การออกหมายจับ
มีข้อสงสัยในการทำงานของตำรวจ เป็นเรื่องที่พบเห็นแต่สงสัยมาก เรื่องมีอยู่ว่า มีเด็กคนหนึ่งอายุ16 โดนเด็กอีกคนอายุ18 หลอกลวงออกจากบ้านไปเป็นเวลา 5 เดือน พ่อแม่เด็กแจ้งความไว้ที่ สน.ดอนเมือง เรื่องผ่านไปไม่มีอะไรคืบหน้า จนเด็กโทรมาบอกแม่เด็กว่า ตอนนี้ถูกขังอยู่ในห้องแคบ ๆ โดนทำร้ายทุกวัน แล้วสายก็ตัดไป พ่อแม่เด็กมาที่ สน.เพื่อบอกตำรวจ ตำรวจบอกว่าจะติดตามให้ จนวันนึงแม่เด็กผู้ชายที่หลอกน้องเค้าไปมาขนของ มีคนแจ้งเบาะแสให้พ่อแม่เด็กรู้ว่าแม่ของเด็กผู้ชายคนนี้กำลังจะมาขนของ พ่อแม่เด็กแจ้งไปที่ตำรวจเพื่อให้ตำรวจไปเชิญตัวมาสอบให้ แต่ตำรวจบอกทำไม่ได้เพราะ แม่เด็กผู้ชายไม่ได้เป็นคนพาเด็กไป เด็กอายุไม่ถึง 20 เป็นงงเลยค่ะ จริงแล้วแม่เด็กน่าจะมีส่วนรู้เห็นกะลูกชาย เพราะแม่เด็กไม่ยอมเข้ามาขนของที่บ้านเองเพราะอาจกลัวมีคนดักรออยู่ มีการจ้างแท็กซี่มาขนของแระนัดถ่ายของข้างนอก คนธรรมดาแบบเรายังมองออก แต่ตำรวจ สน.ดอนเมือง ท่านมองไม่เห็น เราไม่รู้ว่าร้อยเวรชื่ออะไร ป่านนี้เด็กผู้หญิงคงโดนซ้อม โดนขังอยู่ เราก็เพิ่งรู้ว่าเราจะหวังพึ่งตำรวจมิได้ ตำรวจมีหน้าที่แค่รับแจ้งความและไม่ทำอะไรเลยเหรอ การออกหมายจับ ทำไม่ได้แต่ก็น่าจะช่วยอะไรให้ได้มากกว่านี้นะคะ
คำแนะนำทนายคลายทุกข์
หากเด็กอายุ 16 ปี ถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่เจ้าพนักงานตำรวจเพิกเฉยไม่ดำเนินการใด นอกจากรับแจ้งความร้องทุกข์ย่อมเป็นกรณีที่ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เจ้าพนักงานตำรวจนั้น ย่อมเป็นการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ เป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 157 พ่อแม่เด็กนั้นย่อมแจ้งความดำเนินคดีแก่ตำรวจนั้นได้
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