การขอคืนรถยนต์
นายซี นายดี ถูกตำรวจจับพร้อมของกลางยาเสพติด และเป็นผู้ซัดทอดว่านายเอ นายบี เป็นผู้นำทาง โดยนายเอ นายบี ถูกจับโดยตำรวจแจ้งข้อหาว่าเป็นผู้ร่วมขบวนการค้ายาเสพติด และได้ถูกตำรวจจับพร้อมรถยนต์ส่วนตัวซึ่งไม่มีของกลางอะไรเลย ทั้งสองถูกจำคุกและต่อสู้ในช้นศาล และศาลชั้นต้นยกฟ้อง เนื่องจากโจทก์มีหลักฐานไม่เพียงพอ และนายเอ ถูกยึดรถยนต์ ซึ่งรถดังกล่าวเช่าซื้อจากบริษัท ไฟแนนซ์ บริษัทฯ บอกว่า ตำรวจได้ส่งรถยนต์ให้กับปปส. ภาค 8 และยังไม่คืนให้ จนกว่าคดีจะสิ้นสุด เนื่องจากต้องมีการอุทธรณ์ของอัยการฝ่ายโจทก์อีก และบจ.ไฟแนนซ์บอกว่าคดีนั้นแยกออกจากกัน เรื่องรถยนต์ให้นายเอ ไปฟ้องเอาที่ศาลปกครอง และรอคำสั่งจากศาลปกครองก่อนจึงจะได้คืน
หนูจึงอยากจะทราบว่า รถยนต์คันดังกล่าวไฟแนนซ์สามารถไปเอาคืนได้หรือไม่ หรือต้องรอคำพิพากษาจากศาลอุทรณ์วินิจฉัยให้ถึงที่สุดก่อน หรือไฟแนนซ์ไปฟ้องเอาที่ศาลปกครองได้เลย หรืออีกกรณีให้นายเอ ไปฟ้องเอาคืนที่ศาลปกครอง (ไฟแนนซ์ได้บอกเลิกสัญญาเช่าซื้อนายเอไปแล้ว และบอกว่านายเอ ค้างค่างวดเพียง 3 งวด เท่านั้น) แล้วจะทำการฟ้องร้องได้หรือ
คำแนะนำสำนักงานทนายความ ทนายคลายทุกข์
รถยนต์อันเป็นสิ่งของที่เจ้าพนักงานตำรวจยึดไว้ เจ้าพนักงานมีอำนาจยึดไว้จนกว่าคดีถึงที่สุด เมื่อเสร็จคดีแล้วก็ให้คืนแก่ผู้ต้องหาหรือแก่ผู้อื่นซึ่งมีสิทธิเรียกร้องขอคืนรถยนต์นั้น เว้นแต่ศาลจะสั่งอย่างอื่นตาม ป.วิ.อ.มาตรา 85 วรรคสาม ดังนั้น ผู้ให้เช่าซื้อเป็นเจ้าของรถยนต์นั้นจึงชอบที่จะยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งคืนรถยนต์คันที่เจ้าพนักงานยึดไว้โดยตนเป็นเจ้าของแท้จริงมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดนั้น ตาม ป.อ.มาตรา 36