คดีที่ราษฎรฟ้องเอง สามารถขอหมายค้นได้หรือไม่ ?|คดีที่ราษฎรฟ้องเอง สามารถขอหมายค้นได้หรือไม่ ?

คดีที่ราษฎรฟ้องเอง สามารถขอหมายค้นได้หรือไม่ ?

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

คดีที่ราษฎรฟ้องเอง สามารถขอหมายค้นได้หรือไม่ ?

  • Defalut Image

โจทก์ฎีกาโดยนำแบบพิมพ์คำร้องมาขีดฆ่าแก้ไขแล้วเขียนข้อความใหม่เป็นฎีกา

บทความวันที่ 28 พ.ค. 2563, 10:06

มีผู้อ่านทั้งหมด 1168 ครั้ง


คดีที่ราษฎรฟ้องเอง สามารถขอหมายค้นได้หรือไม่ ?

คำพิพากษาฎีกาที่ 6864/2562
              โจทก์ฎีกาโดยนำแบบพิมพ์คำร้องมาขีดฆ่าแก้ไขแล้วเขียนข้อความใหม่เป็นฎีกา โดยไม่ใด้ใช้แบบพิมพ์ฎีกาและคำขอท้ายฎีกาให้ถูกต้องตามแบบที่กฎหมายกำหนด แต่ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับฎีกาของโจทก์โดยไม่ได้สั่งให้โจทก์ดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องเสียก่อนแม้ เป็นการไม่ชอบ แต่คดีขึ้นมาสู่การพิจารณาของศาลฎีกาแล้ว เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าศาลฎีกาสมควรวินิจฉัยฎีกาของโจทก์
    คดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์ฟ้องต่อศาลเองและมีการไต่สวนมูลฟ้อง หากราษฎรผู้เป็นโจทก์มีความจำเป็นต้องการค้นหาสิ่งของซึ่งอยู่ในความครบอครองของผู้อื่นเพื่อจะนำมาเป็นพยานหลักฐานประกอบการไต่สวนมูลฟ้องคดีของตนก็ชอบที่จะยื่นคำร้องขอให้ศาลออกหมายค้นเพื่อพบและยึดสิ่งของนั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 69 (1) มิใช่เป็นอำนาจของพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจโดยเฉพาะที่จะร้องขอให้ศาลออกหมายค้นตามมาตรา 59 วรรคสอง
    โจทก์ซึ่งเป็นราษฎรขอให้ศาลชั้นต้นออกหมายค้นเพื่อนำไปค้นหาพยานหลักฐานมาประกอบฎีกาในระหว่างที่โจทก์ได้รับอนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นฎีกาย่อมล่วงพ้นกำหนดเวลาที่จำนำพยานหลักฐานอื่นมาแสดงต่อศาลแล้ว การที่โจทก์มิได้อ้างอิงพยานวัตถุที่ต้องการให้ศาลออกหมายค้นไว้เป็นพยานหลักฐานในบัญชีระบุพยานตั้งแต่แรกหรือยื่นคำร้องขอระบุพยานเพิ่มเติมต่อศาล พยานวัตถุที่โจทก์ต้องการ    ให้ศาลออกหมายค้นย่อมไม่อาจรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 229/1 วรรท้าย ไม่มีเหตุให้ศาลชั้นต้นออกหมายค้นแก่โจทก์

ตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
มาตรา 59
  ศาลจะออกคำสั่งหรือหมายจับ หมายค้น หรือหมายขัง ตามที่ศาลเห็นสมควรหรือโดยมีผู้ร้องขอก็ได้
    ในกรณีที่ผู้ร้องขอเป็นพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ ต้องเป็นพนักงานฝ่ายปกครองตั้งแต่ระดับสามหรือตำรวจซึ่งมียศตั้งแต่ชั้นร้อยตำรวจตรีหรือเทียบเท่าขึ้นไป
    ในกรณีจำเป็นเร่งด่วนซึ่งมีเหตุอันควรโดยผู้ร้องขอไม่อาจไปพบศาลได้ ผู้ร้องขออาจร้องขอต่อศาลทางโทรศัพท์ โทรสาร สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศประเภทอื่นที่เหมาะสมเพื่อขอให้ศาลออกหมายจับหรือหมายค้นก็ได้ ในกรณีเช่นว่านี้เมื่อศาลสอบถามจนปรากฏว่ามีเหตุที่จะออกหมายจับหรือหมายค้นได้ตามมาตรา 59/1  และมีคำสั่งให้ออกหมายนั้นแล้ว ให้จัดส่งสำเนาหมายเช่นว่านี้ไปยังผู้ร้องขอโดยทางโทรสาร สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศประเภทอื่น  ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในข้อบังคับของประธานศาลฎีกา
    เมื่อได้มีการออกหมายตามวรรคสามแล้ว ให้ศาลดำเนินการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการขอหมายมาพบศาลเพื่อสาบานตัวโดยไม่ชักช้า โดยจดบันทึกถ้อยคำของบุคคลดังกล่าวและลงลายมือชื่อของศาลผู้ออกหมายไว้ หรือจะใช้เครื่องบันทึกเสียงก็ได้โดยจัดให้มีการถอดเสียงเป็นหนังสือและลงลายมือชื่อของศาลผู้ออกหมาย บันทึกที่มีการลงลายมือชื่อรับรองดังกล่าวแล้ว ให้เก็บไว้ในสารบบของศาล หากความปรากฏต่อศาลในภายหลังว่าได้มีการออกหมายไปโดยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ศาลอาจมีคำสั่งให้เพิกถอนหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงหมายเช่นว่านั้นได้  ทั้งนี้ ศาลจะมีคำสั่งให้ผู้ร้องขอจัดการแก้ไขเพื่อเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่บุคคลที่เกี่ยวข้องตามที่เห็นสมควรก็ได้
มาตรา 69  เหตุที่จะออกหมายค้นได้มีดังต่อไปนี้
(1) เพื่อพบและยึดสิ่งของซึ่งจะเป็นพยานหลักฐานประกอบการสอบสวน ไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจารณา
(2) เพื่อพบและยึดสิ่งของซึ่งมีไว้เป็นความผิด หรือได้มาโดยผิดกฎหมาย หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าได้ใช้หรือตั้งใจจะใช้ในการกระทำความผิด
(3) เพื่อพบและช่วยบุคคลซึ่งได้ถูกหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
(4) เพื่อพบบุคคลซึ่งมีหมายให้จับ
(5) เพื่อพบและยึดสิ่งของตามคำพิพากษาหรือตามคำสั่งศาล ในกรณีที่จะพบหรือจะยึดโดยวิธีอื่นไม่ได้แล้ว

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก