หลักเกณฑ์การฟ้องล้มละลาย
ทนายคลายทุกข์ขอนำตัวบทกฎหมายตามพระราชบัญญัติล้มละลาย
พ.ศ. 2483
มาตราที่สำคัญในการฟ้องล้มละลายลูกหนี้มานำเสนอให้สมาชิกได้รับทราบ ดังนี้
มาตรา 8
ถ้ามีเหตุอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้เกิดขึ้นให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว
(1)
ถ้าลูกหนี้โอนทรัพย์สินหรือสิทธิการจัดการทรัพย์สินของตนให้แก่บุคคลอื่นเพื่อประโยชน์แห่งเจ้าหนี้ทั้งหลายของตน
ไม่ว่าได้กระทำการนั้นในหรือนอกราชอาณาจักร
(2)
ถ้าลูกหนี้โอนหรือส่งมอบทรัพย์สินของตนเองไปโดยการแสดงเจตนาลวง หรือโดยการฉ้อฉล ไม่ว่าได้กระทำการนั้นในหรือนอกราชอาณาจักร
(3)
ถ้าลูกหนี้โอนทรัพย์สินของตนหรือก่อให้เกิด
ทรัพย์สิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดหรือขึ้นเหนือทรัพย์สินนั้น ซึ่งถ้าลูกหนี้ล้มละลายแล้วจะถือว่าเป็นการให้เปรียบ
ไม่ว่าได้กระทำการนั้นในหรือนอกราชอาณาจักร
(4) ถ้าลูกหนี้กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้
เพื่อประวิงการชำระหนี้หรือมิให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้
ก. ออกไปเสียนอกราชอาณาจักร
หรือได้ออกไปก่อนแล้วและคงอยู่นอกราชอาณาจักร
ข. ไปเสียจากเคหสถานที่เคยอยู่ หรือซ่อนตัวอยู่ในเคหสถาน หรือหลบไป หรือวิธีอื่น หรือปิดสถานที่ประกอบธุรกิจ
ค. ยักย้ายทรัพย์ไปให้พ้นอำนาจศาล
ง. ยอมตนให้ต้องคำพิพากษาซึ่งบังคับให้ชำระเงินซึ่งตนไม่ควรต้องชำระ
(5)
ถ้าลูกหนี้ถูกยึดทรัพย์ตามหมายบังคับคดี
หรือไม่มีทรัพย์สินอย่างหนึ่งอย่างใดที่จะพึงยึดมาชำระหนี้ได้
(6) ถ้าลูกหนี้แถลงต่อศาลในคดีใด ๆ ว่าไม่สามารถชำระหนี้ได้
(7) ถ้าลูกหนี้แจ้งให้เจ้าหน้าที่คนหนึ่งคนใดของตนทราบว่าไม่สามารถชำระหนี้ได้
(8)
ถ้าลูกหนี้เสนอคำขอประนอมหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ ตั้งแต่สองคนขึ้นไป
(9) ถ้าลูกหนี้ได้รับหนังสือทวงถามจากเจ้าหนี้แล้วไม่น้อยกว่าสองครั้งซึ่งมีระยะเวลาต่างกันไม่น้อยกว่าสามสิบวันและลูกหนี้ไม่ชำระหนี้
มาตรา 9 เจ้าหนี้จะฟ้องลูกหนี้ให้ล้มละลายได้ ก็ต่อเมื่อ
(1) ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว
(2)
ลูกหนี้ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาเป็นหนี้เจ้าหนี้ ผู้เป็นโจทก์คนเดียวหรือหลายคนเป็นจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งล้านบาทหรือลูกหนี้ซึ่งเป็นนิติบุคคลเป็นหนี้เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์คนเดียวหรือหลายคนเป็นจำนวนไม่น้อยกว่าสองล้านบาท
และ
(3)
หนี้นั้นอาจกำหนดจำนวนได้โดยแน่นอนไม่ว่าหนี้นั้นจะถึงกำหนดชำระโดยพลันหรือในอนาคตก็ตาม
มาตรา 10 ภายใต้บังคับมาตรา 9
เจ้าหนี้มีประกันจะฟ้องลูกหนี้ให้ล้มละลายได้ก็ต่อเมื่อ
(1)
มิได้เป็นผู้ต้องหามิให้บังคับการชำระหนี้เอาแก่ทรัพย์สินของลูกหนี้เอาแก่ทรัพย์สินของลูกหนี้เกินกว่าตัวทรัพย์ที่เป็นหลักประกัน และ
(2) กล่าวในฟ้องว่า ถ้าลูกหนี้ล้มละลายแล้ว จะยอมสละหลักประกันเพื่อประโยชน์แก่เจ้าหนี้ทั้งหลาย
หรือตีราคาหลักประกันมาในฟ้องซึ่งเมื่อหักกับจำนวนหนี้ของตนแล้ว
เงินยังขาดอยู่สำหรับลูกหนี้ที่เป็นบุคคลธรรมดา เป็นจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งล้านบาท
หรือลูกหนี้ซึ่งเป็นนิติบุคคลเป็นจำนวนไม่น้อยกว่าสองล้านบาท