โดนเจ้าอาวาสแจ้งความข้อหาร่วมกันบุกรุกเคหสถาน |โดนเจ้าอาวาสแจ้งความข้อหาร่วมกันบุกรุกเคหสถาน

โดนเจ้าอาวาสแจ้งความข้อหาร่วมกันบุกรุกเคหสถาน

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

โดนเจ้าอาวาสแจ้งความข้อหาร่วมกันบุกรุกเคหสถาน

เนื่องจากเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ที่ผ่านมา ชาวบ้านได้รวมตัวกันขับไล่

บทความวันที่ 17 มี.ค. 2554, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 715 ครั้ง


โดนเจ้าอาวาสแจ้งความข้อหาร่วมกันบุกรุกเคหสถาน           

            เนื่องจากเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ที่ผ่านมา  ชาวบ้านได้รวมตัวกันขับไล่ พระรูปหนึ่งซึ่งชาวบ้านในตำบลนั้น ไม่เลื่อมใสศรัทธาในองค์ท่าน  ตั้งแต่ท่านได้เข้ามาอยู่ 5-6 ปี ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย ญาติโยมเห็นว่า มีความผิดหลายอย่าง  ดำรงตำแหน่งไม่เหมาะสม ไม่บำรุงรักษาวัด ศาสนสมบัติให้เป็นไปได้ด้วยดี พูดอวดอุตริมนุษยธรรม   อยู่ไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย  มีพระลูกวัดอาศัยอยู่ 2-3 รูป  ต้องหุงหาอาหาร ฉันท์กันเอง  ไม่มีญาติโยมใส่บาตร และไม่มีกิจนิมนต์ ไม่มีใครนำลูกหลานมาบวชเรียน  มีการเลี่ยไรเงินญาติโยมว่า  จะสร้างอะไรหลายๆ อย่าง  แต่กลับไม่มีปรากฏ  เงินที่ได้จากการทอดผ้าป่า  ทอดกฐิน งานประจำปี และอื่นๆ ก็ไม่มีการแสดงรายรับรายจ่ายให้ญาติโยมได้เห็น จนเป็นที่ไม่พอใจกับชาวบ้านที่ไม่เลื่อมใส ศรัทธา
         และในเดือนกุมภาที่ผ่านมาก็ได้มีชาวบ้านพร้อมด้วยตัวกระผมเอง  ได้เข้าไปขับไล่ท่าน  ที่ในวัดที่ท่านอยู่  แต่ท่านรู้ตัวก่อนจึงได้เผ่นหนีไปที่อื่น  ชาวบ้านก็ยังอยู่ภายในวัด  จนกระทั่งชาวบ้านจำนวนหนึ่งพร้อมด้วยกระผมก็ได้เข้าไปที่หน้ากุฎิท่านเจ้าอาวาส   เห็นแม่กุญแจที่ท่านได้ล็อคไว้หลังที่ท่านได้หนีออกไป   ชาวบ้านส่วนหนึ่งเห็นว่า เจ้าอาวาสคงจะหนีไปหลบที่ไหนซักแห่ง  แล้วจึงจะย้อนกลับมาที่วัดใหม่ เมื่อเหตุการสงบ  ชาวบ้านจึงเป็นห่วงของในกุฎิเจ้าอาวาสที่มีพระพุทธรูปของล้ำค้า    ก็เลยนำแม่กุญแจของชาวบ้านเองไปล็อคไว้  เผื่อที่เจ้าอาวาสกลับมาจะได้ไม่เข้าไปเอาของมีค่าหนีไปด้วย  
           สุดท้ายเจ้าอาวาสรูปนั้น  ได้กลับมาพร้อมกับแจ้งข้อหาผมและพวกอีก1คน  ร่วมกันบุกรุกเคหสถาน  โดยมีศิษย์ของเจ้าอาวาสได้เห็นเหตุการณ์ว่ากระผมและพวกได้พยายามล็อคกุญแจ กุฎิเจ้าอาวาสจึงได้ร่วมกัน ไปแจ้งความผมกับพวก ข้อหาร่วมกันบุกลุกเคหสถาน    หลังจากนั้นตำรวจได้ส่งสำนวนการแจ้งความไปให้อัยการ  แล้วอัยการได้ส่งใบบันทึกรับทราบวันนัดที่ 23 มีนาคม ให้ไปฟังคำสั่งของพนักงาน  
           ฉะนั้นกระผมจะต้องทำอย่างไร  ในเมื่อกระผมมีเจตนาที่บริสุทธิ์ และกุฎิหลังดังกล่าว  ญาติโยมรวมถึงคุณแม่ของกระผมก็ได้สร้างไว้ให้ แต่ท่านกลับมาแจ้งความจับกระผม  แล้วกรณีนี้จะมีสิทธิฟ้องกลับได้ไหมครับ

คำแนะนำสำนักงานทนายความ  ทนายคลายทุกข์
            1. เมื่อพนักงานอัยการส่งหมายเรียกให้ท่านกับพวกที่ถูกดำเนินคดีอาญาฐานบุกรุกเคหะสถานของผู้อื่น ท่านพร้อมพวกมีหน้าที่ไปพบพนักงานอัยการตามหมายเรียกเพื่อรับทราบคำสั่งต่อไป
            2. เมื่อเคหสถานซึ่งเป็นกุฎิเจ้าอาวาส หากท่านกับพวกเข้าไปยังกุฎิหรือบริเวณของกุฎิโดยไม่มีเหตุสมควร เจ้าอาวาสมีสิทธิ์แจ้งความร้องทุกข์
            3. กรณีจึงเป็นหน้าที่ของท่านกับพวก ที่จะแก้ต่างเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์เมื่อถูกฟ้องยังศาลต่อไป
 

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก