ใช้ล้อรถจักรยานยนต์ตี และผลักลงบ่อปลา เป็นการฆ่าโดยเล็งเห็นผล|ใช้ล้อรถจักรยานยนต์ตี และผลักลงบ่อปลา เป็นการฆ่าโดยเล็งเห็นผล

ใช้ล้อรถจักรยานยนต์ตี และผลักลงบ่อปลา เป็นการฆ่าโดยเล็งเห็นผล

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

ใช้ล้อรถจักรยานยนต์ตี และผลักลงบ่อปลา เป็นการฆ่าโดยเล็งเห็นผล

  • Defalut Image

จำเลยใช้ล้อรถจักรยานยนต์ตีผู้ตายที่ศีรษะหลายครั้ง มีบาดดแผลฉีกขาดถึงกระโหลกประมาณ 6 แผล

บทความวันที่ 24 ม.ค. 2563, 09:51

มีผู้อ่านทั้งหมด 893 ครั้ง


ใช้ล้อรถจักรยานยนต์ตี และผลักลงบ่อปลา เป็นการฆ่าโดยเล็งเห็นผล
 
              จำเลยใช้ล้อรถจักรยานยนต์ตีผู้ตายที่ศีรษะหลายครั้ง มีบาดดแผลฉีกขาดถึงกระโหลกประมาณ 6 แผล และจำเลยยังได้ผลักผู้ตายลงไปในบ่อปลาที่มีความลึกประมาณ 2-3 เมตร ถือว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าโดยเล็งเห็นผล มิใช่มีเจตนาทำร้าย ต่อมาเมื่อผู้ตายถึงแก่ความตาย จำเลยจึงต้องรับผิดฐานฆ่าผู้อื่น มิใช่ฐานทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แม้แพทย์จะไม่สามารถลงความเห็นได้ว่าผู้ตาย ถึงแก่ความตายเพราะเลือดออกในสมองหรือจมน้ำ ก็ต้องถือว่าผู้ตายตายเพราะถูกจำเลยฆ่าโดยเล็งเห็นผล

คำพิพากษาฎีกาที่ 6386/2560
             จำเลยใช้ล้อรถจักรยานยนต์เป็นอาวุธตีทำร้ายผู้ตายที่ศีรษะหลายที่ มีบาเแผลฉีกขาดยาวแผลละประมาณ 6 ถึง 7 เซนติเมตร ประมาณ 6 แผล แผลฉีกขาดถึงกะโหลก ซึ่งลักษณะความกรรจ์ของบาดแผลดังกล่าว แสดงว่าจำเลยตีอย่างรุนแรง เเละเมื่อทิ้งล้อรถจักรยานยนต์ลงในบ่อแล้ว จำเลยยังได้ผลักผู้ตายลงไปในบ่อปลาที่เกิดเหตุด้วย บ่อปลาที่เกิดเหตุมีความลึกกว่า 2 เมตร ถึง 3 เมตร จำเลยย่อมคาดหมายได้แน่แท้ว่าผู้ตายซึ่งได้รับอันครายแก่กายที่ศีรษะเนื่องจากถูกจำเลยใช้ล้อรถจักรยานยนต์ตีทำร้ายนั้น อาจจมน้ำถึงแก่ความตายได้ ถือได้ว่าจำเลยทำร้ายผู้ตายโดยมีเจตนาฆ่าผู้ตายโดยเล็งเห็นผล ตามปอ. มาตรา 59 วรรคสอง เมื่อปรากฏว่าผู้ตายถึงแก่ความตาย แม้แพทย์ผู้ชันสูตรพลิกศพจะแสดงความเห็นว่าสาเหตุการตายไม่สามารถแยกได้ว่าตายจากเลือดออกในสมองก่อนหรือจมน้ำตาย ก็ต้องถือว่าผู้ตายถึงแก่ความตายเพราะถูกจำเลยทำร้ายโดยมีเจตนาฆ่าผู้ตายโดยเล็งเห็นผล หาใช่จำเลยมีเพียงเจตนาทำร้ายไม่

ตัวบทกฏหมายอ้างอิง
ประมวลกฏหมายอาญา
มาตรา 59 
บุคคลจะต้องรับผิดในทางอาญาก็ต่อเมื่อได้กระทำโดยเจตนา เว้นแต่จะได้กระทำโดยประมาท ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติให้ต้องรับผิดเมื่อได้กระทำโดยประมาท หรือเว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติไว้โดยแจ้งชัดให้ต้องรับผิดแม้ได้กระทำโดยไม่มีเจตนา
            กระทำโดยเจตนา ได้แก่กระทำโดยรู้สำนึกในการที่กระทำและในขณะเดียวกันผู้กระทำประสงค์ต่อผล หรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้น
           ถ้าผู้กระทำมิได้รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบของความผิด จะถือว่าผู้กระทำประสงค์ต่อผล หรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้นมิได้
           กระทำโดยประมาท ได้แก่กระทำความผิดมิใช่โดยเจตนา แต่กระทำโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ และผู้กระทำอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้ แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่
           การกระทำ ให้หมายความรวมถึงการให้เกิดผลอันหนึ่งอันใดขึ้นโดยงดเว้นการที่จักต้องกระทำเพื่อป้องกันผลนั้นด้วย

มาตรา 288  ผู้ใดฆ่าผู้อื่น ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี

 

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก