เจ้าหนี้ยึดสินส่วนตัวของคู่สมรสฝ่ายที่ไม่ถูกฟ้องไม่ได้ เป็นบุคคลภายนอกคดี
เจ้าหนี้ไม่สามารถยึดสินส่วนตัวของคู่สมรสได้ เพราะไม่ได้เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษา เนื่องจากเป็นบุคคลภายนอกคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่อ้างอิง
1.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 445/2540
จำเลยที่2สามีของผู้ร้องได้ทำสัญญาค้ำประกันหนี้ของบริษัทบ. แก่โจทก์โดยผู้ร้องได้ให้ความยินยอมในภายหลังและให้ถือเสมือนหนึ่งว่าเป็นการกระทำของผู้ร้องเองถือได้ว่าหนี้ตามสัญญาค้ำประกันที่จำเลยที่2เป็นผู้ก่อขึ้นในระหว่างสมรสผู้ร้องได้ให้สัตยาบันแล้วจึงเป็นหนี้ร่วมระหว่างผู้ร้องและจำเลยที่2ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1490(4)แต่สินส่วนตัวของภริยาไม่ใช่ทรัพย์สินที่เป็นของภริยาซึ่งตามกฎหมายอาจถือได้ว่าเป็นทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือเป็นทรัพย์สินที่อาจบังคับเอาชำระหนี้ตามคำพิพากษาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา282วรรคท้ายโจทก์มิได้ฟ้องผู้ร้องเป็นจำเลยผู้ร้องมิได้เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาของโจทก์แม้หนี้ที่จำเลยที่2เป็นหนี้โจทก์จะเป็นหนี้ร่วมระหว่างจำเลยที่2กับผู้ร้องโจทก์ก็ไม่มีอำนาจยึดสินส่วนตัวของผู้ร้องเพื่อชำระหนี้แก่โจทก์ได้
2.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 523/2534
แม้หนี้ที่โจทก์ฟ้องจำเลยจะเป็นหนี้ร่วมระหว่างจำเลยกับผู้ร้องซึ่งเคยเป็นสามีภริยากันหรือไม่ก็ตาม โจทก์ก็จะนำยึดสินส่วนตัวของผู้ร้องซึ่งเป็นบุคคลนอกคดีไม่ได้
3.คำพิพากษาฎีกาที่ 2429/2555
เมื่อผู้เสียหายมิได้ฟ้องให้ผู้ร้องร่วมรับผิดกับจำเลยตามหนังสือรับสภาพหนี้ ผู้ร้องจึงไม่ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยในจำนวนที่จำเลยต้องชดใช้แก่ผู้เสียหายตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นนั้นด้วย ผู้เสียหายจึงไม่มีสิทธินำยึดที่ดินอันเป็นสินส่วนตัวของผู้ร้องเพื่อชำระหนี้แก่ตนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นได้ เพราะสินส่วนตัวของผู้ร้องไม่ใช่ทรัพย์สินที่เป็นของภริยาซึ่งตามกฎหมายอาจถือได้ว่าเป็นทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา หรือเป็นทรัพย์สินที่อาจบังคับเอาชำระหนี้ตามคำพิพากษาได้ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 282 วรรคท้าย (ปัจจุบันคือมาตรา 297)
4. คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2740/2559
แม้ผู้ร้องยอมให้จำเลยทำสัญญากู้กับโจทก์และนำโฉนดที่ดินพิพาทมาวางแก่โจทก์เป็นประกัน เมื่อที่ดินพิพาทเป็นสินส่วนตัวของผู้ร้องซึ่งไม่ใช่ทรัพย์สินจำเลยซึ่งตามกฎหมายอาจถือได้ว่าเป็นทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือทรัพย์สินที่อาจบังคับชำระหนี้ตามคำพิพากษาได้ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 282 วรรคท้าย ทั้งโจทก์มิได้ฟ้องร้องเป็นจำเลย ผู้ร้องมิได้เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาของโจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจยึดที่ดินพิพาทซึ่งเป็นสินส่วนตัวของผู้ร้องเพื่อชำระหนี้แก่โจทก์ได้
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 1490 หนี้ที่สามีภริยาเป็นลูกหนี้ร่วมกันนั้นให้รวมถึงหนี้ที่สามีหรือภริยาก่อให้เกิดขึ้นในระหว่างสมรส ดังต่อไปนี้
(1) หนี้เกี่ยวแก่การจัดการบ้านเรือนและจัดหาสิ่งจำเป็นสำหรับครอบครัว การอุปการะเลี้ยงดูตลอดถึงการรักษาพยาบาลบุคคลในครอบครัวและการศึกษาของบุตรตามสมควรแก่อัตภาพ
(2) หนี้ที่เกี่ยวข้องกับสินสมรส
(3) หนี้ที่เกิดขึ้นเนื่องจากการงานซึ่งสามีภริยาทำด้วยกัน
(4) หนี้ที่สามีหรือภริยาก่อขึ้นเพื่อประโยชน์ตนฝ่ายเดียวแต่อีกฝ่ายหนึ่งได้ให้สัตยาบัน
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
มาตรา 297 ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจบังคับคดีเอากับทรัพย์สินดังต่อไปนี้ได้เช่นเดียวกับที่บัญญัติไว้ในมาตรา 296
(1) สินสมรสของคู่สมรสของลูกหนี้ตามคำพิพากษา เฉพาะในกรณีที่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาและคู่สมรสเป็นลูกหนี้ร่วมกันตามมาตรา 1490 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือทรัพย์สินของคู่สมรสของลูกหนี้ตามคำพิพากษาซึ่งตามกฎหมายอาจบังคับเอาชำระหนี้ตามคำพิพากษาได้
(2) ทรัพย์สินของบุคคลอื่นซึ่งตามกฎหมายอาจบังคับเอาชำระหนี้ตามคำพิพากษาได้
ให้นำบทบัญญัติในลักษณะ 2 แห่งภาคนี้ที่เกี่ยวกับการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษามาใช้บังคับในการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของบุคคลตามมาตรานี้โดยอนุโลม
ปรึกษาข้อกฎหมายกับทีมทนายความ ทนายคลายทุกข์ โทร.02-9485700, 081-6161425