ถูกฉ้อโกง ทำยอมต้องระวังมิฉะนั้น อาจทำให้อาญาระงับ|ถูกฉ้อโกง ทำยอมต้องระวังมิฉะนั้น อาจทำให้อาญาระงับ

ถูกฉ้อโกง ทำยอมต้องระวังมิฉะนั้น อาจทำให้อาญาระงับ

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

ถูกฉ้อโกง ทำยอมต้องระวังมิฉะนั้น อาจทำให้อาญาระงับ

  • Defalut Image

ปัจจุบันมีคดีฉ้อโกง และคดียักยอกเป็นจำนวนมาก ผู้เสียหายส่วนใหญ่ต้องการเงินคืนเป็นหลัก

บทความวันที่ 22 พ.ย. 2561, 13:24

มีผู้อ่านทั้งหมด 4419 ครั้ง


ถูกฉ้อโกง ทำยอมต้องระวังมิฉะนั้น อาจทำให้อาญาระงับ

              ปัจจุบันมีคดีฉ้อโกง และคดียักยอกเป็นจำนวนมาก ผู้เสียหายส่วนใหญ่ต้องการเงินคืนเป็นหลัก หรือไม่ต้องการให้ผ่อนชำระ แต่การที่จะไปทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันนั้น จะต้องระมัดระวังมิให้คดีอาญาระงับในระหว่างผ่อนชำระยังไม่เสร็จสิ้น การทำสัญญายอมจึงต้องมีที่ปรึกษากฎหมายคอยให้ความรู้ ถ้าจะยอมเฉพาะคดีแพ่ง ต้องระบุให้ชัดเจนรว่ายังสงวนสิทธิดำเนินคดีอาญาอยู่ ตามแนวตัวอย่างฎีกาข้างล่างนี้

1.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3412/2550 (ความหมายของการทำยอมทางอาญา)
             โจทก์ร่วมกับจำเลยทำบันทึกกันไว้ตามรายงานประจำวันรับแจ้งเป็นหลักฐานซึ่งมีข้อความว่า คู่กรณีตกลงกันแล้วต่างฝ่ายต่างไม่ติดใจเรียกร้องฟ้องกันทั้งทางแพ่งและอาญาต่อกัน โดยจำเลยได้ช่วยเหลือค่าเสียหายของกระบือที่ถูกยิงตายให้โจทก์ร่วมเป็นเงิน 7,000 บาท จะนำเงินมาจ่ายให้หมดในวันที่ 1 ตุลาคม 2544 แล้วลงชื่อโจทก์ร่วมและจำเลย เช่นนี้ จึงเป็นการทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันโดยชอบด้วยกฎหมาย เมื่อความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตาม ป.อ. มาตรา 358, 359 เป็นความผิดอันยอมความได้ จึงมีผลทำให้สิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับไปตาม ป.วิ.อ. มาตรา 39 (2) แม้ต่อมาจำเลยจะไม่ชำระค่าเสียหายตามสัญญาประนีประนอมยอมความ โจทก์ร่วมก็ไม่มีสิทธิร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีแก่จำเลยในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ หลังจากมีการยอมความกันโดยชอบด้วยกฎหมายแล้วอีกได้ คงมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายตามสัญญาประนีประนอมยอมความเท่านั้น ปัญหานี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยแม้ไม่มีฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225

2.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 200/2508 (การทำยอมนอกศาลโดยไม่ได้กล่าวถึงคดีอาญา คดีอาญาไม่ระงับ)
          จำเลยหลอกลวงผู้เยาว์อายุ 16 ปี ว่าคู่รักต้องการพบผู้เยาว์หลงเชื่อตามจำเลยไปแล้วถูกจำเลยข่มขืนกระทำชำเรากับหน่วงเหนี่ยวกักขัง โจทก์และภริยาเป็นบิดามารดาของผู้เยาว์รับขมาด้วยเงิน 2,000 บาทโดยยังไม่ได้ตกลงกันเกี่ยวกับความผิดในทางอาญาและยอมรับขมาเพื่อให้ได้ตัวผู้เสียหายกลับคืนมาและเพื่อล้างอายกับเข้าใจว่าบุตรของตนตามเขาไปดังนี้ เป็นเรื่องตกลงกันในทางแพ่ง ไม่เกี่ยวกับความผิดในทางอาญา จึงถือไม่ได้ว่ามีการยอมความกันถูกต้องตามกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2)
          จำเลยหลอกลวงผู้เยาว์ว่า คู่รักของผู้เยาว์มาคอยพบจะถือว่าผู้เยาว์เต็มใจไปกับจำเลยหาได้ไม่
          จำเลยหลอกลวงพาผู้เยาว์ไปบังคับขู่เข็ญกระทำชำเรา มิใช่พาไปในฐานชู้สาว จึงเป็นการพรากไปเพื่อการอนาจาร
          พรากผู้เยาว์ไปเสียจากบิดามารดาเพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์ไม่เต็มใจผิดตามมาตรา 318 วรรคท้าย เป็นบทหนักกว่ามาตรา 319 ซึ่งศาลอุทธรณ์ปรับมา แต่โจทก์มิได้ฎีกาขึ้นมาศาลฎีกาจะพิพากษาให้เป็นผลร้ายแก่จำเลยมิได้

3.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1050/2527 (แปลงหนี้ใหม่ทำให้คดีอาญาระงับ)
            จำเลยขายพลอยให้ผู้เสียหาย ต่อมาผู้เสียหายอ้างว่าเป็นพลอยปลอม จำเลยฉ้อโกง ขอให้คืนเงิน จำเลยไม่คืนให้ จำเลยและผู้เสียหายตกลงกันต่อหน้าพนักงานสอบสวนตามบันทึกประจำวันเกี่ยวกับคดีว่าจำเลยยืมเงินผู้เสียหายไปจำเลยยอม ชดใช้เงินให้ผู้เสียหายเป็น 2 งวด ดังนี้เป็นเรื่องผู้เสียหายและจำเลยตกลงระงับข้อพิพาทอันมีต่อกันอยู่แล้วในเรื่องการซื้อขายพลอยให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กันเข้าลักษณะสัญญาประนีประนอมยอมความและเป็นการตกลงเปลี่ยนแปลงมูลที่มาแห่งหนี้ในทางแพ่งแสดงถึงเจตนาของผู้เสียหายว่า ประสงค์ให้ข้อหาทางอาญาในเรื่องฉ้อโกงระงับไปด้วย ความผิดฐานฉ้อโกงเป็นความผิดอันยอมความกันได้เมื่อยอมความกันโดยถูกต้องตามกฎหมายสิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) แม้ ต่อมาจำเลยไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง ผู้เสียหายก็ไม่มีอำนาจที่จะร้องทุกข์ ในข้อหาฉ้อโกงได้อีก

4.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5247/2545 (การทำยอมในคดีเช็ค)
             หลังจากที่จำเลยเป็นหนี้ค่าทองรูปพรรณและออกเช็คพิพาทเพื่อชำระหนี้ให้โจทก์แล้ว ย. ภริยาโจทก์และจำเลยได้ตกลงกันทำหนังสือสัญญากู้ขึ้นมีเนื้อความว่าจำเลยได้กู้ยืมเงินภริยาโจทก์ไปจำนวน 500,000 บาท จะใช้คืนให้ภายใน 6 เดือนนับจากวันทำสัญญาโดยภริยาโจทก์ลงชื่อเป็นผู้ให้กู้และจำเลยลงชื่อเป็นผู้กู้ เป็นกรณีที่โจทก์ยินยอมให้นำมูลหนี้ตามเช็คพิพาทเปลี่ยนมาเป็นมูลหนี้กู้ยืมระหว่างจำเลยกับภริยาโจทก์ สัญญากู้ดังกล่าวจึงเป็นการตกลงทำสัญญาแปลงหนี้ใหม่ โดยเปลี่ยนตัวเจ้าหนี้ สิทธิเรียกร้องของโจทก์ที่มีอยู่เดิมย่อมระงับสิ้นไป แม้ว่าจำเลยไม่เคยชำระเงินตามสัญญากู้แต่อย่างใดก็หามีผลทำให้การแปลงหนี้ใหม่ดังกล่าวเสียไปไม่ มูลหนี้ที่จำเลยได้ออกเช็คพิพาทเพื่อใช้เงินนั้น จึงสิ้นผลผูกพันไปก่อนที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด คดีเป็นอันเลิกกันตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯมาตรา 7 สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39

การทำยอมทำให้สิทธิระงับ ดังนั้นก่อนลงลายมือชื่อควรปรึกษาทนายความ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 3

สวัสดีคับ  อารารย์ เดชา  พอดีแฟนผมโดนคดียักยอกศัพ   แต่ยังจับไม่ได้   ผมจะทำยังไงคับขอคำแนะนำคับ   แล้วจะจ่ายคืนได้หรือไม่                               โดยคุณ    ปัญญา    ป้องกัน                           

โดยคุณ Panyak 24 ก.พ. 2562, 09:01

ความคิดเห็นที่ 2

น้าดิฉันได้ตกลงซื้อรถแท็กซี่มือสองจากช่างโดยเป็นช่างอู่รถแท็กซี่ได้ตกลงทำสัญญาเช่าซื้อระหว่างน้าดิฉันกับช่างไว้หนึ่งฉบับและได้ทำสัญญาเช่าซื้อกับบริษัทกับช่างไว้อีกหนึ่งฉบับ.โดยเราไม่ทราบรายล่ะเอียดผ่อนมาจนจะหมดเหลืออีก3หมื่นกว่าบาทจู่ๆๆมายึดรถของเราไปทั้งๆที่กำลังจะไปออกรถก็มีผู้ชาย2คนมาจากทางอู่ให้มาเอารถไปก็งงเเละได้เอากุนแจรถให้ไปพอเราไปติดต่อกับเจ้าของทีีเราซื้อรถมาเขาบอกเราขาดส่งทั้งๆที่มีเอกสารการโอนเวินทุกครั้งและเราไปติดต่อจู่ๆๆมาบอกให้จ่ายให้ครบและจบเลยถึงสามารถเอารถไปได้เเละยอดที่เพิ่มมาคือค่าอะไรเราจะไปทำอย่างไงถึงสามารถเอากลับมาได้ตอนนี้ไม่เห้นรถเลยเขาเอาไปไว้ที่ไหน

โดยคุณ น.ส.อัยลดา ทิพย์รักษ์ 22 พ.ย. 2561, 15:47

ความคิดเห็นที่ 1

สวัสดีค่ะอาจารเดชา พอดีโดนลูกค้าฟ้องเรียกค่าฤชา ค่ะ 

เรื่องมีอยุ่ว่า เขาสั่งสินค้ากับเราเราส่งสินค้าช้า ผิดนัดส่งสินค้าลูกค้่เลยจะเอาเงินแทน เราก่จะจ่ายเงินคืน แต่ลูกค้าดันไปจ้างทนายฟ้อง ประเด็นคือ เราต้องจ่ายเงินคืนให้ลูกค้า 4600 แล้วลูกค้าจะให้ทนายมาเรียกเก็บค่าดำเนินการ หรือค่าฤชาธรรเนียม กับเราอีกเป็นจำนวน 11000 แบบนี้ทำได้ด้วยหรอค่ะอาจารย์ ขอบคุณมากค่ะอาจารย์เด 

โดยคุณ กชกร 22 พ.ย. 2561, 15:35

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก