จะเอาผิดบุคคลฉ้อโกงได้หรือไม่
ก่อนหน้าได้มีการมอบเงินสดให้บุคคลหนึ่งที่สนิทสนมกันพอควร อ้างว่าได้รู้จักกับร้านเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถทำเฟอร์นิเจอร์ตามสั่งให้ได้ โดยในขั้นแรกทำเฟอร์นิเจอร์ออกมาให้สองชิ้น ตามสั่ง เมื่อเห็นว่าสามารถทำได้ จึงลงทุนมอบเงินให้อีกจำนวนหนึ่งเพื่อไปสั่งทำ ปรากฎว่า บุคคลดังกล่าวอ้างว่าที่โรงงานที่บิดาของตัวเองก็ทำอยู่ จะดำเนินการให้โดยจะนำเงินดังกล่าวไปสั่งไม้ และต้องอิงกับบริษัทที่บิดาของตัวเองทำเพื่อได้ส่วนลดจากโรงงานไม้ ภายหลังได้ติดตามเรียกใบเสร็จ แต่ได้มีการอ้างอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่ได้ติดตามใกล้ชิดเนื่องจาก บุคคลดังกล่าวก็อยู่ใกล้ชิดติดกันไปมาหาสู่กันตลอด
จนกระทั่งได้มาชวนให้เพาะพันธุ์สุนัข อ้างว่าเคยเลี้ยงหมา และทำคอกหมามาก่อน พาไปพบปะรู้จักคนในวงการที่มีชื่อเสียง จึงได้วางใจ และร่วมเลี้ยงสุนัข โดยเช่าบ้านอยู่และเลี้ยงหมาที่ชั้นบน และได้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนรุ่นของสุนัขอยู่เรื่อย จนเจ้าตัวอ้างว่า หากยังเลี้ยงแบบนี้อาจจะไม่ได้กำไรและเหนื่อยเปล่า จึงเสนอให้หาหุ้นส่วนมาดำเนินการ
จึงได้ชักชวนเพื่อนที่ทำงานมาร่วมหุ้น และได้เขียนสัญญาการดำเนินการไว้ โดยคร่าว เขียนถึงเรื่องการ ก่อสร้างฟาร์มสุนัขที่ อ.คลองหก จำนวนเงินและการดำเนินการต่างๆ จนกระทั่งได้เกิดภาวะน้ำท่วม ปทุมธานีและกรุงเทพฯ ทำให้ต้องย้ายหมาทั้งหมดไปจังหวัดบ้านเกิดดิฉัน เขาได้หาเหตุในการขายสุนัข (ซึ่งมีชื่อดิฉันเป็นเจ้าของ) และเมื่อขายได้ เขาได้มารับเงินสดที่ลูกค้าโอนเงินเข้าบช. ธนาคารดิฉัน อ้างว่าต้องไปชดเชยในส่วนค่ากรงสแตนเลต หลักฐานต่างๆ ที่มีส่วนใหญ่เป็นการทำสัญญาการดำเนินการกันเอง ซึ่งทำไว้ร่วมกัน แต่ได้มอบให้เจ้าตัวเป็นเงินสด และหุ้นส่วนได้ทำการโอนเข้าบช.ธนาคารดิฉัน เหตุเพราะเป็นธนาคารเดียวกัน ไม่เสียค่าธุรกรรมการโอน ทำให้ดิฉันตกเข้าข่ายสมรู้ร่วมคิดทันที เนื่องจากดิฉันไม่มีหลักฐานการโอนเงินให้บุคคลดังกล่าว
จนกระทั่งเหตุเกิดเมื่อเขาพยายามจะขายสุนัขตัวที่ดิฉันห้ามไม่ให้ขาย และผู้ที่จะซื้อต่อเป็นเจ้าของเก่าของหมาที่ได้ซื้อมา จึงโทรมาแจ้งว่าเกิดเรื่อง กะแรกดิฉันให้โอกาสด้วยการนำเงินทั้งหมดมาคืน โดยที่เจ้าตัวอ้างว่า ได้ไปจ่ายค่าต่างๆ เช่น ค่าไม้ เฟอร์นิเจอร์ และโดนโกงมาอีกต่อ เขาติดหนี้นอกระบบ จึงได้นำเงินที่ดิฉันให้ไปชำระคืนก่อน และรับปากว่าจะรีบทวงเงินค่าไม้เฟอร์นิเจอร์มาคืน และรับผิดชอบเรื่องนำสุนัขของดิฉันไปขาย
จนกระทั่งช่วงต้นเมษายนที่ผ่านมา เขาอ้างว่า โทรศัพท์มือถือหายและติดต่อไม่ได้เลย เมื่อวานไปติดตามที่หอพักที่พ่อแม่ของเขาอยู่ด้วย แต่เขาอ้างว่าติดต่อลูกเขาไม่ได้ และไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น เรื่องดังกล่าวสามารถฟ้องเอาผิดได้ไหมคะ? รวมๆ แล้วดิฉันสูญเงินค่อนข้างมาก แต่ทำให้เสียเพื่อน และเพื่อนก็เสียเงินด้วยเช่นกัน และพยายามไปสืบเรื่อง เขาเคยมีคดีอยู่ที่สน.พญาไท และมีคู่กรณีอื่นๆ ที่ปรากฎตัวมาเรื่อยๆ อีกมากมาย ร่วมทั้งเพื่อนดิฉันได้ไปแจ้งความไว้ที่สน.หัวหมากแล้ว แต่ ณ ที่นี้ ดิฉันจะเป็นจำเลย หรือพยาน ยังไม่ทราบได้ เนื่องจากเขาโอนเงินข้าบช.ดิฉัน
คำแนะนำสำนักงานทนายความ ทนายคลายทุกข์
1. กรณีที่การกระทำของบุคคลดังกล่าว หากมีเตนาหลอกลวงท่านด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งโดยทุจริต และหลอกลวงนั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากท่านผู้ถูกหลอกลวงด้วยแล้ว ครบองค์ประกอบความผิดฐานฉ้อโกงตาม ป.อ.มาตรา 341 ท่านซึ่งเป็นผู้เสียหายเนื่องจากการที่มีผู้กระทำความผิดฐานฉ้อโกงดังกล่าว จึงชอบที่จะร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีแก่ผู้กระทำผิดนั้นได้ ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 2(4),(7)
2. หากท่านถูกเจ้าพนักงานสอบสวนมีหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาหรือไปให้ปากคำต่อเจ้าพนักงานไม่ว่าในฐานะผู้ถูกกล่าวหา หรือพยาน ชอบที่ท่านจะชี้แจงแก้ข้อหาและที่จะแสดงข้อเท็จจริงอันเป็นประโยชน์แก่ตนได้ ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 134 วรรคสี่ ในการนี้ท่านอาจมีทนายความหรือผู้อื่นซึ่งตนไว้วางใจเข้าฟังการสอบปากคำของตนในชั้นสอบสวนได้