7อุยกูร์แหกห้องขังตม. ตามจับกลับได้แล้ว1ชี้ซ้ำรอยปี62
เมื่อวันที่ 11 ม.ค. พ.ต.อ.พรรณศักดิ์ วรวิบูลย์สวัสดิ์ ผกก.ตม.จว.มุกดาหาร เปิดเผยว่า เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา เกิดเหตุผู้ต้องกักขังต่างด้าวอุยกูร์ จำนวน 7 คน แหกห้องกักขังต่างด้าวของตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร ประกอบด้วย 1.นายมุตาลิป อายุ 28 ปี 2.นายราเจฟ บัสเซอร์ อายุ 25 ปี 3.นายอับดุลเลาะห์ อายุ 22 ปี 4.นายเออร์คัล ยูซูด อายุ 38 ปี 5.นายอ๊อบ มิลเกม อายุ 22 ปี 6.นายอับดุลลาห์ แดวี่ อายุ 24 ปี และ 7.นายเมเมท อายเห็น อายุ 31 ปี ทั้งหมดสัญชาติตุรกี (อุยกูร์) ทั้งนี้ ขณะที่ทั้งหมดหลบหนี ได้จับชาวบ้านที่ไปหาหนูในทุ่งนาเป็นตัวประกัน 1 คน โดยได้มัดมือมัดเท้า และได้ขโมยปืนแก๊ป โคมไฟส่องคาดหัว แล้วพากันหลบหนีไปทางทิศใต้
ที่มา : Dailynews
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 190 ผู้ใดหลบหนีไประหว่างที่ถูกคุมขังตามอํานาจของศาล ของพนักงานอัยการ ของพนักงานสอบสวน หรือของเจ้าพนักงานผู้มีอํานาจสืบสวนคดีอาญา ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
ถ้าความผิดดังกล่าวมาในวรรคแรกได้กระทําโดยแหกที่คุมขัง โดยใช้กําลังประทุษร้ายหรือโดยขู่เข็ญว่าจะใช้กําลังประทุษร้าย หรือโดยร่วมกระทําความผิดด้วยกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป ผู้กระทําต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
ถ้าความผิดตามมาตรานี้ได้กระทําโดยมีหรือใช้อาวุธปืน หรือวัตถุระเบิด ผู้กระทําต้องระวางโทษหนักกว่าโทษที่กฎหมายบัญญัติไว้ในสองวรรคก่อนกึ่งหนึ่ง
คำพิพากษาฎีกาที่ 4915/2537
จำเลยถูกคุมขังระหว่างสอบสวนในฐานะผู้ต้องหาฐานชิงทรัพย์ขณะเจ้าพนักงานตำรวจนำจำเลยออกจากห้องขัง จำเลยวิ่งหลบหนีออกมาไม่ว่าเจ้าพนักงานตำรวจจะติดตามจับกุมจำเลยได้หรือไม่ก็ตามการกระทำของจำเลยย่อมเป็นการหลบหนีไปในระหว่างที่ถูกคุมขังของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาเป็นความผิดสำเร็จแล้ว