กู้ร่วมเลิกกับสามีแล้วกำลังจะถูกฟ้องล้มละลาย|กู้ร่วมเลิกกับสามีแล้วกำลังจะถูกฟ้องล้มละลาย

กู้ร่วมเลิกกับสามีแล้วกำลังจะถูกฟ้องล้มละลาย

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

กู้ร่วมเลิกกับสามีแล้วกำลังจะถูกฟ้องล้มละลาย

ดิฉันได้ซื้อบ้านกับธนาคารซึ่งใช้ชื่อกู้ทั้ง 2 คน ต่อมาดิฉันและสามีเลิกกัน

บทความวันที่ 3 มิ.ย. 2553, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 2309 ครั้ง


กู้ร่วมเลิกกับสามีแล้วกำลังจะถูกฟ้องล้มละลาย

          ดิฉันได้ซื้อบ้านกับธนาคารซึ่งใช้ชื่อกู้ทั้ง 2 คน ต่อมาดิฉันและสามีเลิกกันและได้ตกลงหย่ากันเรียบร้อยแล้วและทางฝ่ายสามีตกลงที่จะเป็นคนผ่อนบ้านเองเพราะดิฉันไม่ได้อาศัยอยู่ด้วย ต่อมาได้ทราบภายหลังว่าสามีไม่ส่งเงินค่าบ้านและทางธนาคารได้นำบ้านขายทอดตลาดซึ่งราคาบ้านที่กู้อยู่ที่ราคา 1,200,000.00 บาท ทางธนาคารขายทอดตลาดบ้านของดิฉันได้ราคาประมาณ 800,000.00บาท ตอนนี้ปัญหามันเกิดขึ้นคือ  เงินส่วนที่ยังคงค้างอยู่ทางศาลมีหนังสือมาที่ดิฉันให้ไปขึ้นศาลล้มละลายในวันที่ 17 มิ.ย. 53 ซึ่งในหมายศาลดิฉันมีภาระเป็นหนี้อีก 1 ล้านกว่าบาท ดิฉันก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไปหนี้ยังเป็นล้านกว่าบาท ดิฉันอยากทราบว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง และถ้าศาลมีคำสั่งเป็นบุคคลล้มละลายดิฉันยังสามารถทำงานอยู่ได้หรือเปล่า  ตอนนี้ดิฉันเงินเดือนประมาณ 9,300 บาท ศาลจะยึดเงินเดือนของดิฉันหรือเปล่าคะ  เพราะดิฉันไม่รู้จะไปปรึกษาใครและดิฉันต้องไปขึ้นศาลหรือไม่

คำแนะนำทนายคลายทุกข์
          แม้ว่าคุณจะจดทะเบียนจะหย่าขาดจากการเป็นสามีภริยา ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1514  แล้วก็ตาม  ภาระหนี้สินของคุณที่มีต่อบุคคลภายก็ยังคงมีอยู่  คุณในฐานะผู้กู้ร่วมจำต้องรับผิดร่วมกันกับสามีคุณ
          หากคุณกับอดีตสามีของคุณไม่ชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้  เจ้าหนี้ก็มีสิทธิ์ฟ้องคุณกับอดีตสามีคุณได้
          หากเจ้าหนี้ฟ้องคุณกับอดีตสามีคุณ  และศาลมีคำพิพากษาแล้ว  คุณกับอดีตสามีของคุณก็มีหน้าที่จะต้องชำระหนี้ตามคำพิพากษาให้ครบถ้วน  ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 271  หากคุณและอดีตสามีของคุณไม่ชำระหนี้  เจ้าหนี้ก็มีสิทธิ์ติดตามยึดและอายัดทรัพย์สินอื่นของคุณและอดีตสามีของคุณต่อไป
          และนอกจากนี้เจ้าหนี้จะมีสิทธิ์ยึดและอายัดทรัพย์สินอื่นดังที่กล่าวมาแล้ว  หากหนี้ที่คงเหลือเกิน 1 ล้านบาท  เจ้าหนี้ก็มีสิทธิ์ขอให้คุณและอดีตสามีของคุณเป็นบุคคลล้มละลาย ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 9
        โอนเมื่อศาลมีคำสั่งใหคุณเป็นบุคคลล้มละลาย  แล้วคุณจะยังสามารถทำงานต่อไปได้หรือไม่นั้นก็ต้องดูระเบียบของที่ทำงาน  และหากคุณเป็นบุคคลล้มละลายแล้ว  อำนาจในการจัดการทรัพย์สินเป็นอำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่จะเข้ามาดูแล  ส่วนจะมีการยึดหรืออายัดเงินเดือนของคุณนั้น  ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์

ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
มาตรา 271 
ถ้าคู่ความหรือบุคคลซึ่งเป็นฝ่ายแพ้คดี (ลูกหนี้ตามคำพิพากษา)มิได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลทั้งหมดหรือบางส่วน คู่ความหรือบุคคลซึ่งเป็นฝ่ายชนะ (เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา) ชอบที่จะร้องขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษา หรือคำสั่งนั้นได้ภายในสิบปีนับแต่วันมีคำพิพากษาหรือคำสั่ง โดยอาศัยและตามคำบังคับที่ออกตามคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้น

พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483
มาตรา 9
เจ้าหนี้จะฟ้องลูกหนี้ให้ล้มละลายได้ก็ต่อเมื่อ
(1) ลูกหนี้มีหนี้สินพ้นตัว
(2) ลูกหนี้ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาเป็นหนี้เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์คนเดียวหรือหลายคนเป็นจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งล้านบาท หรือลูกหนี้ซึ่งเป็นนิติบุคคลเป็นหนี้เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์คนเดียวหรือหลายคนเป็นจำนวนไม่น้อยกว่าสองล้านบาท และ
(3) หนี้นั้นอาจกำหนดจำนวนได้โดยแน่นอนไม่ว่าหนี้นั้นจะถึงกำหนดชำระโดยพลันหรือในอนาคตก็ตาม

 

 

 

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก