คดียักยอกทรัพย์จะเดินทางไปต่างประเทศได้หรือไม่
เมื่อประมาณ 6 เดือนที่แล้ว ดิฉันทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง และได้ทำของของบริษัทหายซึ่งเป็นของที่มีมูลค่าเยอะพอสมควร เมื่อบริษัททราบเรื่องก็ได้พาดิฉันไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจแต่ยังไม่ได้แจ้งความ เพื่อให้ดิฉันยินยอมใช้หนี้และมีหลักฐานกับตำรวจและลงในบันทึกประจำวันว่า หากพ้นกำหนด 30 วัน ดิฉันยังใช้หนี้บริษัทไม่ครบกำหนดจะแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายคดีแดงบริษัท หลังจากนั้นดิฉันก็โดนให้ออกจากงานซึ่งบริษัทได้หักเงินจากเงินเดือนเดือนสุดท้ายของดิฉันไป และบอกกับดิฉันว่าให้นำเงินส่วนที่เหลือมาใช้คืน แต่ดิฉันยังไม่มีให้เลยไม่ได้ติดต่อกลับไป จนกระทั่งทุกวันนี้
ตอนนี้ดิฉันกำลังจะไปทำพาสปอตร์ และเดินเรื่องขอวีซ่าไปต่างประเทศ แต่กลัวถูกปฎิเสธการขอพาสปอร์ตและขอวีซ่า เลยอยากสอบถามว่า กรณีนี้ผ่านมา 6 เดือนแล้วแต่ยังไม่มีการติดต่อจากตำรวจหรือมีหมายศาสมาที่บ้าน จะมีปัญหาในการขอพาสปอตร์และวีซ่าไหมค่ะ เพราะดิฉันไม่ทราบว่า ทางบริษัทแจ้งความหรือไม่
คำแนะนำสำนักงานทนายความ ทนายคลายทุกข์
ความผิดอาญาฐานยักยอก ตาม ป.อ.มาตรา 352 เป็นความผิดต่อส่วนตัวและสามารถยอมความกันได้ บริษัทนายจ้างต้องแจ้งความร้องทุกข์หรือฟ้องคดีต่อศาล ภายใน 3 เดือนนับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด มิฉะนั้น เป็นอันขาดอายุความตาม ป.อ.มาตรา 96 และการแจ้งความของบริษัทเพื่อลงบันทึกประจำวันที่สน.หรือสภ.ไว้เป็นเพียงหลักฐาน โดยยังไม่มีเจตนาจะให้ท่านซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดได้รับโทษตามกฎหมาย แต่เพียงเพื่อให้ท่านชดใช้หนี้ที่ยักยอกไปให้ครบถ้วนเท่านั้น จึงไม่เป็นคำร้องทุกข์ตามระเบียบพนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจสอบสอนตามกฎหมาย ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 2(7),121 ดังนั้น เมื่อบริษัทไม่ได้แจ้งความร้องทุกข์ตามระเบียบใหม่หรือฟ้องคดีภายในเวลา 3 เดือนดังกล่าว คดีความยักยอกนี้อีก เว้นแต่ท่านจะได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้กับทางบริษัท บริษัทจึงมีสิทธิดำเนินคดีในทางแพ่งต่อไป ท่านจึงยื่นเรื่องทำวีซ่าเพื่อเดินทางไปต่างประเทศได้