รับจำนำรถผ่านเน็ต
มีมิจฉาชีพจำนวนไม่น้อยที่อาศัยช่องว่างของกฎหมายมาหากินกับบุคคลที่ได้รับความเดือดร้อน และเรื่องที่ทนายคลายทุกข์จะนำเสนอในวันนี้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทุกวันในสังคมบ้านเรา กรณีไปซื้อรถยนต์และไม่มีเงินชำระค่างวด นำรถไปจำนำในเต็นท์รถมือสองหรือพวกพ่อค้าหัวใส กลโกงของมิจฉาชีพกลุ่มนี้จะไปโพสต์ข้อความรับฝาก จำนำรถยนต์ หากมีเหยื่อหลงเชื่อนำรถที่ยังติดไฟแนนซ์มาจำนำ จะรับจำนำไว้ และนำเอกสารการจำนำไปติดต่อที่เต็นท์รถมือสองและเรียกเงินจากการจำนำมากกว่าเจ้าของ เพื่อจะได้ยอดเงินส่วนต่าง หลังจากที่ครบกำหนดจำนำเจ้าของรถยนต์นำเงินมาไถ่คืน ก็นำรถไปประกาศขายเพื่อเรียกเงินส่วนต่าง โดยอาศัยช่องว่างทางกฎหมายเนื่องจากเจ้าของรถไม่กล้าแจ้งไฟแนนซ์หรือแจ้งความเนื่องจากกลัวมีความผิด
ผมในฐานะเป็นวิทยากรให้กับสถาบันการเงิน เช่น ไฟแนนซ์รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ขอให้คำแนะนำเกี่ยวกับผู้เช่าซื้อที่เช่าซื้อรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์แล้วมีปัญหาในการผ่อนชำระค่างวด ต้องระมัดระวังในเรื่องการทำผิดกฎหมายดังนี้
1. รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ที่อยู่ระหว่างการผ่อนชำระค่างวด
กรรมสิทธิ์ยังเป็นของผู้ให้เช่าซื้ออยู่ ผู้เช่าซื้อไม่สามารถนำไปจำนำหรือขายต่อหรือนำไปให้บุคคลอื่นใช้ประโยชน์ในลักษณะตัดกรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่าซื้อได้
2. ผลทางกฎหมายที่มีบทลงโทษทางอาญา ถ้าผู้เช่าซื้อนำรถที่อยู่ระหว่าง
การผ่อนชำระค่าเช่าซื้อไปจำนำหรือขายให้กับบุคคลอื่น โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้เช่าซื้อจะมีความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ตาม ป.อ.มาตรา 352
ผลทางแพ่ง ถือว่าผู้เช่าซื้อผิดสัญญาเช่าซื้อในสาระสำคัญโดยผู้ให้เช่าซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาและเรียกค่าสินไหมทดแทนได้
3. ผลทางกฎหมายสำหรับผู้ที่รับซื้อรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ที่ติด
ไฟแนนซ์ ผู้ที่ประกอบธุรกิจรับซื้อขายรถยนต์ตามเต็นท์หรือตามอินเตอร์เน็ต มีความผิดฐานรับของโจร ตาม ป.อ.มาตรา 357 และถ้าได้กระทำเพื่อค้าหากำไร จะมีบทลงโทษหนักขึ้น สูงสุดถึง 10 ปี
4. นอกจากนี้ถ้าเป็นการโฆษณาต่อประชาชนทางหน้าหนังสือพิมพ์ วิทยุ
โทรทัศน์ อินเตอร์เน็ต จะมีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ตาม ป.อ.มาตรา 343 เหมือนกับคดีที่กำลังเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้
คำแนะนำสำหรับผู้ที่มีปัญหาค้างชำระค่าเช่าซื้อ
-ควรหันหน้าไปเจรจากับเจ้าหนี้
-คืนรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ที่เช่าซื้อและตกลงชดใช้ค่าเสียหายหลังจากการคืนรถ ซึ่งสามารถตกลงกันได้
-หาผู้เช่าซื้อคนใหม่มาทำสัญญาแทน โดยการไปทำสัญญาเช่าซื้อฉบับใหม่กับผู้ให้เช่าซื้อโดยการเปลี่ยนตัวลูกหนี้คือเปลี่ยนตัวผู้เช่าซื้อและเปลี่ยนตัวผู้ค้ำประกัน
-คืนรถและปล่อยให้ผู้ให้เช่าซื้อฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายหลังขายทอดตลาดและไปเจรจาไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้ในชั้นศาล ซึ่งในการปฏิบัติจะมีเจ้าพนักงานคดีผู้บริโภคทำหน้าที่ในการไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาท ซึ่งอาจจะทำให้ลดค่าเสียหายลง ไม่ถึงร้อยละ 50 ก็เป็นได้ หลังจากนั้นให้ตกลงชำระตามกำลังความสามารถ
-การผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อ ถ้าเจ้าหนี้เป็นสถาบันการเงิน ลูกหนี้จะต้องมีปัญหาเกี่ยวกับเครดิตกลายเป็นคนมีหนี้เสีย ไม่สามารถขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินต่อไปได้ และในวันข้างหน้าหากมีความประสงค์จะขอสินเชื่อจะต้องไปปลด NPL กับเจ้าหนี้รายเดิมและต้องจ่ายทั้งต้นและดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าธรรมเนียม ซึ่งสถาบันการเงินจะไม่ยอมลดหนี้ให้ท่านแม้แต่บาทเดียว
ตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ป.อ.มาตรา 352 ผู้ใดครอบครองทรัพย์ซึ่งเป็นของผู้อื่น หรือซึ่งผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย เบียดบังเอาทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือบุคคลที่สามโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานยักยอก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าทรัพย์นั้นได้ตกมาอยู่ในความครอบครองของผู้กระทำความผิด เพราะผู้อื่นส่งมอบให้โดยสำคัญผิดไปด้วยประการใด หรือเป็นทรัพย์สินหายซึ่งผู้กระทำความผิดเก็บได้ ผู้กระทำต้องระวางโทษแต่เพียงกึ่งหนึ่ง
ป.อ.มาตรา 357 ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งทรัพย์อันได้มาโดยการกระทำความผิด ถ้าความผิดนั้นเข้าลักษณะลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ กรรโชก รีดเอาทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ฉ้อโกง ยักยอก หรือเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานรับของโจร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าการกระทำความผิดฐานรับของโจรนั้น ได้กระทำเพื่อค้ากำไรหรือได้กระทำต่อทรัพย์อันได้มาโดยการลักทรัพย์ตามมาตรา 335 (10) ชิงทรัพย์ หรือปล้นทรัพย์ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงสองหมื่นบาท
ถ้าการกระทำความผิดฐานรับของโจรนั้น ได้กระทำต่อทรัพย์อันได้มาโดยการลักทรัพย์ตามมาตรา 335 ทวิ การชิงทรัพย์ตามมาตรา 339 ทวิ หรือการปล้นทรัพย์ตามมาตรา 340 ทวิ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงสามหมื่นบาท
ป.อ.มาตรา 343 ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา 341 ได้กระทำด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน หรือด้วยการปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าการกระทำความผิดดังกล่าวในวรรคแรก ต้องด้วยลักษณะดังกล่าวในมาตรา 342 อนุมาตราหนึ่งอนุมาตราใดด้วย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท
สุดท้ายนี้ ขอเตือนผู้ที่ผ่อนชำระค่างวดรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ถ้าผ่อนไม่ไหวอย่าได้นำไปขายต่อทางเน็ตหรือไปจำนำ มิฉะนั้น ท่านอาจถูกดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญา รวมทั้งเสียเครดิตในการขอสินเชื่อ