คำพิพากษาฎีกาที่เกี่ยวกับการบังคับคดี ตอน 4
ทนายคลายทุกข์ขอนำคำพิพากษาฎีกาที่น่าสนใจเกี่ยวกับการบังคับคดีมานำเสนอ เป็นเรื่องเกี่ยวกับ การขอเฉลี่ยทรัพย์ กำหนดเวลาขอเฉลี่ยทรัพย์ การงดการบังคับคดี การถอนการบังคับคดี
การขอเฉลี่ยทรัพย์ (มาตรา 290)
ห้ามอายัดหรืออายัดทรัพย์ (มาตรา 290 วรรคหนึ่ง)
1. ฎีกาที่ 283/2527
เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาไว้แทนเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาแล้ว ห้ามไม่ให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอื่นยึดหรืออายัดทรัพย์สินนั้นซ้ำอีก
2. ฎีกาที่ 676/2518
แม้จะเป็นการอายัดชั่วคราวก่อนพิพากษา ถ้าต่อมาศาลพิพากษาให้โจทก์ในคดีนั้นชนะคดี และโจทก์ได้ขอให้ศาลเรียกเงินที่ขออายัดไว้ชั่วคราวเพื่อชำระหนี้ให้แก่โจทก์ โจทก์ย่อมมีสิทธิดีกว่าเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีอื่นที่ขออายัดในภายหลัง
3. ฎีกาที่ 1324/2503(ประชุมใหญ่)
ทรัพย์สินที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอื่นจะขอเฉลี่ยได้ จะต้องเป็นทรัพย์สินที่ได้มีการยึดและอายัดไว้ด้วย หากเป็นเงินที่จำเลยนำมาวางศาลเพื่อชำระหนี้ให้โจทก์ เจ้าหนี้อื่นจะขอเฉลี่ยไม่ได้
4. ฎีกาที่ 516/2499
เมื่อศาลมีคำพิพากษาให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษาชำระหนี้แล้ว เจ้าหนี้ตามคำพิพากษามีสิทธิขอเฉลี่ยทรัพย์ของลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้ทันที แม้ศาลยังไม่ออกหมายบังคับคดีหรือยังไม่ครบกำหนดเวลาในคำบังคับก็ตาม
5. ฎีกา 698/2518
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาที่ยังไม่ได้บังคับคดี ก็ขอเฉลี่ยหนี้ได้
6. ฎีกาที่ 816/2543
การร้องขอเฉลี่ยทรัพย์เป็นการบังคับคดีอย่างหนึ่ง จึงต้องร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ภายในกำหนดเวลา 10 ปี นับแต่วันมีคำพิพากษา
7. ฎีกาที่ 4105/2533
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความ แม้จำเลยยังไม่ได้ผิดนัดตามสัญญายอม ก็มีสิทธิขอเฉลี่ยทรัพย์สินของจำเลยที่โจทก์นำยึดไว้ได้
8. ฎีกาที่ 742/2505
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของภริยาจำเลยจะขอเฉลี่ยในคดีที่จำเลยถูกยึดทรัพย์ไม่ได้ แม้ทรัพย์ที่ยึดจะมีชื่อภรรยาจำเลยเป็นเจ้าของก็ตาม เพราะภริยาจำเลยไม่ได้เป็นจำเลยในคดีนี้ด้วย
9. ฎีกาที่ 553/2510
การที่ศาลสั่งปรับนายประกันในคดีอาญา ถือว่าแผ่นดินเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอื่นขอเฉลี่ยตามมาตรา 290 ได้
10.ฎีกาที่ 2629/2525
ถ้าเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาที่ยึดทรัพย์ไว้เป็นเจ้าหนี้จำนอง เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะเข้าไปเฉลี่ยโดยตรงไม่ได้ เพราะเจ้าหนี้จำนอง มีสิทธิได้รับชำระหนี้ก่อน แต่ศาลฎีกาก็นำมาตรา 290 มาบังคับใช้โดยอนุโลม โดยให้ผู้ขอเฉลี่ยมีสิทธิได้รับชำระหนี้จากเงินที่เหลือจากเงินที่เหลือจากการชำระหนี้ให้เจ้าหนี้จำนองแล้ว
11.ฎีกาที่ 3027/2530
กรณีที่มีการรวมพิจารณาพิพากษาคดีหลายสำนวนเข้าด้วยกันนั้น หาดมีการยึดหรืออายัดทรัพย์ของจำเลยเพียงบางสำนวน โจทก์สำนวนอื่นก็ต้องยื่นคำร้องขอเฉลี่ยหนี้ตามหลักเกณฑ์ในมาตรา 290 ด้วยเช่นกัน
ผู้ขอเฉลี่ยไม่สามารถเอาชำระจากทรัพย์สินอื่นของลูกหนี้ตามคำพิพากษา
12.ฎีกาที่ 1706/2547
ข้อโต้แย้งตามมาตรา 290 วรรคสองนี้ เป็นข้อโต้แย้งของเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาด้วยกัน ลูกหนี้ตามคำพิพากษา ไม่ว่าเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาที่ถูกยึดหรืออายัดทรัพย์สินหรือไม่ จึงไม่มีสิทธิยกข้อต่อสู้ดังกล่าวขึ้นโต้แย้ง
13.ฎีกาที่ 1161/2515
ถ้าทรัพย์สินอื่น ๆ ของลูกหนี้ตามคำพิพากษามีไม่เพียงพอที่จะชำระหนี้ตามคำพิพากษาของผู้ขอเฉลี่ยได้โดยสิ้นเชิง หรือมีเพียงชำระหนี้ได้บางส่วน ผู้ขอก็มีสิทธิขอเฉลี่ยทรัพย์ได้ ไม่ต้องด้วยข้อหาตามมาตรา 290 วรรคสอง
14.ฎีกาที่ 176/2494
ในกรณีที่ผู้ขอเฉลี่ยมีลูกหนี้ตามคำพิพากษาในคดีนั้นหลายคน การพิจารณาว่าลูกหนี้ตามคำพิพากษายังไม่มีทรัพย์สินอื่นที่ผู้ขอสามารถเอาชำระได้หรือไม่นั้น คงพิจารณาเฉพาะทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาที่ถูกยึดหรืออายัดเท่านั้น
15.ฎีกาที่ 1623/2537
การพิจารณาว่าผู้ขอเฉลี่ยทรัพย์สามารถเอาชำระหนี้ได้จากทรัพย์สินอื่น ๆ ของลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือไม่จะต้องพิจารณาจากข้อเท็จจริงในขณะที่ยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์นั้น
16.ฎีกาที่ 1221/2510
การที่ลูกหนี้ตามคำพิพากษายังมีทรัพย์สินอื่นแม้จะมีราคาพอชำระหนี้ของผู้ขอเฉลี่ยได้ก็ตาม แต่ถ้าเป็นทรัพย์ที่ไม่อาจยึดได้ตามกฎหมาย ถือว่าเป็นกรณีที่ผู้ขอเฉลี่ยไม่สามารถเอาชำระหนี้ จึงขอเฉลี่ยได้
17.ฎีกาที่ 1619/2527
ถ้าทรัพย์สินอื่นที่ลูกหนี้ตามคำพิพากษายังมีอยู่นั้นติดจำนองธนาคารอยู่ ถือว่าเป็นทรัพย์ที่สามารถบังคับชำระหนี้ได้
18.ฎีกาที่ 875/2503
การที่ลูกหนี้มีทรัพย์สินแต่ได้โอนให้บุคคลอื่นอันเป็นการฉ้อฉลเจ้าหนี้ตาม ป.พ.พ. มาตา 237 แม้จะร้องอาจฟ้องขอให้เพิกถอนได้ก็ตาม ก็มิใช่หน้าที่ของเจ้าหนี้ที่ขอเฉลี่ยต้องไปฟ้องขอเพิกถอนเสียก่อน เมื่อลูกหนี้ไม่มีทรัพย์สินอื่นอีก ผู้ร้องก็มีสิทธิร้องขอเฉลี่ยได้
19.ฎีกาที่ 172//2538
แม้ผู้ร้องขอเฉลี่ยมีหน้าที่นำสืบให้ได้ความว่าลูกหนี้ตามคำพิพากษาไม่มีทรัพย์สินอื่นพอที่จะบังคับชำระหนี้ได้ก็ตาม แต่ในการบรรยายในคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ไม่จำต้องบรรยายว่าผู้ร้องไม่สามารถเอาชำระหนี้ได้จากทรัพย์สินของจำเลย เพราะเป็นข้อเท็จจริงทีนำสืบในชั้นพิจารณาได้
20.ฎีกาที่ 9574/2544
ข้ออ้างที่ว่าจำเลยยังมีทรัพย์สินที่ผู้ร้องสามารถเอาชำระหนี้ได้ เป็นข้อโต้แย้งระหว่างเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาด้วยกัน จำเลยไม่มีสิทธิยกขึ้นต่อสู้ได้
การคัดด้านว่าหนี้ที่ขอเฉลี่ยเกิดจากการสมยอม
21.ฎีกาที่ 670/2503
โจทก์มีสิทธิคัดด้านได้ว่าหนี้ที่ผู้ร้องขอนำมาเฉลี่ยนั้นเกิดจากการสมยอม โดยโจทก์ไม่ต้องไปฟ้องขอเพิกถอนการฉ้อฉลเป็นคดีใหม่
22.ฎีกาที่ 3280/2534
เมื่อฟังได้ว่าหนี้ที่ผู้ร้องนำมาขอเฉลี่ยเกิดจากการสมยอม ผู้ร้องก็ไม่มีสิทธิขอเฉลี่ยได้
กำหนดเวลาขอเฉลี่ย (มาตรา 290 วรรคสี่ถึงวรรคหก)
23.ฎีกาที่ 1161/2515
กำหนดเวลายื่นขอเฉลี่ยหนี้ในการยึดทรัพย์สินเพื่อขายทอดตลาดหรือจำหน่ายโดยวิธีอื่นต้องยื่นในกำหนด 14 วัน นับแต่วันขายทอดตลาด แต่จะยื่นก่อนขายทอดตลาดก็ได้
24.ฎีกาที่ 464/2524(ประชุมใหญ่)
ในกรณีมีการยึดทรัพย์หลายอย่างในคราวเดียวกัน ทำให้ต้องมีการขายทอดตลาดหลายครั้ง ดังนี้ ผู้ร้องมีสิทธิขอเฉลี่ยในกำหนดเวลา 14 วันนับวันสิ้นสุดการขายทอดตลาดที่ยึดมาในคราวนั้นทั้งหมด
25.ฎีกาที่ 2189/2534
ถ้ามีการขายทอดตลาดไปแล้วบางรายการ ต่อมาโจทก์ขอถอนการยึดทรัพย์ในส่วนที่เหลือ ถือว่าการขายทอดตลาดเสร็จสิ้นลงในวันที่ขอถอนการยึดนั้น ผู้ร้องขอเฉลี่ยทรัพย์จึงต้องยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ในกำหนด 14 วัน นับแต่วันดังกล่าว
กรณีอายัดทรัพย์สิน (มาตรา 290 วรรคสี่)
26. ฎีกาที่ 1157/2544
การยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ในกรณีอายัดทรัพย์สินตามอนุมาตรานี้ จะต้องพิจารณาประกอบมาตรา 290 วรรคหนึ่ง ดังนั้นจึงต้องยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ต่อศาลที่ออกหมายบังคับคดีคือศาลที่พิจารณาชี้ขาดตัดสินคดีในชั้นต้นตามมาตรา 302 นั่นเอง ถ้าศาลชั้นต้นที่พิจารณาชี้ขาดตัดสินคดีได้มอบให้ศาลชั้นต้นอื่นบังคับคดีแทน ผู้ขอเฉลี่ยต้องยื่นคำร้องต่อศาลชั้นที่พิจารณาและชี้ขาดตัดสินคดี และระยะเวลา 14 วัน จึงต้องเริ่มนับแต่วันที่ศาลที่บังคับคดีแทนส่งเงินที่ได้จากการอายัดมายังศาลชั้นต้นที่พิจารณาและชี้ขาดตัดสินคดี
27.ฎีกาที่ 5832/2531
คำว่า อายัด ตามมาตรา 290 หมายถึง การอายัดหลังพิพากษาไม่รวมถึงการอายัดชั่วคราวก่อนพิพากษาด้วย ดังนั้น การที่บุคคลภายนอกส่งเงินตามหมายอายัดชั่วคราว ก็ไม่อยู่ในบังคับที่จะต้องร้องขอเฉลี่ยภายใน 14 วันนับแต่วันที่ส่งเงิน
28.ฎีกาที่ 3075/2535
กรณีที่บุคคลภายนอกยังไม่ได้ส่งเงินมาตามหมายอายัดชั่วคราว ก่อนศาลพิพากษา แต่ได้ส่งเงินมาภายหลังศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีแล้ว ซึ่งถือว่าคำสั่งอายัดชั่วคราวมีผลต่อไปตามมาตรา 260(2) มีผลเท่ากับพนักงานบังคับคดีได้อายัดทรัพย์สินของจำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาไว้แทนโจทก์ ตามมาตรา 290 วรรคหนึ่ง ดังนั้น จึงต้องยื่นขอเฉลี่ยทรัพย์ภายใน 14 วันนับแต่วันที่ลูกหนี้ส่งเงิน
29.ฎีกาที่ 271/2534
ผู้ขอเฉลี่ยยื่นคำขอก่อนส่งเงินที่อายัดได้
การเข้าสวมสิทธิเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาผู้ยึด( มาตรา 290 วรรคแปด)
30.ฎีกาที่ 4096/2539
แม้ผู้ขอเฉลี่ยจะยื่นคำร้องภายหลังจากศาลมีคำสั่งให้ถอนการบังคับคดีแล้วก็ตาม ผู้ร้องก็เข้าสวมสิทธิบังคับคดีต่อไปได้ โดยไม่จำต้องให้ศาลมีคำสั่งอนุญาต
การงดการบังคับคดี (มาตรา 292)
งดการบังคับคดีเพราะมีการขอพิจารณาคดีใหม่(มาตรา 292(1))
1. ฎีกาที่ 324/2503
ในระหว่างไต่สวนคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ ศาลก็อาจงดการบังคับคดีตามมาตรา 199 เบญจ(มาตรา 209เดิม) ได้ แม้ศาลยังไม่ได้อนุญาตให้พิจารณาคดีใหม่ก็ตาม
2. ฎีกาที่ 1318/2536
ถ้าศาลสั่งยกคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ในชั้นตรวจฟ้องก็ไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ศาลจะสั่งให้งดการบังคับคดี
การงดการบังคับคดีตามคำสั่งศาล(มาตรา 292(2))
3. ฎีกาที่ 9100/2544
การงดการบังคับคดีตามมาตรา 292(2) เป็นอำนาจของศาลชั้นต้นที่จะมีคำสั่งได้เมื่อเห็นสมควร
4. ฎีกาที่ 3143/2532
ลูกหนี้ตามคำพิพากษาจะยกเอาข้อตกลงนอกศาลซึ่งเจ้าหนี้ตามคำพิพากษายังโต้แย้งอยู่มาเป็นเหตุให้ศาลงดการบังคับคดีไม่ได้
5. ฎีกาที่ 171/2513
การสั่งงดการบังคับคดี ศาลอาจสั่งโดยชัดแจ้งหรือสั่งโดยปริยายก็ได้
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาขอให้งดการบังคับคดี (มาตรา 292(3))
6. ฎีกาที่ 6360/2534
การงดการบังคับคดี คือเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้แจ้งเป็นหนังสือต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีว่าตนตกลงงดการบังคับคดีไว้ในเวลาที่กำหนด หรือภายในเงื่อนไขอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากลูกหนี้ตามคำพิพากษาและบุคคลภายนอกผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดี
7. ฎีกาที่ 3807/2546
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอาจขอให้งดการบังคับคดี โดยมีเงื่อนไขให้จำเลยผ่อนชำระหนี้ ถ้าจำเลยไม่ชำระหนี้ถือว่าผิดเงื่อนไข เจ้าหนี้ตามคำพิพากษามีสิทธิขอให้บังคับต่อไปได้
8. ฎีกาที่ 950/2515
การขอให้งดการบังคับคดี หมายถึง ให้งดการบังคับคดีที่ยังไม่ได้กระทำเท่านั้น จะให้งดการบังคับคดีที่ได้ปฏิบัติมาแล้วไม่ได้
9. ฎีกาที่ 2769/2539
ศาลที่ได้รับมอบหมายให้บังคับคดีแทน ไม่มีอำนาจสั่งให้งดการบังคับคดี
10.ฎีกาที่ 447-448/2492
คำสั่งงดการบังคับคดีตามมาตรา 293 เป็นที่สุด ดังนั้น จึงต้องดูให้ดีว่าศาลสั่งโดยใช้อำนาจจากมาตราไหน
ลูกหนี้ของดการบังคับคดี (มาตรา 293)
11.ฎีกาที่ 1166/2492
ผู้มีสิทธิของดการบังคับคดีตามมาตรานี้มีเฉพาะลูกหนี้ตามคำพิพากษาเท่านั้น บุคคลอื่นไม่มีสิทธิ
12.ฎีกาที่ 1970/2534
หลักเกณฑ์การงดการบังคับคดีตามมาตรานี้ คือลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้ฟ้องเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเป็นคดีเรื่องอื่นต่อศาลเดียวกัน ซึ่งถ้าตนเป็นฝ่ายชนะจะสามารถหักกลบลบหนี้กันได้ แสดงว่าหนี้ที่อ้างว่าสามารถนำมาหักกลบลบกันได้ ต้องได้