ผู้เช่าซื้อนำรถไปขาย ผู้ซื้อรถต่อมีความผิดยักยอก ผู้เช่าซื้อยังเป็นผู้เสียหาย
ผู้เช่าซื้อขายรถที่เช่าซื้อให้ผู้อื่นไป แม้ไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้เช่าซื้อ เมื่อผู้ซื้อยักยอกรถไป ทั้งผู้เช่าซื้อและผู้ให้เช่าซื้อยังคงเป็นผู้เสียหาย
คำพิพากษาฎีกาที่ 1949/ 2556
การที่ผู้เสียหายตกลงขายรถที่เช่าซื้อให้จำเลยที่ 1 โดยที่จำเลยที่ 1 ตกลงผ่อนชำระค่าเช่าซื้อให้บริษัท ช. แทนผู้เสียหาย ถือได้ว่าเป็นการโอนสิทธิตามสัญญาเช่าซื้อ แม้จะไม่ได้รับความยินยอมจากบริษัท ช. ผู้ให้เช่าซื้อ ก็มีผลในทางแพ่งเพียงว่าผู้ให้เช่าซื้อยังคงมีสิทธิเรียกค่าเช่าซื้อที่ค้างจากผู้เสียหายผู้เช่าซื้อเดิมได้ต่อไป ไม่มีผลทำให้ผู้เสียหายและบริษัท ช. ไม่เป็นผู้เสียหายโดยนิตินัยในการที่จำเลยที่ 1 ยักยอกรถที่เช่าซื้อไป
-ผู้เสียหายในความผิดฐานยักยอก ได้แก่ เจ้าของกรรมสิทธิ์และผู้ครอบครองดูแลทรัพย์ขณะที่ถูกยักยอก
คำพิพากษาฎีกาที่ 5097/2531
ผู้ครอบครองทรัพย์ แม้มิใช่เป็นเจ้าของ ก็เป็นผู้เสียหายในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ได้ ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4)
คำพิพากษาฎีกาที่ 1554-1555/2512
ถ้าข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์ร่วมเป็นผู้ดูแลทรัพย์พิพาทไว้. จำเลยยืมทรัพย์พิพาทไปจากโจทก์ร่วม. เมื่อเกิดการเสียหายขึ้นเพราะการกระทำผิดยักยอกของจำเลย. โจทก์ร่วมจึงเป็นผู้เสียหายในฐานะเป็นผู้ครอบครองดูแลทรัพย์พิพาท มีอำนาจร้องทุกข์ตามกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 2(4)(ตามนัยฎีกาที่ 1341/2495,420/2505,562/2505). แม้ในฟ้องจะบรรยายคลาดเคลื่อนว่าใครเป็นเจ้าทรัพย์ ก็ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความต่างกับฟ้อง
-ภายหลังที่ผู้เช่าซื้อตายมีผู้ยักยอกทรัพย์ที่เช่าซื้อ สิทธิและหน้าที่ตามสัญาเช่าซื้อย่อมตกทอดแก่ทายาทของผู้เช่าซื้อ ทายาทของผู้เช่าซื้อย่อมเป็นผู้เสียหายในความผิดฐานยักยอก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6007/2530
แม้กรรมสิทธิ์ในรถยนต์ที่เช่าซื้อยังอยู่กับผู้ให้เช่าซื้อ แต่ผู้เช่าซื้อย่อมมีสิทธิครอบครองใช้ประโยชน์จากรถยนต์ที่เช่าซื้อนั้นและมีหน้าที่ต้องส่งคืนรถยนต์ที่เช่าซื้อในสภาพเรียบร้อยแก่ผู้ให้เช่าซื้อหากมีกรณีต้องคืน เมื่อบุตรโจทก์ซึ่งเป็นผู้เช่าซื้อถึงแก่กรรม สิทธิและหน้าที่ดังกล่าวย่อมตก ทอดมายังโจทก์ในฐานะทายาทคนหนึ่ง เมื่อจำเลยได้ยักยอกทรัพย์นั้นไปจากโจทก์ โจทก์ย่อมได้รับความเสียหาย จึงเป็นผู้เสียหายและมีอำนาจฟ้อง ฎีกาของจำเลยที่ว่า โจทก์มอบรถยนต์คันพิพาทให้จำเลยซ่อมเป็นเวลานานถึง 8 เดือนเศษ จำเลยไม่ได้แจ้งราคาค่าซ่อมให้โจทก์ทราบโจทก์น่าจะทราบได้ในขณะนั้นหรือช่วงเวลานั้นแล้วว่าจำเลยเบียดบังเอารถยนต์คันพิพาทเป็นของตนเอง โจทก์นำคดีมาฟ้องเกินระยะเวลา 3 เดือนพ้นกำหนดอายุความ เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง