เมื่อสิ้นสุดสัญญาเช่าแล้วผู้เช่าไม่ยอมย้ายออก ผู้ให้เช่านำทรัพย์สินของผู้เช่าออกขายทอดตลาดถือเป็นการละเมิดต่อผู้เช่า|เมื่อสิ้นสุดสัญญาเช่าแล้วผู้เช่าไม่ยอมย้ายออก ผู้ให้เช่านำทรัพย์สินของผู้เช่าออกขายทอดตลาดถือเป็นการละเมิดต่อผู้เช่า

เมื่อสิ้นสุดสัญญาเช่าแล้วผู้เช่าไม่ยอมย้ายออก ผู้ให้เช่านำทรัพย์สินของผู้เช่าออกขายทอดตลาดถือเป็นการละเมิดต่อผู้เช่า

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

เมื่อสิ้นสุดสัญญาเช่าแล้วผู้เช่าไม่ยอมย้ายออก ผู้ให้เช่านำทรัพย์สินของผู้เช่าออกขายทอดตลาดถือเป็นการละเมิดต่อผู้เช่า

  • Defalut Image

คดีนี้ ผู้ให้เช่าให้เช่าพื้นที่เพื่อทำร้านมินิมาร์ท ต่อมาสิ้นสุดสัญญาเช่าแล้วผู้เช่าไม่ย้ายออก

บทความวันที่ 9 ม.ค. 2563, 09:59

มีผู้อ่านทั้งหมด 1563 ครั้ง


เมื่อสิ้นสุดสัญญาเช่าแล้วผู้เช่าไม่ยอมย้ายออก ผู้ให้เช่านำทรัพย์สินของผู้เช่าออกขายทอดตลาดถือเป็นการละเมิดต่อผู้เช่า

             คดีนี้ ผู้ให้เช่าให้เช่าพื้นที่เพื่อทำร้านมินิมาร์ท ต่อมาสิ้นสุดสัญญาเช่าแล้วผู้เช่าไม่ย้ายออก ผู้ให้เช่าได้มีหนังสือถึงผู้เช่าให้ขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากพื้นที่เช่าแล้วแต่ผู้เช่าเพิกเฉย ผู้ให้เช่าจึงกลับเข้าครอบครองพื้นที่เช่า และนำทรัพย์สินที่อยู่ในพื้นที่เช่าออกขายทอดตลาด ถือเป็นการกระทำละเมิดต่อผู้เช่า ต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เช่า แต่ผู้เช่าซึ่งไม่ยอมย้ายออก และไม่ติดตามดูการขายทอดตลาดทรัพย์สินของตนเองที่อยู่ในพื้นที่เช่า ถือว่ามีส่วนก่อให้เกิดความเสียหายด้วย ศาลจึงกำหนดค่าเสียหายที่ให้จำเลยต้องจ่ายให้โจทก์น้อยลงได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3379/2560
           แม้การที่จำเลยที่ 1 เข้าครอบครองพื้นที่ที่เช่าและขนย้ายสินค้าและทรัพย์สินของโจทก์ออกไปจะเป็นละเมิด แต่ก่อนที่จำเลยที่ 1 จะขนย้ายสินค้าและทรัพย์สินไปเก็บรักษาไว้ จำเลยที่ 1 มีหนังสือถึงฝ่ายโจทก์ให้โอกาสขนย้ายไปได้ สำหรับการขายสินค้าและทรัพย์สินก็ขายทอดตลาดโดยเปิดเผย แต่ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้คอยดูแลติดต่อสอบถามและรับเอาสินค้ารวมถึงทรัพย์สินคืน หรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับการขายทอดตลาดนั้นอย่างไร จำเลยที่ 1 จึงขายทอดตลาดทรัพย์สินไป พฤติการณ์แห่งคดีถือได้ว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นก็เพราะความผิดของโจทก์ผู้ต้องเสียหายประกอบด้วยดังที่บัญญัติไว้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 442 โดยบัญญัติดังกล่าวให้นำบทบัญญัติมาตรา 223 มาใช้บังคับอนุโลม ซึ่งมาตรา 223 บัญญัติว่า "ถ้าฝ่ายผู้เสียหายได้มีส่วนทำความผิดอย่างใดอย่างหนึ่งก่อให้เกิดความเสียหายไซร้ ท่านว่าหนี้อันจะต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ฝ่ายผู้เสียหายมากน้อยเพียงใดนั้น ต้องอาศัยพฤติการณ์เป็นประมาณ ข้อสำคัญคือว่าความเสียหายนั้นได้เกิดขึ้นเพราะฝ่ายไหนเป็นผู้ก่อยิ่งหย่อนกว่ากันเพียงใด" ตามพฤติการณ์แห่งคดีฝ่ายโจทก์ซึ่งเป็นผู้เสียหายมีส่วนผิดอันก่อให้เกิดความเสียหายเป็นสัดส่วนที่ไม่น้อยไปกว่าความเสียหายที่จำเลยที่ 1 ก่อมากนัก จึงเห็นสมควรกำหนดค่าเสียหายในส่วนนี้ให้แก่โจทก์

ตัวบทกฏหมายอ้างอิง
ประมวลกฏหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 432
  ถ้าบุคคลหลายคนก่อให้เกิดเสียหายแก่บุคคลอื่นโดยร่วมกันทำละเมิด ท่านว่าบุคคลเหล่านั้นจะต้องร่วมกันรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายนั้น ความข้อนี้ท่านให้ใช้ตลอดถึงกรณีที่ไม่สามารถสืบรู้ตัวได้แน่ว่าในจำพวกที่ทำละเมิดร่วมกันนั้น คนไหนเป็นผู้ก่อให้เกิดเสียหายนั้นด้วย
อนึ่ง บุคคลผู้ยุยงส่งเสริมหรือช่วยเหลือในการทำละเมิด ท่านก็ให้ถือว่าเป็นผู้กระทำละเมิดร่วมกันด้วย
ในระหว่างบุคคลทั้งหลายซึ่งต้องรับผิดร่วมกันใช้ค่าสินไหมทดแทนนั้น ท่านว่าต่างต้องรับผิดเป็นส่วนเท่า ๆ กัน เว้นแต่โดยพฤติการณ์ ศาลจะวินิจฉัยเป็นประการอื่น

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก