โดนหมายเรียกคดีเช็ค
เพื่อนขอยืมเช็คไปค้ำประกันซื้อบ้าน โดยบอกว่าถูกทางโครงการเร่งรัด อีก 3 วัน จะนำเงินสดไปจ่ายให้กับโครงการ แล้วจะนำเช็คมาคืนให้ ผ่านไป 4 วัน ยังไม่ได้เช็คคืน พอถามก็อ้างนั่นอ้างนี่ เราเห็นผิดสังเกตุจึงโทรไปอายัดเช็คกับทางธนาคารไว้ก่อน แต่ก็ยังทวงถามกับเพื่อนตลอด เพื่อนบอกตกลงกับทางโครงการแล้วว่า ขอเวลาจะเอาเงินไปแลกคืน และจะไม่ให้ทางโครงการเอาเช็คไปขึ้นธนาคาร เราก็เลยใจเย็น ผ่านไปไม่กี่วัน ทางโครงการโทรมาสอบถามว่าเอาเช็คเข้าบัญชีแล้วธนาคารปฎิเสธการสั่งจ่าย ก็เลยบอกว่าเราแค่ให้เพื่อนยืมเช็คเพื่อค้ำประกัน ทางโครงการกับเราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันเลย ทางโครงการบอกจะแจ้งความ เราก็เลยไปตามเรื่องกับเพื่อน เพื่อนก็บอกให้ใจเย็นจะเคลียร์ให้ ผ่านไป 1 เดือน มีหมายเรียกผู้ต้องหาจากตำรวจมาให้ไปพบ.....
เราควรทำยังไงดี จะดำเนินการอะไรได้บ้าง ต้องติดคุกหรือไม่ เราแค่จะช่วยเพื่อน ทำไมต้องมารับทุกข์เอง ส่วนเพื่อนไม่เห็นโดนอะไรเลย
คำแนะนำสำนักงานทนายความ ทนายคลายทุกข์
1. ความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 เป็นความผิดที่มีโทษทางอาญา และเป็นความผิดต่อส่วนตัวที่สามารถตกลงยอมความกันได้ โดยผู้เสียหายต้องแจ้งความร้องทุกข์หรือฟ้องร้องดำเนินคดีภายใน 3 เดือน นับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด มิฉะนั้น เป็นอันขาดอายุความ ตาม ป.อ. มาตรา 96
2. เมื่อพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกให้ท่านไปพบเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการกระทำที่ท่านถูกกล่าวหาว่าได้กระทำความผิด จึงเป็นเพียงการออกหมายเรียกเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาแก่ท่าน ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 134 ดังนั้น ท่านสามารถมีทนายร่วมไปกับท่านตามกำหนดหมายนั้น เพื่อปกป้องสิทธิของตนต่อไป
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 96 ภายใต้บังคับมาตรา 95 ในกรณีความผิดอันยอมความได้ ถ้าผู้เสียหายมิได้ร้องทุกข์ภายในสามเดือนนับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด เป็นอันขาดอายุความ
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
มาตรา 134 เมื่อผู้ต้องหาถูกเรียก หรือส่งตัวมา หรือเข้าหาพนักงานสอบสวนเอง หรือปรากฏว่าผู้ใดซึ่งมาอยู่ต่อหน้าพนักงานสอบสวนเป็นผู้ต้องหา ให้ถามชื่อตัว ชื่อรอง ชื่อสกุล สัญชาติ บิดามารดา อายุ อาชีพ ที่อยู่ ที่เกิด และแจ้งให้ทราบถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำที่กล่าวหาว่าผู้ต้องหาได้กระทำผิด แล้วจึงแจ้งข้อหาให้ทราบ
การแจ้งข้อหาตามวรรคหนึ่ง จะต้องมีหลักฐานตามสมควรว่าผู้นั้นน่าจะได้กระทำผิดตามข้อหานั้น
ผู้ต้องหามีสิทธิได้รับการสอบสวนด้วยความรวดเร็ว ต่อเนื่อง และเป็นธรรม
พนักงานสอบสวนต้องให้โอกาสผู้ต้องหาที่จะแก้ข้อหาและที่จะแสดงข้อเท็จจริงอันเป็นประโยชน์แก่ตนได้
เมื่อได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว ถ้าผู้ต้องหาไม่ใช่ผู้ถูกจับและยังไม่ได้มีการออกหมายจับ แต่พนักงานสอบสวนเห็นว่ามีเหตุที่จะออกหมายขังผู้นั้นได้ตามมาตรา 71 พนักงานสอบสวนมีอำนาจสั่งให้ผู้ต้องหาไปศาลเพื่อขอออกหมายขังโดยทันที แต่ถ้าขณะนั้นเป็นเวลาที่ศาลปิดหรือใกล้จะปิดทำการ ให้พนักงานสอบสวนสั่งให้ผู้ต้องหาไปศาลในโอกาสแรกที่ศาลเปิดทำการ กรณีเช่นว่านี้ให้นำมาตรา 87 มาใช้บังคับแก่การพิจารณาออกหมายขังโดยอนุโลม หากผู้ต้องหาไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานสอบสวนดังกล่าว ให้พนักงานสอบสวนมีอำนาจจับผู้ต้องหานั้นได้ โดยถือว่าเป็นกรณีจำเป็นเร่งด่วนที่จะจับผู้ต้องหาได้โดยไม่มีหมายจับ และมีอำนาจปล่อยชั่วคราวหรือควบคุมตัวผู้ต้องหานั้นไว้