สัญญาประนีประนอมยอมความมิได้กำหนดดอกเบี้ยไว้ จะตีความว่าผิดนัดแล้วต้องชำระดอกเบี้ยไม่ได้|สัญญาประนีประนอมยอมความมิได้กำหนดดอกเบี้ยไว้ จะตีความว่าผิดนัดแล้วต้องชำระดอกเบี้ยไม่ได้

สัญญาประนีประนอมยอมความมิได้กำหนดดอกเบี้ยไว้ จะตีความว่าผิดนัดแล้วต้องชำระดอกเบี้ยไม่ได้

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

สัญญาประนีประนอมยอมความมิได้กำหนดดอกเบี้ยไว้ จะตีความว่าผิดนัดแล้วต้องชำระดอกเบี้ยไม่ได้

  • Defalut Image

สัญญาประนีประนอมยอมความมิได้กำหนดดอกเบี้ยไว้ จะตีความว่าผิดนัดแล้วต้องชำระดอกเบี้ยไม่ได้

บทความวันที่ 31 ก.ค. 2561, 14:45

มีผู้อ่านทั้งหมด 1668 ครั้ง


สัญญาประนีประนอมยอมความมิได้กำหนดดอกเบี้ยไว้ จะตีความว่าผิดนัดแล้วต้องชำระดอกเบี้ยไม่ได้

               สัญญาประนีประนอมยอมความมิได้กำหนดดอกเบี้ยไว้ จะตีความว่าผิดนัดแล้วต้องชำระดอกเบี้ยไม่ได้ ไม่ชอบด้วยหลักการตีความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 11 และมาตรา 224 ในสัญญายอมเขียนชัดเจนว่า ไม่ติดใจเรียกร้องสิ่งอื่นใด ยิ่งแสดงให้เห็นเจตนาว่าไม่ติดใจเรียกร้อง นอกจากต้นเงิน ดังนั้น เมื่อจำเลยผิดนัด โจทก์จึงไม่มีสิทธิคิดดอกเบี้ยจากจำเลย ในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี  อ้างอิงคำพิพากษาฎีกาที่ 5299/2559

คำพิพากษาศาลฎีกาอ้างอิง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5299/2559

                 แม้สัญญาประนีประนอมยอมความข้อ 2 และข้อ 3 ระบุว่า หากจำเลยขายที่ดินทั้งสองแปลงได้ภายใน 2 ปี จำเลยจะชำระหนี้ให้โจทก์ 1,500,000 บาท โดยโจทก์ไม่คิดดอกเบี้ย หากจำเลยผิดนัด ให้โจทก์บังคับคดีได้ทันทีก็ตาม แต่สัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวมิได้กำหนดไว้ว่า หากจำเลยผิดนัดให้โจทก์มีสิทธิคิดดอกเบี้ยจากจำเลยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี แสดงว่าคู่สัญญามิได้ประสงค์ที่จะให้มีการคิดดอกเบี้ยเมื่อมีการผิดนัด จะตีความสัญญาประนีประนอมยอมความว่า หากจำเลยไม่ชำระหนี้ภายใน 2 ปี นับแต่วันทำสัญญาแล้ว จำเลยต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยในกรณีผิดนัดด้วยนั้น เป็นการตีความเพื่อให้จำเลยรับผิดเพิ่มขึ้นซึ่งตามสัญญามิได้กำหนดความรับผิดในส่วนดอกเบี้ยไว้ ย่อมไม่ชอบด้วยหลักของการตีความ ทั้งตามสัญญาข้อ 5 มีข้อความระบุด้วยว่า โจทก์และจำเลยไม่ติดใจเรียกร้องสิ่งใดอีก ยิ่งแสดงให้เห็นเจตนาของโจทก์ได้ว่าไม่ติดใจเรียกร้องสิ่งอื่นใดนอกเหนือไปจากจำนวนเงิน 1,500,000 บาท ตามที่ตกลงกันเท่านั้น โจทก์จึงไม่มีสิทธิคิดดอกเบี้ยจากจำเลย

ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 11
 ในกรณีที่มีข้อสงสัย ให้ตีความไปในทางที่เป็นคุณแก่คู่กรณีฝ่ายซึ่งจะเป็นผู้ต้องเสียในมูลหนี้นั้น

มาตรา 224  หนี้เงินนั้น ท่านให้คิดดอกเบี้ยในระหว่างเวลาผิดนัดร้อยละเจ็ดกึ่งต่อปี ถ้าเจ้าหนี้อาจจะเรียกดอกเบี้ยได้สูงกว่านั้นโดยอาศัยเหตุอย่างอื่นอันชอบด้วยกฎหมาย ก็ให้คงส่งดอกเบี้ยต่อไปตามนั้น
        ท่านห้ามมิให้คิดดอกเบี้ยซ้อนดอกเบี้ยในระหว่างผิดนัด
        การพิสูจน์ค่าเสียหายอย่างอื่นนอกกว่านั้น ท่านอนุญาตให้พิสูจน์ได้

สอบถามข้อกฎหมาย 081 616 1425 หรือ 02 948 5700 

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก