การขอคุ้มครองชั่วคราว(มาตรา264)
การร้องขอคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างการพิจารณาตาม มาตรา264 จะต้องเป็นการคุ้มครองประโยชน์ของผู้ร้องขอ เพื่อให้ทรัพย์สิน สิทธิ หรือประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งที่พิพาทกันในคดี ได้รับการคุ้มครองไว้จนกว่า ศาลจะได้มีคำพิพากษานั้นหมายความว่าอย่างไร เช่นในกรณีที่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิและทรัพย์สิน และเป็นผู้ให้เช่าได้ฟ้องขับไล่ และเรียกค่าเสียหายต่อจำเลยที่เป็นผู้เช่า สามารถขอคุ้มครองระหว่างพิจารณาคดีได้หรือไม่ อย่างไร
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก http://www.prachatai3.info/journal/2011/01/32716
คำแนะนำสำนักงานทนายความ ทนายคลายทุกข์
การร้องขอคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างพิจารณาตาม ป.วิ.พ.มาตรา 264 นั้น เป็นเรื่องที่คู่ความฝ่ายใดในคดีจะร้องขอก็ได้ แต่จะต้องเป็นการคุ้มครองประโยชน์ของผู้ขอเพื่อให้ทรัพย์สิน สิทธิประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งที่พิพาทในคดีนั้นได้รับความคุ้มครองไว้ จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา หรือเพื่อสะดวกในการบังคับคดีตามคำพิพากษา ดังนั้น ประโยชน์ที่คู่คุ้มครองได้ และกรณีที่โจทก์ฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหาย โดยไม่ได้เรียกค่าเช่าดจทก์จึงขอคุ้มครองเอาเงินค่าเช่าดังกล่าวไม่ได้
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
มาตรา 264 นอกจากกรณีที่บัญญัติไว้ในมาตรา 253 และมาตรา 254 คู่ความชอบที่จะยื่นคำขอต่อศาล เพื่อให้มีคำสั่งกำหนดวิธีการเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของผู้ขอในระหว่างการพิจารณาหรือเพื่อบังคับตามคำพิพากษา เช่น ให้นำทรัพย์สินหรือเงินที่พิพาทมาวางต่อศาลหรือต่อบุคคลภายนอก หรือให้ตั้งผู้จัดการหรือผู้รักษาทรัพย์สินของห้างร้านที่ทำการค้าที่พิพาท หรือให้จัดให้บุคคลผู้ไร้ความสามารถอยู่ในความปกครองของบุคคลภายนอก
คำขอตามวรรคหนึ่งให้บังคับตามมาตรา 21 มาตรา 25 มาตรา 227 มาตรา 228 มาตรา ๒260 และมาตรา 262