานหลักฐานยากสักหน่อย เนื่องจากมีคนสองคนอยู่กันในห้องของเกตส์เฮ้าส์ การสืบพยานในชั้นศาลคงต้องเน้นพยานแวดล้อมก่อนและหลังเกิดเหตุรวมทั้งพยานวัตถุที่พบในที่เกิดเหตุและพฤติการณ์ในการกระทำความผิดเป็นสำคัญ

 

4.   ผลคดีนี้ มีโอกาสชนะและแพ้เท่ากันไม่มีใครเป็นต่อ ขึ้นอยู่กับฝีมือของทนายในการเตรียมคดีและหาพยานหลักฐาน

 

ตัวบทกฎหมายอ้างอิง

ประมวลกฎหมายอาญา

        มาตรา 68 ผู้ใดจำต้องกระทำการใดเพื่อป้องกันสิทธิของตนหรือของผู้อื่น ให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อ กฎหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง ถ้าได้กระทำพอสมควร แก่เหตุ การกระทำนั้นเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้น ไม่มีความผิด

 

        มาตรา 288 ผู้ใดฆ่าผู้อื่น ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุก ตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี

 

        มาตรา 339 ผู้ใดลักทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่า ในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อ
(1)
ให้ความสะดวกแก่การลักทรัพย์หรือการพาทรัพย์นั้นไป
(2)
ให้ยื่นให้ซึ่งทรัพย์นั้น
(3)
ยึดถือเอาทรัพย์นั้นไว้
(4)
ปกปิดการกระทำความผิดนั้น หรือ
(5)
ให้พ้นจากการจับกุม


ผู้นั้นกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปี ถึงสิบปีและปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงสองหมื่นบาท


ถ้าความผิดนั้นเป็นการกระทำที่ประกอบด้วยลักษณะดังที่บัญญัติไว้ ในอนุ มาตรา หนึ่งอนุ มาตรา แห่ง มาตรา 335 หรือเป็นการกระทำต่อ ทรัพย์ที่เป็นโค กระบือ เครื่องกลหรือเครื่องจักร ที่ผู้มีอาชีพกสิกรรม มีไว้สำหรับประกอบกสิกรรม ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ สิบปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสามหมื่นบาท


ถ้าการชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่ สองหมื่นบาทถึงสี่หมื่นบาท
           

            ถ้าการชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส ผู้กระทำต้อง ระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สามหมื่นบาท ถึงสี่หมื่นบาท


ถ้าการชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้อง ระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต


หมายเหตุ แก้ไขโดย พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 5 พ.ศ. 2525)
มาตรา 339 ทวิ ถ้าการชิงทรัพย์ได้กระทำต่อทรัพย์ตาม มาตรา 335 ทวิ วรรคแรก ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสามหมื่นบาท

 

ถ้าการชิงทรัพย์นั้นเป็นการกระทำในสถานที่ดังที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 335 ทวิ วรรคสองด้วย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึง ยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสี่หมื่นบาท


ถ้าการชิงทรัพย์ตามวรรคแรกหรือวรรคสองเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับ อันตรายแก่กายหรือจิตใจ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบห้าปี ถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สามหมื่นบาทถึงสี่หมื่นบาท


ถ้าการชิงทรัพย์ตามวรรคแรกหรือวรรคสองเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับ อันตรายสาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุก ตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี


ถ้าการชิงทรัพย์ตามวรรคแรก หรือวรรคสองเป็นเหตุให้ผู้อื่น ถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิต

เนื้อหาข่าวนำมาประกอบเพื่อให้ประชาชนได้รับความรู้

 

                มอบตัวแล้วสาววัย 18 ปี มือฆ่าผู้สมัครส.ส.ประจวบฯ ตายคาห้องพักเกสต์เฮาส์ ที่แท้เป็นลูกจ้างในไร่ ถูกผู้ตายซึ่งเป็นนายจ้างตามจีบบ่อยๆ แถมยังเที่ยวไปปล่อยข่าวว่าเคยได้เสียกันแล้ว วันเกิดเหตุโดนหลอกพาเข้าไปปลุกปล้ำในโรงแรม เลยยิ่งแค้น ออกอุบายเล้าโลมจนตายใจ ใช้ผ้าปิดตา หลอกให้นอนคว่ำ ใช้ค้อนทุบและมีดแทงซ้ำจนแน่นิ่ง ฉวยทรัพย์สินหลบหนีเพื่ออำพรางเป็นคดีฆ่าชิงทรัพย์ ยืนยันฆ่าเพราะความแค้นส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง

 

            เวลา 16.00 น. วันที่ 5 ธ.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ รอง ผบ.ตร.(สป) พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.ภ.7 และพล.ต.ท.ระพีพัฒน์ ปาละวงศ์ ผบช.ส. ร่วมกันแถลงข่าวคดีนายสุพจน์ พิสูตรเสียง ผู้สมัครเลือกตั้งส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ หมายเลข 13 พรรคประชามติ

 

            ถูกฆ่าชิงทรัพย์ภายในเบญจวรรณเกสต์เฮาส์ ม.5 ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่าหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางสะพาน เจ้าของคดี ได้สืบสวนสอบสวนจนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือน.ส.ยุวดี ต่วนศิริ หรือตุ๊กตา อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/5 ม.3 ต.ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์

 

            จึงขออนุมัติศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ออกหมายจับเลขที่ จ.1105/2550 ลงวันที่ 4 ธ.ค. ผู้ต้องหาถูกกดดันจึงติดต่อขอมอบตัวกับตำรวจส่วนกลาง จากการสอบสวนให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ฆ่านายสุพจน์จริง จึงตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

 

            น.ส.ยุวดีเปิดเผยว่า ตนเองเป็นลูกจ้างชั่วคราวเข้ามาทำงานที่ไร่ของนายสุพจน์ได้ประมาณ 2 ปี โดยผู้ตายมักจะพูดจาจีบตนอยู่เสมอ และมักจะบอกคนอื่นในที่ทำงานว่าเคยได้เสียกับตนแล้ว ทำให้ตนเสียหาย จนแฟนหนุ่มที่มีโครงการจะแต่งงานกันเกิดความหวาดระแวง

 

            กระทั่งวันเกิดเหตุ เวลาประมาณ 09.00 น. ผู้ตายโทร.มาหาบอกว่ามีงานด่วนพิเศษให้ทำ โดยพาตนนั่งรถไปด้วยแต่ปรากฏว่าผู้ตายพาเข้าเกสต์เฮาส์ และพยายามปลุกปล้ำถอดเสื้อผ้าตนออก ตนสู้แรงไม่ได้จึงทำทีเป็นยอม แล้วออกอุบายบอกให้ผู้ตายไปอาบน้ำก่อน

 

            ผู้ต้องหากล่าวว่า จากนั้นตนก็เข้าไปค้นในรถของนายสุพจน์ พบมีดและค้อนจึงนำมาไว้ในห้องเพื่อใช้ป้องกันตัว หลังจากนายสุพจน์ออกมาจากห้องน้ำตนก็พยายามเล้าโลมแล้วบอกให้ผู้ตายใช้ผ้าปิดตา และเล้าโลมจนผู้ตายเสร็จไป 1 ครั้ง จากนั้นตนก็หลอกให้นายสุพจน์นอนคว่ำหน้า แล้วใช้ค้อนทุบเข้าที่คออย่างแรง แต่ผู้ตายดิ้นจึงทุบซ้ำไปอีกหลายที ตั้งใจว่าจะให้สลบเป็นการสั่งสอน แต่ผู้ตายยังพยายามจะลุกมาสู้อีก ตนจึงกระโดดขึ้นคร่อมตัวนายสุพจน์แล้วใช้มีดแทงตามลำตัวจนแน่นิ่งไป

 

            จากนั้นได้เข้าไปล้างตัวในห้องน้ำเสร็จแล้วก็ทำลายหลักฐาน เก็บอาวุธที่ใช้ก่อเหตุและนำแหวน 2 วง นาฬิกาข้อมือ โทรศัพท์มือถือมาด้วย เพื่อทำให้ดูเหมือนเป็นการฆ่าชิงทรัพย์ ก่อนจะขับรถผู้ตายออกมาไปหาเพื่อนชื่อกุ้ง

           

            ส่วนอาวุธที่ใช้ก่อเหตุนำไปทิ้งที่คลองบ้านแก่ง ต.ปากแพรก อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ส่วนทรัพย์สินของผู้ตายนำไปทิ้งที่เขื่อนประปา ต.ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย เผาเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดทิ้ง แล้วก็หลบไปอยู่บ้านญาติ จนทราบข่าวถูกออกหมายจับและเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยจึงติดต่อขอมอบตัวกับตำรวจ

 

        "ยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องความแค้นที่เขาไปปล่อยข่าวแบบนั้น ไม่ได้เกี่ยวกับการเมือง เพราะไม่เคยรู้จักกับพรรคการเมืองใดมาก่อน และไม่ได้รับเงินจากพรรคการเมืองไหนมาฆ่านายสุพจน์ด้วย ที่มามอบตัวในวันนี้ก็เพราะเป็นวันพ่อ อยากทำดีเพื่อพ่อ ที่ทำลงไปก็ยอมรับผิดทุกอย่าง" น.ส.ยุวดีกล่าว

 

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวจากเวปไซด์ข่าวสด

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก