เป็นเจ้าทุกข์คดีรับของโจร
เนื่องจากสินค้าที่ผลิตโดยร้านของดิฉันได้ถูกขโมยไปจำนวนมาก ในขณะที่ปิดร้าน ดิฉันจึงได้ไปแจ้งความไว้ หลังจากนั้นก็ไปเจอสินค้าของดิฉันที่ถูกขโมยไปในร้านค้าแห่งหนึ่ง ทีแรกนางสาว ก. เจ้าของร้าน ได้อ้างว่าเป็นสินค้าที่ขายทั่วไปในห้างค้าส่ง ซึ่งเธอได้ไปซื้อมาจากที่นั่น แต่เมื่อดิฉันบอกไปว่าเป็นของที่ดิฉันผลิตขึ้นมาเองมีลิขสิทธิ์ถูกต้อง เธอได้กลับคำว่ามีคนเอามาขายเธอ..
ในวันนั้นดิฉันก็ได้โทรศัพท์ตามเพื่อนๆ ที่เปิดร้านใกล้ๆ กัน สินค้าเขาได้หายในสัปดาห์ไร่เรี่ยกันมาที่ร้านนางสาว ก. ปรากฏว่าได้พบสินค้าที่หายไปในร้านเธอทั้งสิ้น ดิฉันจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับเรื่องดิฉันไว้ก่อนหน้าว่าพบสินค้าที่หายไปแล้ว ทางตำรวจจะให้ไกล่เกลี่ย ส่วนตัวดิฉันอยากจะเอาเรื่องนางสาว ก. ให้ถึงที่สุด เพราะคิดว่านางสาว ก. คงเป็นคนขโมยของไม่ใช่แค่รับของโจร หรือไม่เธอคนนี้ก็ต้องรู้เห็นกับกระบวนการนี้
คำถาม
1.คุณคิดว่าดิฉันควรยอมความ หรือเอาเรื่องให้ถึงที่สุดดีคะ
2.ถ้าตำรวจยื่นเรื่องถึงศาล เราต้องรอนานไหมคะกว่าศาลจะนัดไต่สวน
3.แล้วเราต้องจ้างทนายด้วยหรือไม่
คำแนะนำสำนักงานทนายความ ทนายคลายทุกข์
เมื่อท่านเป็นผู้เสียหายจากการที่มีผู้กระทำผิดอาญาไม่ว่าฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร ก็เป็นสิทธิของท่านที่จะใช้ดุลพินิจดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดนั้นหรือไม่ก็ได้ แต่การที่ท่านได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน จนกระทั่งมีการสอบสวนสรุปสำนวน พร้อมทั้งความเห็นส่งสำนวนให้พนักงานอัยการทำคำสั่งฟ้องและฟ้องร้องต่อศาล หากท่านมีความประสงค์ที่จะขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ในระหว่างพิจารณาก่อนศาลชั้นต้นพิพากษาคดีนั้นก็ได้ ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 30 และก็เป็นสิทธิของท่านที่จะแต่งตั้งทนายเพื่อเป็นตัวแทนว่าต่างแทนท่านก็ได้ โดยการพิจารณาของศาลในชั้นอาญา ย่อมเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ต่อเนื่องและเป็นธรรมนั้นด้วย