เธอ...เป็นซะเอง|เธอ...เป็นซะเอง

เธอ...เป็นซะเอง

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

เธอ...เป็นซะเอง

  • Defalut Image

เมื่อหลายวันก่อนมีสุภาพสตรีสูงวัยท่านหนึ่งอายุประมาณ 65 ปีสมมุตินามว่าคุณปรียา

บทความวันที่ 13 ส.ค. 2562, 10:37

มีผู้อ่านทั้งหมด 449 ครั้ง


เธอ...เป็นซะเอง

    เมื่อหลายวันก่อนมีสุภาพสตรีสูงวัยท่านหนึ่งอายุประมาณ 65 ปีสมมุตินามว่าคุณปรียา ได้ปรึกษาเรื่องสามีมีกิ๊ก จากถ้อยคำข้อความที่คุณปรียาได้เล่าสู่กันฟังน่าสนใจคือเธอเป็นแม่บ้านอยู่กินกับสามีมาประมาณ 40 ปี สามีมีอาชีพเป็นทนายความแต่ในระยะหลังไม่ได้ขึ้นศาลว่าความแต่จะเป็นลักษณะเป็นทนายความที่ปรึกษาซะมากกว่า ถ้ามีคนมาปรึกษาคดีก็จะให้คำปรึกษา ถ้าต้องการว่าจ้างให้ทำคดีต้องขึ้นศาลว่าความ สามีเธอจะนำลูกค้าหรือลูกความไปส่งสำนักงานทนายความที่เป็นเครือข่ายกัน  วันหนึ่ง! มีหญิงสาววัยกลางคนใช้นามสมมุติว่านางสาวอร ได้มาปรึกษากฎหมายกับสามีของเธอ ว่าหล่อนต้องการที่จะฟ้องหย่ากับสามีตนเองเนื่องจากสามีประพฤติชั่วทำตัวไม่เหมาะสมเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ แอบไปมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับผู้หญิงในสำนักงานเดียวกัน ซึ่งทำให้เธอเจ็บช้ำระกำใจเป็นอย่างมาก จึงหาทางที่จะเก็บพยานหลักฐานการมีความสัมพันธ์ชู้สาว เพื่อจะฟ้องหย่าสามี  หลังจากที่สามีเธอได้มีการแนะนำให้นางสาวอร ไปหาหลักฐานแล้วก็ยื่นฟ้องหย่า โดยในขณะนั้นเหตุเกิดเมื่อปี 2560 ศาลยังไม่ได้มีคำพิพากษาให้หย่าของนางสาวอร  เป็นช่วงระหว่างการสืบพยาน ทั้งสองคือสามีและนางสาวอรได้พบปะเจอกันบ่อยครั้งเพื่อปรึกษาหารือเรื่องคดี ทำให้ทั้งสองเกิดความใกล้ชิดสนิทสนม กลายเป็นมีความสัมพันธ์ทางใจต่อกัน คุณปรียาไม่เคยรู้เรื่องราวเหล่านี้มาก่อนเลยเพราะเข้าใจว่าเป็นแค่ลูกความซึ่งโดยปกติแล้วคุณสามีก็มักจะพาลูกความไปทานอาหารเลี้ยงรับรองอยู่แล้ว หรือบางครั้งพาลูกความไปหาพยานหลักฐานอยู่เป็นประจำไม่ว่าหญิงหรือชาย คุณปรียาจึงไม่ได้สนใจต่อมามีเพื่อนร่วมก๊วนกอล์ฟของสามีคุณปรียาได้เปรยๆให้ฟังว่าให้ดูแลสามีให้ดีหน่อยนะคุณปรียา เธอก็คิดว่าเธอก็ดูแลสามีเป็นอย่างดีมาตลอดจึงมิได้คิดอะไร เธอเริ่มสังเกตุวันหนึ่งเธอเห็นโทรศัพท์สามีวางไว้ที่โต๊ะทำงาน มีสายเรียกเข้าเธอจึงเดินเข้าไปดู ทันใดนั้นสามีก็ตวาด! เธอหาว่าเข้าไปวุ่นวายเรื่องส่วนตัวทั้ง ๆ ที่แต่ก่อนไม่เคยมีเหตุการณ์เหล่านี้ เธอจึงตั้งข้อสงสัยว่าทำไมสามีจึงต้องฉุนเฉียวกับเธอมากมายขนาดนั้น หลังจากนั้นเธอได้จับตามองการใช้โทรศัพท์มือถือของสามีตลอดมา และได้เห็นพฤติกรรมที่น่าสงสัย เช่น เมื่อมีโทรศัพท์เข้ามาสามีมักจะเดินไปคุยในสนามหญ้าหน้าบ้านหรือไม่รับโทรศัพท์ต่อหน้า เมื่อสอบถามว่าใครโทรมา สามีก็จะบอกว่าลูกความโทร แต่เมื่อรับสายแล้วไม่ยอมคุย “ตอบกลับไปว่าเดี๋ยวโทรกลับ”  หรือบางครั้งก็จะบ่นว่าลูกความคนนี้ไม่อยากคุยด้วยเรื่องมากจัง แต่เธอก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง และวันที่เป็นจุดไคลแม็กซ์ของเรื่องก็คือวันที่สามีต้อง ไปงานเลี้ยงของเพื่อนร่วมรุ่นและเธอขอไปด้วยแต่สามีปฏิเสธเธอ จึงโทรไปถามเพื่อนร่วมรุ่นของสามีว่าวันนี้มีงานเลี้ยงรุ่นเขาไม่ให้พาภรรยาไปร่วมงานด้วยเหรอ เพื่อนสามีบอก “วันนี้ที่เลี้ยงรุ่นจะมีการพร้อมหน้าพร้อมตาให้ทุกคนพาภรรยาและลูกมาด้วยถ้าใครไม่สะดวกก็ไม่ว่ากัน”  ได้ยินแบบนี้ของขึ้นเลย คุณปรียาจึงปล่อยให้สามีออกจากบ้านไปก่อนหลังจากนั้นเธอก็อาบน้ำแต่งตัวและไปที่งานเลี้ยงดังกล่าวโดยแอบอยู่ในรถของเพื่อนเธอจึงได้เห็นว่าสามีมากับหญิงคนหนึ่งซึ่งหล่อนคือนางสาวอรซึ่งเป็นลูกความ เธอตกใจมากเสียใจที่สามีโกหก จึงเป็นที่มาของการมาใช้บริการนักสืบกุ้งเพื่อสืบหาข้อมูลว่าทำไมสามีของเธอจึงทำร้ายจิตใจเธอได้ขนาดนี้. งานนี้ไม่ธรรมดานะ เป้าหมายเป็นทนายความอาวุโส ก่อนที่นักสืบจะเริ่มงาน เธอได้จับตาดูพฤติกรรมของทั้งสองคน คุณปรียาได้ทราบว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์ถึงขั้นเป็นชู้โดยนัดหมายสถานที่พบเจอกันเป็นโรงแรมแถวปริมณฑลรอบๆนอกกรุงเทพ โดยฝ่ายหญิงจะขับรถยนต์ส่วนตัวไปจอดที่โรงแรม แล้วจะโทรแจ้งฝ่ายสามีของเธอติดตามไปในภายหลัง วันหนึ่งเธอได้แอบติดตามสามีไปและจับได้ว่านัดมีความสัมพันธ์กันที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เธอได้เข้าไปคุยกับฝ่ายหญิงว่าทำไมถึงทำแบบนี้ทั้งๆรู้จักกันแต่มาตั้งนาน ทำไมทำร้ายจิตใจกันได้ขนาดนี้ นางสาวอรบอก “เธอควรจะไปถามสามีของเธอก่อนซิ ก่อนที่จะมาด่าฉัน” เธองงนี่มันอะไร   