ศาลออกหมายจับเสมียนทนายความยิงผู้ก่อเหตุตายในศาล|ศาลออกหมายจับเสมียนทนายความยิงผู้ก่อเหตุตายในศาล

ศาลออกหมายจับเสมียนทนายความยิงผู้ก่อเหตุตายในศาล

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

ศาลออกหมายจับเสมียนทนายความยิงผู้ก่อเหตุตายในศาล

  • Defalut Image

ข้อกฏหมายเรื่องการป้องกันตัว

บทความวันที่ 13 พ.ย. 2562, 12:05

มีผู้อ่านทั้งหมด 808 ครั้ง


ศาลออกหมายจับเสมียนทนายความยิงผู้ก่อเหตุตายในศาล

ข้อกฏหมายเรื่องการป้องกันตัว
             แม้การกระทำของบุคคลจะครบองค์ประกอบที่กฏหมายบัญญัติว่าเป็นความผิดแล้ว บุคคลนั้นอาจจะไม่ต้องรับผิดหากการกระทำเช่นนั้นมีกฏหมายบัญญัติยกเว้นความผิด เช่น การป้องกันโดยชอบด้วยกฏหมายตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 68 
หลักเกณฑ์ การป้องกันตามมาตรา 68
1.มีภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฏหมาย
2.ภยันตรายนั้นใกล้จะถึง
3.ผู้กระทำจำต้องกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตนเองหรือผู้อื่นให้พ้นจากภยันตรายนั้น
4.กระทำพอสมควรแก่เหตุ

-กรณีอ้างป้องกันตัวได้ จำเลยมิได้เป็นผู้ก่อเหตุก่อนและมีภยันตรายเกิดจากการประทุษร้ายอันละเลิดต่อกฏหมายเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงหรือกำลังเกิดขี้นอยู่และจำเลยได้กระทำไปพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาฏีกาที่ 479/2557

          จำเลยมิได้เป็นฝ่ายก่อเหตุหาเรื่องก่อนใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายกับพวก หลังจาก ศ. บุตรชายจำเลยถูกพวกผู้ตายใช้อาวุธปืนยิงที่บริเวณหน้าท้อง 1 นัด และ ศ. ได้ร้องตะโกนให้จำเลยช่วย ถือว่าภยันตรายอันละเมิดต่อกฎหมายได้เกิดขึ้นแล้วในขณะนั้น จำเลยย่อมมีสิทธิที่จะใช้อาวุธปืนยิงไปเพื่อป้องกัน ศ. บุตรชายมิให้ถูกพวกผู้ตายยิงซ้ำให้ถึงแก่ความตาย แต่หลังจากนั้นพวกของผู้ตายยังใช้อาวุธปืนยิงไปที่จำเลยอีก 1 นัด ดังนี้ภยันตรายที่จำเลยจำต้องป้องกันยังไม่หมดสิ้นไป จำเลยมีสิทธิใช้อาวุธปืนยิงโต้ตอบไปอีกเพื่อป้องกันตัวได้ถึงแม้กระสุนปืนที่จำเลยยิงไปถูกผู้ตายซึ่งยืนอยู่บริเวณใกล้เคียงกลุ่มพวกผู้ตาย แต่ก็เป็นการที่จำเลยยิงโต้ตอบไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้นในสภาพที่มองเห็นกันไม่ชัดไม่ทราบว่าเป็นใคร จำเลยย่อมไม่อาจเลือกยิงคนที่ยิงจำเลยและ ศ. ได้ และคงใช้อาวุธยิงสวนไปตามทิศทางที่มีผู้ใช้อาวุธปืนยิงมาที่จำเลย การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันสิทธิของตนและผู้อื่นพอสมควรแก่เหตุ จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นตาม ป.อ. มาตรา 68

คำพิพากษาฎีกาที่ 1372/2509 
          วินิจฉัยว่า ผู้ตายรูปร่างสูงใหญ่กว่าจำเลย ได้แตะต่อยจำเลยจนจำเลยล้มลงห่างไป 1 วา ผู้ตายชักมีดออกจากเอว เดินเข้าหาจำเลย แสดงเจตนาจะแทงจำเลย จำเลยยิงผู้ตาย 1 นัด แต่ผู้ตายยังเดินเข้าหาจำเลยอีก จำเลยจึงยิงผู้ตายอีก 1 นัด ผู้ตายถึงแก่ความตาย เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ

-กรณีที่อ้างป้องกันไม่ได้ ภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดกฏหมายนั้นได้ผ่านพ้นไปแล้ว
คำพิพากษาฎีกา 6370/2554

            ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า เมื่อจำเลยที่ 1 ยิงปืนขึ้นฟ้า 1 นัดแล้ว อ. ได้ชักอาวุธปืนยิงจำเลยที่ 1 ก่อนจริง พฤติการณ์ของ อ. เช่นนี้ ย่อมทำให้จำเลยที่ 1 เห็นว่า อ. ได้ประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายแก่ตน ดังนั้น จำเลยที่ 1 ย่อมมีสิทธิป้องกัน การที่จำเลยที่ 1 ได้ใช้อาวุธปืนยิงไปที่ อ. 1 นัด ในทันทีทันใด แม้กระสุนจะลั่นหรือไม่ก็ตาม ย่อมถือว่าเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายตาม ป.อ. มาตรา 68 แต่ข้อเท็จจริงได้ความว่า เมื่อจำเลยที่ 1 ใช้อาวุธยิง อ. แต่กระสุนปืนไม่ลั่นแล้ว อ. ได้วิ่งหลบหนีไป เช่นนี้ เหตุที่จำเลยที่ 1 จะป้องกันสิทธิของตนย่อมหมดไป การที่จำเลยที่ 1 วิ่งไล่ตาม อ. ไป แล้วยิงต่อสู้กับ อ. อีกเช่นนี้ เป็นการกระทำต่อเนื่องจากการที่ อ. ใช้อาวุธปืนยิงจำเลยที่ 1 ก่อนอันถือว่าเป็นการข่มเหงจำเลยที่ 1 ด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม การกระทำของจำเลยที่ 1 ในครั้งหลังจึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะตาม ป.อ. มาตรา 72


 

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก