คดีอาญาถ้าจำเลยจะยื่นฎีกาจำเลยต้องคัดค้านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์
คดีอาญาถ้าจำเลยจะยื่นฎีกาจำเลยต้องคัดค้านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ไม่ใช่ไปคัดค้านคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ถ้าจำเลยไม่ได้คัดค้านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ในการฎีกา ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยเพราะเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 216 วรรคหนึ่ง ทนายใหม่ๆ ซึ่งไม่เคยเขียนฎีกาต้องระมัดระวังนะครับ ถ้าไม่มีความรู้ ไม่มีประสบการณ์ ก็อย่าไปรับคดีของลูกความมาทำ เพราะเป็นการซ้ำเติมลูกความ ทำให้ลูกความเสียสิทธิ์ในการฎีกา
คำพิพากษาฎีกาที่ 1661/2561
ฎีกาของจำเลยที่ว่า จำเลยไม่เห็นพ้องด้วยกับศาลชั้นต้นที่วินิจฉัยว่าพยานหลักฐานที่อยู่ของจำเลยมีน้ำหนักน้อย เพราะหากพิจารณาพยานหลักฐานประกอบเข้าด้วยกันแล้ว เชื่อได้ว่าจำเลยไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุและไม่ได้กระทำความผิดตามฟ้อง เป็นฎีกาโต้แย้งเฉพาะคำพิพากษาศาลชั้นต้น มิได้โต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 9 ว่าพิพากษาไม่ถูกต้องอย่างไร เป็นฎีกาที่มิได้คัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 9 เป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 216 วรรคหนึ่ง แม้ผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงและสั่งรับฎีกาของจำเลยในข้อนี้มา ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้