ถูกปปส.ล่อซื้อยาไอซ์
น้องผู้หญิงที่ทำงานถูกตำรวจ ปปส. จับยาไอซ์ ประมาณ 280 กรัม แต่ไม่ได้ถูกจับในที่เกิดเหตุล่อซื้อ เพราะในวันนั้นน้องเขาไปติดต่อผู้ต้องหา(คนที่ถูกล่อซื้อ) ในเรื่องอื่น คือเรื่องหนี้สิ้นจากการซื้อครีมและยาเสริมความงาม ซึ่งน้องเขาขายอยู่เป็นอาชีพเสริม นอกจากงานประจำที่ทำอยู่แล้ว เหตุการณ์ในวันนั้นเนื่องจากน้องเขาไปตามนัดใช้หนี้สาย เพราะช่วงเช้าไปทำบุญกับ พ่อ แม่ ที่ต่างจังหวัด และการที่เข้าไปนั่งคุยนั้นทางแม่ก็ไปด้วย สามารถเป็นพยานว่าไม่ได้ไปคุยเรื่องซื้อขายยาเสพติด หลังจากแยกทางกับผู้ต้องหา(รายที่ถูกล่อซื้อ)กลับมาบ้านพร้อมพ่อและแม่แล้ว ก็มีตำรวจ ปส. เข้ามาที่บ้านโดยไม่มีหมายค้น ได้ขอเข้าค้นบ้านก็ไม่พบยาเสพติด แต่ตำรวจคาดคั้นจะหายาที่เหลือ รวมทั้งข่มขู่ และทำร้ายร่างกายน้องผู้หญิง (ถูกตำรวจ ปส.ใช้เท้าถีบ) น้องเขากลัวมากช่วงการสอบสวนจึงยอมรับสารภาพ ช่วงการสอบสวนไม่มีการให้พบทนายเลย
ขณะนี้น้องเขาถูกฝากขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ความเป็นอยู่ค่อนข้างลำบาก จึงขอคำแนะนำ
1.เรื่องการต่อสู้คดี กรณีนี้เนื่องจากถูกข่มขู่จากเจ้าหน้าที่ จะกลับคำให้การและต่อสู้คดี มีโอกาสชนะสูงหรือไม่ และกว่าจะสู่ถึงศาลฎีกา น้องเขาต้องติดในคุกอีกนานเท่าใด เพราะพ่อแม่ลำบากมาก
2.ความเป็นไปได้ในการที่จะขอประกันตัวในชั้นศาล
คำแนะนำสำนักงานทนายความ ทนายคลายทุกข์
1. เมื่อพิจารณาจากรูปคดีของข้อเท็จจริง หากเป็นไปตามที่ท่านได้กล่าวมาข้างต้น คดีพอมีทางที่ผู้ต้องหาหญิงคนนี้จะแก้ต่างต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนได้โดยแสดงพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ให้ศาลเห็นว่าตนไม่ได้สมคบกับผู้ต้องหาคนอื่นตกลงกระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหานั้น จึงแนะนำให้ญาติของผู้ต้องหาหญิงนำสำเนาบันทึกการจับกุมเข้ามาปรึกษาทนายความเพื่อประเมินรูปคดีต่อไป
2. คดีนี้เป็นความผิดที่มีอัตราโทษสูงและของกลางมีจำนวนมาก ยื่นคำร้องขอประกันตัวศาลมักไม่อนุญาตเพราะเกรงว่า จำเลยจะหลบหนี