คุณปรียาไม่ถามสามีแต่ได้พูดกับสามีต่อหน้านางสาวอรว่า “ถ้าจะหากินนอกบ้านก็บอกกันตรงๆอย่ามาทำลับๆล่อๆแบบนี้... ฉันไม่ได้กังวลอะไรกับการที่เธอจะไปหากินนอกบ้านกับผู้หญิงหากินหรือผู้หญิงไร้ค่า” “เอาเป็นว่าวันนี้ได้รู้เรื่องกันแล้วว่าเธอทั้งสองแอบกินกันอย่าให้เจออีก” เธอทิ้งท้ายไว้แค่นั้น  หลังจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของนักสืบ เพราะเธอจะนิ่งไม่กระดิ๊กไปไหนทั้งนั้น เพื่อให้ทั้งคู่ตายใจ  คราวนี้ทั้งชายและหญิงจะระวังตัวมาก แม้บางครั้งนัดปรึกษาคดีความกันก็ต้องแอบในร้านอาหารที่มิดชิด ในเมื่อของมันเคยๆ ก็คงอดใจไม่ไหว สามีเธอทำตัวสลับซับซ้อนมาก ซึ่งก่อนวันที่นางสาวอร จะไปขึ้นศาลนัดสืบพยานของฝ่ายจำเลย  ทั้งสองมีการนัดแนะกันไปเจอที่โรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งเป็นชานเมืองห่างจากกรุงเทพพอสมควร เพราะเกรงว่าคุณปรียาจะตามาเจอ แต่เค้าทั้งสองหารู้ไม่ว่า มีอีกหลายดวงตาที่เฝ้าดูอยู่ นักสืบเลือกที่จะติดตามนางสาวอร เพราะสามีเธอระวังตัวเกิน ไม่ยอมขับรถ ใช้บริการแท๊กซี่ตลอด ตั้งแต่เมียจับได้   เป็นนักสืบมานานก็เพิ่งทราบนี่แหล่ะ ว่าการซ้อมพยานต้องไปซ้อมในที่ลับๆ เพราะกลัวฝ่ายตรงข้ามจะรู้หรือได้เห็น งานนี้ถ้าผัวของนางสาวอร รู้ว่าเมียที่เป็นโจทก์ฟ้องชู้ หย่า เรียกค่าทดแทนกับเมียน้อย  คงเอาเป็นประเด็นต่อสู้ได้สบาย ดูแล้วยังกับละครไทย นั่นซินะ!  ละครน้ำเน่า ก็เอามาจากชีวิตจริงนี่เอง   คนเราทุกคนมีเลือดเนื้อมีชีวิตจิตใจต่อหน้าอาจจะเข้มแข็งแต่เมื่ออยู่ลับหลังก็น้ำตาร่วงหลังพวงมาลัย สามีอยู่กับเรามานานก็จริงแต่บางครั้งมันก็อาจจะแปรเปลี่ยนไปได้ตามสภาพแวดล้อมเพราะผู้หญิงที่มาคบหากับสามีก็มีปัญหากับสามีโหยหาความรัก ความอบอุ่นต่างคนต่างขาดสนองต่อกัน จนลืมไปว่าครอบครัวของตัวเองจะเป็นอยู่อย่างไร สภาพจิตใจเป็นอย่างไร  คุณปรียาบอกว่า “ครอบครัวยังอยู่เป็นปกติแต่เธอก็อยู่แบบหวาดระแวง ไม่เคยวางใจสามีแม้สักครั้ง เมื่อเขาเผลอก็จะแอบติดตามดูสามีอยู่เรื่อยๆและ เอา GPS และเครื่องดักฟังใส่รถสามีไว้ตลอด แอบติดตามอยู่ นี่แหละชีวิตเคยสงบก็กลายเป็นชีวิตที่ไม่ปกติ. มนุษย์เมียยยยย  มีปัญหาปรึกษานักสืบกุ้งได้ค่ะ!

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก