เปรมชัยขอพิจารณาคดีลับหลังคดียิงเสือดำ ทำได้ไหม?|เปรมชัยขอพิจารณาคดีลับหลังคดียิงเสือดำ ทำได้ไหม?

เปรมชัยขอพิจารณาคดีลับหลังคดียิงเสือดำ ทำได้ไหม?

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

เปรมชัยขอพิจารณาคดีลับหลังคดียิงเสือดำ ทำได้ไหม?

  • Defalut Image

 คดีอาญาที่โทษจำคุกอย่างสูงไม่เกินสิบปีและจำเลยมีทนาย

บทความวันที่ 28 พ.ย. 2561, 11:07

มีผู้อ่านทั้งหมด 942 ครั้ง


เปรมชัยขอพิจารณาคดีลับหลังคดียิงเสือดำ ทำได้ไหม?

                 คดีอาญาที่โทษจำคุกอย่างสูงไม่เกินสิบปีและจำเลยมีทนาย จำเลยสามารถยื่นคำร้องต่อศาลให้พิจารณาลับหลังจำเลยได้ จำเลยไม่ต้องมาศาล ยกเว้นวัดนัดฟังคำพิพากษาต้องมา จำเลยต้องมาฟังคำพิพากษาด้วยตนเอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่อ้างอิง
1.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7561/2542
                 ในคดีอาญา การพิจารณาและสืบพยานไม่ว่าในชั้นสืบพยานโจทก์หรือพยานจำเลยจะต้องทำโดยเปิดเผยต่อหน้าจำเลย เว้นแต่ศาลจะอนุญาตให้จำเลยไม่มาฟังการพิจารณาและการสืบพยานนั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 172 ทวิ

2.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1699/2557
             ป.วิ.อ. มาตรา 182 วรรคสองและวรรคสาม กำหนดให้สาลอ่านคำพิพากษาในศาลต่อหน้าคู่ความโดยเปิดเผย เมื่ออ่านแล้วให้คู่ความลงลายมือชื่อไว้ และมาตรา 2(15) ได้ให้คำจำกัดความของคำว่า คู่ความ ไว้ว่า หมายความถึง โจทก์ฝ่ายหนึ่งและจำเลยฝ่ายหนึ่ง ซึ่งหมายตรา 2(3) จำเลยหมายความถึงบุคคลซึ่งถูกฟ้องยนังศาลแล้ว โดยข้อหาว่าได้กระทำความผิด ดังนั้น ทนายจำเลยที่ 1 จึงมิได้เป็นจำเลยหรือเป็นคู่ความตามบทบัญญัติดังกล่าว เมื่อปรากฎว่าศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นคู่ความในคดีฟัง และให้จำเลยที่ 1 ลงลายมือชื่อไว้แล้ว จึงเป็นการดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการอ่านคำพิพากษาโยชอบแล้ว ไม่มีเหตุผลยกเลิกการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ส่วนการที่ศาลชั้นต้นส่งหมายนัดให้ผู้ร้องและทนายผู้ร้องมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ก็หาเป็นเหตุให้การอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยที่ 1 ฟังซึ่งชอบด้วยกฎหมายกลับกลายเป็นไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่

ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
มาตรา 172 ทวิ
ภายหลังที่ศาลได้ดำเนินการตามมาตรา 172 วรรค 2 แล้ว เมื่อศาลเห็นเป็นการสมควร เพื่อให้การดำเนินการพิจารณาเป็นไปโดยไม่ชักช้า ศาลมีอำนาจพิจารณาและสืบพยานลับหลังจำเลยได้ในกรณี ดังต่อไปนี้
           (1) ในคดีมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงไม่เกินสิบปี จะมีโทษปรับด้วยหรือไม่ก็ตาม หรือในคดีมีโทษปรับสถานเดียว เมื่อจำเลยมีทนายและจำเลยได้รับอนุญาตจากศาลที่จะไม่มาฟังการพิจารณาและการสืบพยาน
           (2) ในคดีที่มีจำเลยหลายคน ถ้าศาลพอใจตามคำแถลงของโจทก์ว่า การพิจารณาและการสืบพยานตามที่โจทก์ขอให้กระทำไม่เกี่ยวแก่จำเลยคนใด ศาลจะพิจารณาและสืบพยานลับหลังจำเลยคนนั้นก็ได้
           (3) ในคดีที่มีจำเลยหลายคน ถ้าศาลเห็นสมควรจะพิจารณาและสืบพยานจำเลยคนหนึ่ง ๆ ลับหลังจำเลยคนอื่นก็ได้
ในคดีที่ศาลพิจารณาและสืบพยานตาม (2) หรือ (3) ลับหลังจำเลยคนใด ไม่ว่ากรณีจะเป็นประการใด ห้ามมิให้ศาลรับฟังการพิจารณา และการสืบพยาน ที่กระทำลับหลังนั้นเป็นผลเสียหายแก่จำเลยคนนั้น

มาตรา 182 คดีที่อยู่ในระหว่างไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจารณา ถ้ามีคำร้องระหว่างพิจารณาขึ้นมา ให้ศาลสั่งตามที่เห็นควร เมื่อการพิจารณาเสร็จแล้ว ให้พิพากษาหรือสั่งตามรูปความ
           ให้อ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งในศาลโดยเปิดเผยในวันเสร็จการพิจารณา หรือภายในเวลาสามวันนับแต่เสร็จคดี ถ้ามีเหตุอันสมควร จะเลื่อนไปอ่านวันอื่นก็ได้ แต่ต้องจดรายงานเหตุนั้นไว้
           เมื่อศาลอ่านให้คู่ความฟังแล้ว ให้คู่ความลงลายมือชื่อไว้ ถ้าเป็นความผิดของโจทก์ที่ไม่มา จะอ่านโดยโจทก์ไม่อยู่ก็ได้ ในกรณีที่จำเลยไม่อยู่ โดยไม่มีเหตุสงสัยว่าจำเลยหลบหนีหรือจงใจไม่มาฟัง ก็ให้ศาลรอการอ่านไว้จนกว่าจำเลยจะมาศาล แต่ถ้ามีเหตุสงสัยว่าจำเลยหลบหนีหรือจงใจไม่มาฟัง ให้ศาลออกหมายจับจำเลย เมื่อได้ออกหมายจับแล้วไม่ได้ตัวจำเลยมาภายในหนึ่งเดือน นับแต่วันออกหมายจับ ก็ให้ศาลอ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งลับหลังจำเลยได้ และให้ถือว่าโจทก์หรือจำเลย แล้วแต่กรณี ได้ฟังคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นแล้ว
           ในกรณีที่คำพิพากษาหรือคำสั่งต้องเลื่อนอ่านไปโดยขาดจำเลยบางคน ถ้าจำเลยที่อยู่จะถูกปล่อย ให้ศาลมีอำนาจปล่อยชั่วคราวระหว่างรออ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้น

มีข้อสงสัยด้านกฎหมาย สอบถามทีมงานทนายความ ทนายคลายทุกข์ โทร.02-9485700

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก