แจ้งความเท็จกลั่นแกล้งผู้อื่น
รู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวนว่าได้มีการกระทำความผิดเพื่อจะแกล้งให้ผู้อื่นต้องรับโทษ เป็นความผิดฐานใด
คำพิพากษาฎีกาที่ 3014/2560
จำเลยรู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด เพื่อจะแกล้งให้โจทก์ต้องรับโทษ ตาม ป.อ. มาตรา 174 วรรคสอง ประกอบ มาตรา 173 เมื่อการกระทำของจำเลยเป็นความผิด ป.อ. มาตรา 174 วรรคสอง ประกอบมาตรา 173 อันเป็นบทเฉพาะแล้วก็ย่อมไม่จำต้องปรับบทความผิดตามมาตรา 137 อันเป็นบทความผิดตามมาตรา 172 ด้วย ปัญหาดังกล่าวมานี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกาศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง ตาม ปวิอ. มาตรา 225 ประกอบมาตรา 195 วรรคสอง
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 173 ผู้ใดรู้ว่ามิได้มีการกระทําความผิดเกิดขึ้น แจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอํานาจสืบสวนคดีอาญาว่า ได้มีการกระทําความผิด ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปีและปรับไม่เกินหกหมื่นบาท
มาตรา 174 ถ้าการแจ้งข้อความตามมาตรา 172 หรือมาตรา 173 เป็นการเพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องถูกบังคับตามวิธีการเพื่อความปลอดภัย ผู้กระทําต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปีและปรับไม่เกินหกหมื่นบาท
ถ้าการแจ้งตามความในวรรคแรก เป็นการเพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องรับโทษหรือรับโทษหนักขึ้น ผู้กระทําต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปีและปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท
สมคบกันจดทะเบียนโอนขายและให้ที่ดินโดยไม่สุจริตไม่มีการชำระเงินกันจริง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เจ้าหนี้บังคับคดีได้หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่น หากมีการโอนที่ดินดังกล่าวต่อให้แก่บุคคลภายนอก เจ้าหนี้จะฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรม ได้หรือไม่
คำพิพากษาฎีกาที่ 10243/2556
จำเลยที่ 1 และที่ 2 สมคบกันจดทะเบียนโอนขายและให้ที่ดินพิพาททั้งสี่แปลงโดยไม่สุจริตและไม่มีการชำระเงินกันจริง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้โจทก์บังคับคดีจากจำเลยที่ 1 ได้ การแสดงเจตนาของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ในทางทะเบียนเกี่ยวกับที่ดินพิพาททั้งสี่แปลงดังกล่าว เป็นการแสดงเจตนาลวงโดยสมรู้กัน จึงตกเป็นโมฆะตาม ป.พ.พ.มาตรา 155 วรรคหนึ่ง แต่จะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกผู้กระทำการโดยสุจริตและต้องเสียหายจากการแสดงเจตนาลวงนั้นมิได้ จำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกได้จดทะเบียนรับจำนองที่ดินพิพาทไว้โดยสุจริตไม่ทราบมาก่อนว่าจำเลยที่ 1 เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาของโจทก์ โจทก์จึงไม่อาจเพิกถอนการจดทะเบียนจำนองดังกล่าวได้ คงเพิกถอนได้เฉพาะนิติกรรมการจดทะเบียนโอนขายและยกให้ที่ดินพิพาทระหว่างจำเลยที่ 1 กับที่ 2 เท่านั้น
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 155 การแสดงเจตนาลวงโดยสมรู้กับคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งเป็นโมฆะ แต่จะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกผู้กระทำการโดยสุจริต และต้องเสียหายจากการแสดงเจตนาลวงนั้นมิได้
ถ้าการแสดงเจตนาลวงตามวรรคหนึ่งทำขึ้นเพื่ออำพรางนิติกรรมอื่น ให้นำบทบัญญัติของกฎหมายอันเกี่ยวกับนิติกรรมที่ถูกอำพรางมาใช้บังคับ
ที่มา บทบรรณาธิการ รวมคำบรรยาย เนติภาค 1 สมัยที่ 71 เล่มที่ 8
ปรึกษาข้อกฎหมายกับทีมทนายความ ทนายคลายทุกข์ โทร.02-9485700, 081-6161425