จะสามารถฟ้องร้องเรียกค่าเลี้ยงดูได้หรือไม่|จะสามารถฟ้องร้องเรียกค่าเลี้ยงดูได้หรือไม่

จะสามารถฟ้องร้องเรียกค่าเลี้ยงดูได้หรือไม่

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

จะสามารถฟ้องร้องเรียกค่าเลี้ยงดูได้หรือไม่

ดิฉันปัจจุบันอายุ 22 ปี เคยอยู่ร่วมกันฉันสามีภรรยาแต่มิได้จดทะเบียน

บทความวันที่ 13 ต.ค. 2553, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 969 ครั้ง


จะสามารถฟ้องร้องเรียกค่าเลี้ยงดูได้หรือไม่

          ดิฉันปัจจุบันอายุ 22 ปี เคยอยู่ร่วมกันฉันสามีภรรยาแต่มิได้จดทะเบียน  โดยฝ่ายบ้านของผู้ชายรับรู้โดยตลอด อยู่บ้านของฝ่ายชายแต่เขาไม่เคยดูแลและใส่ใจในตัวดิฉันเลย จนตั้งท้องได้ 5 เดือน  ฝ่ายชายได้โดนจับในข้อหาค้ายาเสพติด  โดยที่ดิฉันไม่เคยรับรู้มาก่อน จำนวนก็เยอะพอสมควร ตัดสินออกมาจำคุกตลอดชีวิต โดยช่วงแรกดิฉันได้คุยกันว่าแล้ว เราจะเลี้ยงดูลูกกันยังไง? แต่เขาได้บอกว่าให้ดิฉันคอยทำธุรกรรมทางการเงินให้เขาตามคำสั่งที่เขาบอกแล้วกัน  จะได้มีเงินเลี้ยงลูกแล้วเลี้ยงตัวเขาเองด้วย  แต่เป็นธุรกรรมทางการเงินที่เยอะมากเหมือนกัน เดือนละ 200,000-300,000 บาทเลยทีเดียว
          จนดิฉันเริ่มสงสัยว่าเขากำลังทำอะไรอยู่  จนต่อมาดิฉันได้ทราบความจริงว่าเขายังค้ายาอยู่  ขณะที่ตัวเขายังอยู่ในเรือนจำ แต่ด้วยความเป็นห่วงลูก ก็เลยยังยอมทำตามที่เขาบอก  เพราะกลัวว่าจะไม่มีเงินเลี้ยงลูก เพราะเขาบอกว่าถ้าไม่ทำก็คงไม่มีเงินเลี้ยงลูกหรอก จนมาระยะนึงดิฉันได้บอกพ่อแม่ของดิฉันเองว่า ดิฉันทำอะไรอยู่ พ่อแม่ดิฉันก็เตือนแล้วบอกดิฉันว่ามันสี่ยงมาก ถ้าดิฉันเป็นอะไรไปอีกคนจะทำยังไง? ดิฉันจึงบอกกับแฟนว่าดิฉันไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้แล้วนะ เขาก็บอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวเขาเพื่อนเขาเป็นคนจัดการเอง
          แล้วสักพักระยะหลังก็เริ่มเปลี่ยนๆไป เราก็ได้คุยกันว่า เราเป็นเพื่อนกันดีแล้ว <โดยฝ่ายชายเป็นคนเริ่มพูด>  ดิฉันเองก็ตกลงกันเรื่องลูก เขาก็บอกว่าจะส่งให้ลูกเดือนล่ะ 5000  ซึ่งมันไม่พอหรอกสำหรับเด็กคนนึง  แต่ดิฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรสำหรับเงินนั้น แต่พอยิ่งเด็กโตขึ้นค่าใช้จ่ายก็เริ่มมากขึ้น ขอเพิ่มก็ไม่ให้  พูดแต่ว่าให้แค่นั้นก็พอแล้ว  แต่ดิฉันก็ได้แต่คิดในใจว่า  รายได้เขาในด้านมืดเยอะขนาดนั้น  แต่เงินแค่นี้ไม่น่าเป็นปัญหากับเขาเลยด้วยซ้ำ มันเป็นเศษเสี้ยวของรายได้เขามาก  ปัจจุบันดิฉันอายุ 22 ปี วันๆ ต้องมานั่งเลี้ยงลูกอยู่บ้าน ปัจจุบันลูกอายุ 2 ขวบครึ่งแล้ว  ไปไหนก็ไม่ค่อยได้  ที่เค้าให้เดือนล่ะ 5000 ก็ไม่พอ เวลารายจ่ายที่มันเกินในแต่ล่ะเดือน  ดิฉันก็ต้องเอาข้าวของส่วนตัวไปจำนำเพื่อเลี้ยงลูก
          ล่าสุดลูกก็เพิ่งนอนโรงพยาบาล จนทุกวันนี้ดิฉันไม่เหลืออะไรแล้ว ช่วงแรกได้บอกเขาว่าเงินที่เขาให้ไม่พอนะ ดิฉันต้องออกไปหาเงินมาเลี้ยงลูกบ้างแล้วแแหละ ดิฉันเลยเสนอว่าให้ลูกเข้าโรงเรียนชั้นเตรียมอนุบาลไปก่อน เรียนไปได้ 1 เทอม  แล้วเขาก็ไม่ส่งค่าเล่าเรียนลูกต่อ จนต้องเอากลับมาเลี้ยงดูที่บ้านตามเดิม แล้วยังหนำซ้ำเขาไม่ส่งเสียค่าเลี้ยงดูให้ลูกมา 3 เดือนแล้ว พอพูดไปเขาพูดปัดแบบเห็นแก่ตัวว่า ที่เขาเคยส่งๆ มา ก็ดีขนาดไหนแล้ว
          ดิฉันก็พูดอะไรไม่ออก<แต่มาทราบทีหลังว่าเขายังค้ายาในเรือนจำอยู่ แล้วรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม เกือบ 10 เท่า> ใน 3 เดือนที่ผ่านมา วันไหนที่คุณยาย<ทวดของลูก> ซึ่งอายุ 60 กว่าๆ แล้วอยู่บ้าน ก็จะออกไปช่วยเพื่อนแม่ขายของหาค่าเลี้ยงดูไปพรางๆ ไม่มากก็น้อย จนดิฉันหาค่าเลี้ยงดูไม่พอในการใช้จ่ายบวกกับต้องอยู่บ้านเลี้ยงลูกเอง ไม่ค่อยมีเวลาได้ออกไปทำมาหากิน แล้ววันนี้พ่อกับแม่ของดิฉันได้ไปคุยกับพ่อแม่ของแฟนที่บ้าน  โดยพาลูกไปด้วย แล้วพ่อกับแม่เขาก็บอกปัดว่าเขาไม่ส่งหรอก เขาไม่มีเงินส่ง พ่อกับแม่แฟนทำอาชีพเป็นอาจารย์ทั้ง 2 คนเลย เงินเดือน 2 คน ก็ตกเดือนล่ะ 50,000-60,000บาทเลย ก็ไม่คิดว่าคนเป็นครูจะเห็นแก่ตัวได้ขนาดนี้
       เรื่องราวทั้งหมดเป็นแบบนี้ดิฉันจะสามารถฟ้องร้องได้ไหมค่ะ? สามารถทำอะไรได้บ้าง? ดิฉันกับเขาไม่ได้จดทะเบียนกัน แต่เวลาที่คลอดลูกเขาได้เซ็นยืนยันเป็นพ่อ ในสูจิบัตรก็มีชื่อเขาเป็นพ่ออยู่ด้วย ลูกก็ใช้นามสกุลเขาค่ะ 
 
คำแนะนำทนายคลายทุกข์
           ตามกฎหมายแล้ว บิดาโดยชอบด้วยกฎหมายของบุตรผู้เยาว์เท่านั้น ที่มีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องอุปการะเลี้ยงดูและให้การศึกษาตามสมควรแก่บุตรในระหว่างที่เป็นผู้เยาว์ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1564 เมื่อท่านกับแฟนไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน แฟนของท่านจึงไม่เป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายของบุตร  ย่อมส่งผลให้เขาไม่มีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องอุปการะเลี้ยงดูและการให้การศึกษาตามสมควรแก่บุตรในระหว่างที่เป็นผู้เยาว์นั้น แม้แฟนจะได้เซ็นยืนยันว่าเป็นบิดาของเด็ก  และให้ลูกใช้นามสกุลประกอบกับสูติบัตรมีชื่อเขาเป็นพ่อด้วย  ย่อมเป็นเรื่องที่บุตรนอกกฎหมายซึ่งบิดาได้รับรองโดยข้อเท็จจริงแล้ว  กฎหมายให้ถือว่าลูกเป็นผู้สืบสันดานทายาทโดยธรรมของแฟน  เมื่อแฟนตายเท่านั้น  แต่ก็ไม่ทำให้แฟนกลับกลายเป็นบิดาชอบด้วยกฎหมายของลูกไปได้แต่อย่างใด ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1627,1629 (1) ทางแก้ท่านต้องฟ้องคดีแก่แฟนขอให้รับเด็กเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย  เพื่อให้เกิดสิทธิเรียกค่าอุปการะได้

ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 1564
  บิดามารดาจำต้องอุปการะเลี้ยงดูและให้การศึกษาตามสมควรแก่บุตรในระหว่างที่เป็นผู้เยาว์
บิดามารดาจำต้องอุปการะเลี้ยงดูบุตรซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้วแต่เฉพาะผู้ทุพพลภาพและหาเลี้ยงตนเองมิได้

มาตรา 1627 บุตรนอกกฎหมายที่บิดาได้รับรองแล้วและบุตรบุญธรรมนั้นให้ถือว่าเป็นผู้สืบสันดาน เหมือนกับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายนี้

มาตรา 1629  ทายาทโดยธรรมมีหกลำดับเท่านั้น และภายใต้บังคับแห่งมาตรา ๑๖๓๐ วรรค ๒ แต่ละลำดับมีสิทธิได้รับมรดกก่อนหลังดั่งต่อไปนี้ คือ
(1)  ผู้สืบสันดาน
 

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก