ร่วมกันมีไว้ครอบครองเพื่อจำหน่าย
ที่บ้านหนูมีตำรวจมีหมายมาค้นบ้านตอนเช้าบอกว่าที่บ้านหนูค้ายา ให้ทุกคนมาร่วมตัวกันอยู่ที่ห้องหนู แล้วตำรวจก็ทำการค้นบ้าน ค้นอยู่นานก็ไม่เจออะไร แต่พอสักพักหนึ่งก็บอกว่าเจอยาบ้าจำนวนหนึ่งอยู่ใต้หมอนของพ่อ ซึ่งจริงๆ แล้วในบ้านไม่มียาบ้าเลย แล้วก็จับพ่อแล้วก็จับแม่หนูบอกว่าร่วมกันครอบครองยาบ้า จำนวน 25 เม็ด พอไปโรงพักก็เพิ่มให้อีกเป็น 38 เม็ด พ่อหนูจำใจต้องรับสารภาพเพราะกลัวแม่หนูจะติดคุกเพราะแม่ป่วยเป็นโรคประจำตัวทั้งที่ไม่ใช่ของพ่อ ส่วนแม่ก็โดนร่างแหไปด้วย อยากถามค่ะถ้าพ่อหนูรับไปแล้วแม่หนูจะมีโอกาสสู้คดีให้หลุดจากคดีได้ไหมค่ะ
คำแนะนำสำนักงานทนายความ ทนายคลายทุกข์
การที่บิดาให้การรับสารภาพก็ไม่ได้เป็นเงื่อนไขว่าจะทำให้มารดาต้องรับโทษหรือพ้นโทษไปได้แต่อย่างใดแต่ขึ้นอยู่กับพฤติการณ์แห่งคดีว่าพนักงานอัยการสามารถนำสืบพยานหลักฐานให้มีน้ำหนักมั่นคงเพื่อให้เห็นว่าจำเลยมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายได้สมตามหน้าที่นำสืบหรือไม่ หากพยานหลักฐานของโจทก์ที่นำสืบมามีเหตุสงสัยตามสมควรว่าบิดาและมารดาของท่านได้กระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ ศาลย่อมต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้จำเลยด้วยพิพากษายกฟ้องปล่อยจำเลยไป ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 227 วรรคสอง ประกอบมาตรา 185 วรรคสอง ดังนั้น แม้ว่าบิดาจะให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน กฎหมายถือเป็นเพียงพยานบอกเล่ามีน้ำหนักน้อยที่อาจนำมาประกอบพยานอื่นของโจทก์เท่านั้น ไม่มีน้ำหนักรับฟังโดยลำพังให้ลงโทษจำเลยได้แต่อย่างใด ท่านจึงควรเข้ามาพบและปรึกษาทนายเพื่อแก้ต่างต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนต่อไป