ทนายดังเรียกเงินเพื่อให้อัยการมีความผิดฐานใด|ทนายดังเรียกเงินเพื่อให้อัยการมีความผิดฐานใด

ทนายดังเรียกเงินเพื่อให้อัยการมีความผิดฐานใด

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

ทนายดังเรียกเงินเพื่อให้อัยการมีความผิดฐานใด

  • Defalut Image

 ตามที่มีข่าวทนายดังตามคลิปเสียงเรียกรับเงินจากลูกความในคดียาเสพติด

บทความวันที่ 21 ก.ย. 2561, 15:35

มีผู้อ่านทั้งหมด 3873 ครั้ง


ทนายดังเรียกเงินเพื่อให้อัยการมีความผิดฐานใด

    ตามที่มีข่าวทนายดังตามคลิปเสียงเรียกรับเงินจากลูกความในคดียาเสพติด  แต่โดยเรียกเงินไปจำนวน 500,000 บาท เพื่อที่จะไปเจรจากับอัยการเพื่อลดข้อหา จากเดิมมี 2 ข้อหา ข้อหาแรกมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ข้อหาที่สอง จำหน่ายยาเสพติด   ซึ่งจะต้องถูกลงโทษ 2 กรรม แต่ไปแจ้งกับลูกความว่าเพื่อให้เหลือความผิดเพียงกรรมเดียว  แต่ทำไม่สำเร็จ ลูกความจึงขอเงินคืนบางส่วน  หากเป็นเรื่องจริงทนายดังมีความผิดฐานเป็นคนกลางเรียกสินบนตามปอ. มาตรา 143 โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และจะต้องถูกลบชื่อออกจากการเป็นทนายความ เนื่องจากเป็นการประพฤติชั่วร้ายแรง  ตามพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ.2528 มาตรา 44(5) , มาตรา 66 , มาตรา 67 , มาตรา 68 , มาตรา 70 และข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ พ.ศ. 2529 ข้อ.8 , ข้อ.10(3) , ข้อ.14 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 661/2554  
    จำเลยเรียกและรับเงินจากผู้เสียหายทั้งสองเพื่อเป็นการตอบแทนในการที่จะจูงใจเจ้าพนักงานในตำแหน่งพนักงานอัยการ โดยวิธีอันทุจริตผิดกฎหมาย เพื่อให้กระทำการในหน้าที่โดยการช่วยเหลือในทางคดีให้สั่งไม่ฟ้องคดีแก่บุคคลที่ถูกดำเนินคดีอาญา แม้พนักงานอัยการจะมิได้เป็นเจ้าของสำนวนในคดีนั้นและจำเลยยังมิได้ให้เงินก็ตาม ก็ถือว่าพนักงานอัยการนั้นเป็นเจ้าพนักงานที่จำเลยจะจูงใจให้กระทำการในหน้าที่อันเป็นคุณแก่บุคคลที่จำเลยจะให้ช่วยเหลือแล้ว การกระทำของจำเลยครบองค์ประกอบแห่งความผิดตาม ป.อ. มาตรา 143 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4586/2531  
    การที่จำเลยเรียกและรับเงินจาก ท.กับพวก โดยอ้างว่าจะเอาไปให้ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์เพื่อให้พิพากษายกฟ้องในคดีที่ ท.กับพวกเป็นจำเลย ดังนี้ ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ที่จำเลยอ้างดังกล่าวย่อมหมายถึงผู้พิพากษาผู้มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีในศาลอุทธรณ์ได้ตามกฎหมายแม้จะมิได้เป็นเจ้าของสำนวนหรือองค์คณะที่พิจารณาพิพากษาคดีนั้นก็ตาม ก็ถือว่าเป็นเจ้าพนักงานที่จำเลยจะจูงใจให้กระทำการในหน้าที่อันเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ ท. กับพวกแล้วการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 143

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14171/2557 
    จำเลยเรียกเงินจาก น. กับ ส. โดยแอบอ้างว่าจะนำเงินไปให้พนักงานอัยการเจ้าของสำนวนทำความเห็นไม่คัดค้านการขอปล่อยตัวชั่วคราวของ น. โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายอันเป็นคุณแก่ น. ซึ่งเป็นจำเลยในคดีอาญา แม้จำเลยจะยังไม่ได้รับเงินหรือนำเงินไปให้อัยการเจ้าของสำนวนตามที่จูงใจก็ตาม การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดตาม ปอ.มาตรา 143 
 

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก