คดีมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาติ
น้องชายของดิฉันอายุ 18 ปี เป็นนักศึกษาปี 1 โดนจับกุมภายในห้องพักของน้องชายเอง ในข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง ปืนเป็นปืนเถื่อนคะ เป็นปืนของเพื่อนของน้องชายซึ่งนำมาฝากไว้ สาเหตุที่ตำรวจมาจับกุมในห้องน้องได้เพราะตำรวจมาจับยาเสพติดที่หอ ซึ่งเจอชายคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนของน้องมียาไอซ์อยู่ในตัว ตำรวจเลยให้เพื่อนน้องที่ถูกจับคนนี้อ่ะคะพามาที่ห้อง แต่เพื่อนน้องดันพามาที่ห้องน้อง ตำรวจก็เลยเจอปืนน้องก็เลยโดนจับกุมไป และเท่าที่ได้ลองศึกษาฎีกา มีฎีกานึงคะ บอกว่าการครอบครองอาวุธปืนที่เพื่อนมาฝากนั้นไม่ใช่การครอบครองเพื่อตน กรณีนี้หากเราจะต่อสู้ไม่ทราบว่าจะมีสิทธิชนะคดีมากน้อยเพียงใดคะ
และหากได้ลองปรึกษาเพื่อนที่เป็นทนายท่านหนึ่งเขาบอกว่า ทางที่ดีรับสารภาพดีกว่าคะ เพราะอาจได้รับโทษแค่รอลงอาญาเพราะน้องยังเรียนอยู่และไม่เคยโดนจับกุมมาก่อน จึงอยากสอบถามว่า หากรับสารภาพสมควรรับตั้งแต่ชั้นสอบสวนหรือไม่ หรือควรปฎิเสธแล้วรับในชั้นศาลแต่ในชั้นจับกุมน้องปฎิเสธนะคะว่าไม่ใช่ปืนน้อง อยากทราบว่ามีผลอย่างไรคะ มันเกี่ยวกับการเขียนคำร้องอะไรรึเปล่าคะเพราะเท่าที่เพื่อนที่เป็นทนายอธิบายมาต้องมีการขอใบรับรองจากมหาลัยคะ คืออยากทราบว่าระยะเวลาอะไรมันต่างกันยังไงคะ เพราะเพื่อนแนะนำให้ปฎิเสธในชั้นสอบสวนแล้วไปรับในชั้นศาลคะ
แต่จากที่ลองอ่านฎีกาที่พิพากษารอลงอาญาส่วนมากจะรับตั้งแต่ชั้นสอบสวน
คำแนะนำสำนักงานทนายความ ทนายคลายทุกข์
1. หากนายจ้างถูกพนักงานอัยการฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลแล้ว การรับสารภาพสามารถกระทำได้ในชั้นพิจารณาของศาลและไม่จำต้องรับสารภาพในชั้นสอบสวน น้องชายก็ย่อมได้รับประโยชน์จากเหตุบรรเทาโทษตามกฎหมายเพราะเป็นการให้ความรู้แก่ศาลเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาแล้ว ศาลมีอำนาจลดโทษให้ได้ไม่เกินกึ่งหนึ่งของโทษที่จะลงแก่ผู้กระทำความผิดนั้นได้ตาม ป.อ.มตรา 78
2. ถ้าน้องชายประสงค์ที่จะแก้ต่างต่อสู้คดี ตนก็ต้องมีพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ข้ออ้างของตนว่าการครอบครองอาวุธปืนไม่ใช่การครอบครองเพื่อตนอย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องยากในการนำสืบพิสูจน์ให้ศาลเชื่อ เพราะคดีความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนฐานนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หากน้องชายไม่ปรากฎว่าเคยต้องโทษจำคุกมาก่อนเมื่อศาลเห็นสมควรก็อาจพิพากษาให้รอการลงโทษจำคุกไว้ตาม ป.อ.มาตรา 56 ก็ได้