ข้อกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองบุคคลภายนอกซึ่งสุจริต/ทนายคลายทุกข์/ทนายความ
โจทก์เป็นบุคคลภายนอกซึ่งสุจริตจึงได้รับความคุ้มครอง คดีนี้ตัวการลงชื่อในใบมอบอำนาจให้แก่ตัวแทนเพื่อรับมรดกที่ดินตัวแทนกลับให้ผู้อื่นลงชื่อเป็นผู้รับมอบอำนาจแล้วกรอกข้อความโอนขายที่ดินแก่ตัวแทนเองเช่นนี้กรณีไม่ต้องด้วยมาตรา 822 จะเป็นการโอนโดยไม่มีอำนาจตัวการฟ้องเรียกที่ดินคืนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 226/2520
โจทก์ทำสัญญากับจำเลยผู้เป็นบุตรว่า โจทก์ยินยอมสละสิทธิในการรับมรดกซึ่งมีสังหาริมทรัพย์ อสังหาริมทรัพย์สิทธิและประโยชน์ซึ่งโจทก์มีสิทธิได้รับจากบิดาโจทก์โดยยินยอมให้ทรัพย์มรดกดังกล่าวตกทอดได้แก่จำเลย สัญญาดังกล่าวมิใช่สัญญาประนีประนอมยอมความเพราะโจทก์จำเลยมิได้มีข้อพิพาทกันเกี่ยวกับทรัพย์มรดกของบิดาโจทก์ ในขณะทำสัญญาหรือจะมีขึ้นในภายหน้าหากเป็นสัญญาให้สังหาริมทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์
สัญญาให้สังหาริมทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์เมื่อไม่ได้มีการส่งมอบทรัพย์สินที่ให้ ทั้งไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 523 ถึง 525 บังคับไว้ย่อมไม่สมบูรณ์ เท่ากับไม่มีสัญญาให้ซึ่งสังหาริมทรัพย์และที่เกี่ยวกับการให้อสังหาริมทรัพย์และทรัพย์สินซึ่งถ้าจะซื้อขายกันจะต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เมื่อไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็ตกเป็นโมฆะ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 115
โจทก์ฟ้องขอให้พิพากษาว่าสัญญาดังกล่าวเป็นโมฆะแม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นต่อสู้เป็นประเด็นไว้ศาลก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ว่าสัญญาดังกล่าวมิใช่สัญญาประนีประนอมยอมความ หากเป็นสัญญาให้ที่ไม่สมบูรณ์และเป็นโมฆะเพราะเป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5)