ขั้นตอนการฟ้องคดีเงินกู้
พอดีให้คนรู้จักกู้ยืมเงินไปจำนวน 45,000.- บาท มีสัญญาลงชื่อผู้กู้และผู้ให้กู้เรียบร้อย(แต่ยังขาดอากรแสตมป์) พยายามติดต่อลูกหนี้แล้วแต่หาตัวไม่พบ จะดำเนินการฟ้องร้อง อยากสอบถามว่ามีวิธีการอย่างไร
คำแนะนำทนายคลายทุกข์
1.การกู้ยืมเงินกว่า 2,000 บาทขึ้นไปนั้น ต้องมีหลักฐานแห่งการกู้ยืมหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ยืมเป็นสำคัญ จึงจะฟ้องบังคับคดีเรียกหนี้เงินได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 653
2.เมื่อผู้ยืมผิดนัดชำระหนี้กู้ยืม ก็ย่อมเป็นการโต้แย้งสิทธิของท่านผู้ให้กู้ในการที่จะรับชำระหนี้ท่านย่อมมีสิทธิฟ้องคดีเรียกให้ผู้กู้รับผิดชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงินได้ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 55 ประกอบ มาตรา 213
3.โดยการฟ้องร้องคดีเรียกคดีเรียกหนี้เงินกู้ ท่านก็ต้องแต่งทนายความเข้าดำเนินคดีฟ้องร้องผู้กู้ยังศาลต่อไป แนะนำให้ท่านนำสัญญากู้เข้ามาปรึกษากับทีมทนายความทนายคลายทุกข์ได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ และสอบถามค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีด้วยตัวท่านเอง หรือโทร. 02-948-5700 ต่อไป
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 55 ถ้าผู้ไม่อยู่ได้ตั้งตัวแทนผู้รับมอบอำนาจเฉพาะการอันใดไว้ ผู้จัดการทรัพย์สินจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับการอันเป็นอำนาจเฉพาะการนั้นไม่ได้ แต่ถ้าปรากฏว่าการที่ตัวแทนจัดทำอยู่นั้นอาจจะเสียหายแก่ผู้ไม่อยู่ ผู้จัดการทรัพย์สินจะร้องขอให้ศาลถอดถอนตัวแทนนั้นเสียก็ได้
มาตรา 213 ถ้าลูกหนี้ละเลยเสียไม่ชำระหนี้ของตน เจ้าหนี้จะร้องขอต่อศาลให้สั่งบังคับชำระหนี้ก็ได้ เว้นแต่สภาพแห่งหนี้จะไม่เปิดช่องให้ทำเช่นนั้นได้
เมื่อสภาพแห่งหนี้ไม่เปิดช่องให้บังคับชำระหนี้ได้ ถ้าวัตถุแห่งหนี้เป็นอันให้กระทำการอันหนึ่งอันใด เจ้าหนี้จะร้องขอต่อศาลให้สั่งบังคับให้บุคคลภายนอกกระทำการอันนั้นโดยให้ลูกหนี้เสียค่าใช้จ่ายให้ก็ได้ แต่ถ้าวัตถุแห่งหนี้เป็นอันให้กระทำนิติกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งไซร้ ศาลจะสั่งให้ถือเอาตามคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของลูกหนี้ก็ได้
ส่วนหนี้ซึ่งมีวัตถุเป็นอันจะให้งดเว้นการอันใด เจ้าหนี้จะเรียกร้องให้รื้อถอนการที่ได้กระทำลงแล้วนั้นโดยให้ลูกหนี้เสียค่าใช้จ่าย และให้จัดการอันควรเพื่อกาลภายหน้าด้วยก็ได้
อนึ่งบทบัญญัติในวรรคทั้งหลายที่กล่าวมาก่อนนี้ หากระทบกระทั่งถึงสิทธิที่จะเรียกเอาค่าเสียหายไม่
มาตรา 653 การกู้ยืมเงินกว่าสองพันบาทขึ้นไปนั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ยืมเป็นสำคัญ จะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่
ในการกู้ยืมเงินมีหลักฐานเป็นหนังสือนั้น ท่านว่าจะนำสืบการใช้เงินได้ต่อเมื่อมีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ให้ยืมมาแสดงหรือเอกสารอันเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมนั้นได้เวนคืนแล้ว หรือได้แทงเพิกถอนลงในเอกสารนั้นแล้ว