สิทธิในค่าอุปการะเลี้ยงดู สละไม่ได้
ลองอ่านฎีกาใหม่และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เอาไปใช้ประโยชน์ได้นะครับ
คำพิพากษาฎีกาที่ 3955/2563
ตามรายงานกระบวนพิจารณาในคดีที่จำเลยเป็นโจทก์ฟ้องโจทก์มารดาโจทก์เป็นจำเลยทั้งสอง มีการตกลงกันให้ถอนฟ้องในคดีอาญา ดังกล่าว แล้วโจทก์แถลงว่าจะไม่ติดใจเรียกร้องค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรในคดีนี้ ซึ่งท้ายรายงานกระบวนพิจารณามีจำเลยทั้งสอง และทนายความของจำเลยทั้งสองลงลายมือชื่อ เชื่อว่าโจทก์มีทนายความเป็นที่ปรึกษาได้ทำความตกลงกับจำเลยโดยเข้าใจในสาระสำคัญของข้อตกลงแล้วว่าโจทก์จะไม่ติดใจเรียกร้องค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรในคดีนี้ แต่ทั้งนี้ตามบทบัญญัติ ป.พ.พ.มาตรา 1598/41 บัญญัติว่า สิทธิที่จะได้ค่าอุปการะเลี้ยงดูนั้น จะสละหรือโอนมิได้... เช่นนี้ ข้อตกลงดังกล่าวซึ่งมีลักษณะเป็นการสละสิทธิที่จะเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร จึงใช้บังคับมิได้ แต่การที่โจทก์แถลงเช่นนั้นพอจะถือได้ว่าเป็นพฤติการณ์ที่ใช้พิจารณาประกอบรายได้ ฐานะของโจทก์และจำเลยในการกำหนดให้จำเลยชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร ตามมาตรา 1598/39
การยื่นฟ้องเพื่อเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูในการดำเนินกระบวนพิจารณาย่อมได้รับยกเว้นไม่ต้องชำระค่าขึ้นศาลและค่าฤชาธรรมเนียม ตาม พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553 มาตรา 155 ไม่มีค่าขึ้นศาลและค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นฎีกาที่จะต้องสั่ง
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 1598/39 เมื่อผู้มีส่วนได้เสียแสดงว่าพฤติการณ์ รายได้ หรือฐานะของคู่กรณีได้เปลี่ยนแปลงไป ศาลจะสั่งแก้ไขในเรื่องค่าอุปการะเลี้ยงดูโดยให้เพิกถอน ลด เพิ่ม หรือกลับให้ค่าอุปการะเลี้ยงดูอีกก็ได้
ในกรณีที่ศาลไม่พิพากษาให้ค่าอุปการะเลี้ยงดู เพราะเหตุแต่เพียงอีกฝ่ายหนึ่งไม่อยู่ในฐานะที่จะให้ค่าอุปการะเลี้ยงดูได้ในขณะนั้น หากพฤติการณ์ รายได้ หรือฐานะของอีกฝ่ายหนึ่งนั้นได้เปลี่ยนแปลงไป และพฤติการณ์รายได้หรือฐานะของผู้เรียกร้องอยู่ในสภาพที่ควรได้รับค่าอุปการะเลี้ยงดู ผู้เรียกร้องอาจร้องขอให้ศาลเปลี่ยนแปลงคำสั่งในคดีนั้นใหม่ได้
มาตรา 1593/41 สิทธิที่จะได้ค่าอุปการะเลี้ยงดูนั้น จะสละหรือโอนมิได้และไม่อยู่ในข่ายแห่งการบังคับคดี
#ปรึกษาคดี โทร.02-9485700, 081-6161425, 081-8217470,081-6252161
#ค่าอุปการะ #เลี้ยงดูบุตร #ทนายคลายทุกข์