คำพิพากษาฎีกาที่เกี่ยวกับการบังคับคดี ตอน 3
ทนายคลายทุกข์ขอนำคำพิพากษาฎีกาที่น่าสนใจเกี่ยวกับการบังคับคดีมานำเสนอ เป็นเรื่องเกี่ยวกับ การร้องขัดทรัพย์ ผู้มีสิทธิร้องขัดทรัพย์ กำหนดเวลาร้องขัดทรัพย์ การขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้จำนอง
ร้องขัดทรัพย์ (มาตรา 288)
ต้องมีการยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ฯ ออกขายทอดตลาด
1. ฎีกาที่ 6547/2538
กรณีที่ผู้ร้องขัดทรัพย์ได้ต้องมีการยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาเพื่อนำออกขายทอดตลาดหรือจำหน่ายโดยวิธีอื่น การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีมอบทรัพย์ให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเข้าครอบครองตาม ป.วิ.พ. มาตรา 296 ตรี ไม่ใช่การยึดทรัพย์ออกขายทอดตลาด จึงร้องขัดทรัพย์ไม่ได้
2. ฎีกาที่ 676/2546
ฟ้องขอให้แบ่งทรัพย์ระหว่างเจ้าของรวม แม้จะมีการยึดทรัพย์ที่เป็นกรรมสิทธิ์รวมออกขายทอดตลาดนำเงินมาแบ่งกัน ก็เป็นเพียงวิธีหนึ่งในการแบ่งทรัพย์ระหว่างเจ้าของรวมตาม ป.พ.พ. มาตรา 1364 วรรคสอง ไม่ใช่การบังคับคดีตาม ป.วิ.พ. จึงร้องขัดทรัพย์ไม่ได้
ผู้มีสิทธิร้องขัดทรัพย์
1. ฎีกาที่ 399/2534 (ประชุมใหญ่)
ผู้เช่าซื้อ แม้จะยังชำระค่าเช่าซื้อไม่ครบก็ถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสียแล้ว จึงมีสิทธิร้องขัดทรัพย์ได้
2. ฎีกาที่ 1824/2493
ผู้ได้รับสัมปทานป่าไม้ ร้องขัดทรัพย์ไม้ที่ถูกยึดจากป่าที่ได้รับสัมปทานได้
3. ฎีกาที่ 1823/2493
หน่วยงานของรัฐมีส่วนได้เสียเกี่ยวกับทรัพย์ที่ตนดูแลรักษา
4. ฎีกาที่ 28/2506
เจ้าหนี้ผู้ครอบครองที่ดินประกันหนี้ ถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสียในที่ดินนั้น
5. ฎีกาที่ 1561/2508
ผู้ที่ได้กรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์โดยการครอบครองปรปักษ์
6. ฎีกาที่ 2220/2535
จำเลยเป็นเจ้าของทรัพย์ที่ยึด ผู้ร้องก็ไม่อาจกล่าวอ้างสิทธิใด ๆ เพื่อขอให้ศาลปล่อยทรัพย์ที่ยึดตามมาตรา 288 ได้
7. ฎีกาที่ 2244/2536
จำเลยลักเงินของผู้ร้องขัดทรัพย์ไปซื้อรถยนต์ ดังนั้น รถยนต์ไม่ใช่ทรัพย์ของผู้ร้องจึงร้องขัดทรัพย์ไม่ได้
ผู้ที่ไม่มีสิทธิร้องขัดทรัพย์
8. ฎีกาที่ 1449/2524
เจ้าของกรรมสิทธิ์รวมกับลูกหนี้ตามคำพิพากษาในทรัพย์ที่ยึด เท่ากับจำเลยยังมีส่วนเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย ร้องขัดทรัพย์ไม่ได้
9. ฎีกาที่ 3139/2537
ถ้าผู้ร้องกับลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้แบ่งแยกการครอบครองที่ดินเป็นส่วนสัดแล้วจะยึดที่ดินส่วนที่ผู้ร้องครอบครองด้วยมิได้ ต้องกันที่ดินที่ผู้ร้องครอบครองออกก่อน
10.ฎีกาที่ 5266/2539
ทรัพย์สินที่ยึดเป็นสินสมรสของผู้ร้องกับลูกหนี้ตามคำพิพากษา เท่ากับจำเลยเป็นเจ้าของอยู่ด้วย ร้องขัดทรัพย์ไม่ได้
11. ฎีกาที่ 1413/2498
ผู้รับจำนำร้องขัดทรัพย์ในทรัพย์ที่ลูกหนี้ตามคำพิพากษานำมาจำนำไม่ได้ เพราะทรัพย์ที่จำนำเป็นของจำเลย ไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามมาตรา 288
12.ฎีกาที่ 2183/2519
ผู้มีสิทธิตามสัญญาจะซื้อขายทรัพย์สินจากจำเลย ยังไม่ได้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ซื้อจึงไม่มีสิทธิร้องขัดทรัพย์
13.ฎีกาที่ 1078/2520
ถ้าเป็นการทำสัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาดในที่ดินมือเปล่ากันเอง และผู้ซื้อได้เข้าครอบครองที่ดินแล้ว ดังนี้แม้สัญญาซื้อขายจะตกเป็นโมฆะ เพราะไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ก็ถือว่าผู้ขายได้โอนสิทธิครอบครองที่ดินให้ผู้ซื้อแล้วโดยการส่งมอบ ผู้ซื้อย่อมได้สิทธิครอบครองที่ดิน มีสิทธิร้องขัดทรัพย์ได้
14.ฎีกาที่ 794/2505
ถ้าผู้ซื้อยังมิได้ครอบครองที่ดินมือเปล่าที่ซื้อ ผู้ซื้อก็ไม่ได้สิทธิครอบครอง ร้องขัดทรัพย์ไม่ได้
15.ฎีกาที่ 151/2532
ทรัพย์ที่ยึดไม่เป็นส่วนควบกับที่ดินของผู้ร้อง ร้องขัดทรัพย์ไม่ได้
16. ฎีกาที่ 3570/2534
ผู้ที่กล่าวอ้างว่าลูกหนี้ตามคำพิพากษาไม่ใช่เจ้าของทรัพย์ที่ถูกยึด จะต้องถูกโต้แย้งสิทธิตามมาตรา 55 ด้วย
17.ฎีกาที่ 1701/2524(ประชุมใหญ่)
เมื่อปรากฏว่าทรัพย์สินที่เจ้าพนักงานบังคับคดียึดไว้ไม่ใช่ของลูกหนี้ตามคำพิพากษา แต่เป็นของผู้ร้องขัดทรัพย์ โจทก์จะยึดมาขายทอดตลาดชำระหนี้ไม่ได้ ศาลต้องถอนการยึดและคืนให้ผู้ร้องไป ทั้งโจทก์จะอ้างสิทธิยึดหน่วงในกรณีเช่นนี้ไม่ได้ด้วย
18.ฎีกาที่ 1645/2530
แม้ได้ความว่าทรัพย์ที่ถูกยึดนั้นเป็นของผู้ร้องขัดทรัพย์จริง แต่ผู้ร้องขัดทรัพย์เป็นตัวการไม่เปิดเผยชื่อยอมให้จำเลยซึ่งเป็นตัวแทนออกนอกหน้าเป็นตัวการ นำทรัพย์ดังกล่าวไปจำนองแก่ผู้รับจำนอง ผู้ร้องจะร้องขัดทรัพย์ให้เสื่อมสิทธิของผู้รับจำนองไม่ได้
19.ฎีกาที่ 1792/2530
ในคดีฟ้องบังคับจำนอง การที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษายึดทรัพย์ที่จำนองออกขายทอดตลาด ผู้ร้องขัดทรัพย์อ้างว่าเป็นเจ้าของทรัพย์ที่ยึด โดยใช้ชื่อจำเลยไว้ในโฉนดแทน จะต้องตั้งประเด็นมาในคำร้องขัดทรัพย์ว่าโจทก์รับจำนองไว้โดยไม่สุจริตด้วย
20.ฎีกาที่ 1185/2545
ในคดีที่โจทก์ฟ้องบังคับจำนองและนำยึดทรัพย์ที่จำนอง ผู้ร้องขัดทรัพย์อ้างว่าทรัพยันั้นเป็นของผู้ร้อง ผู้ร้องได้มาโดยการครอบครองปรปักษ์ ผู้ร้องต้องตั้งประเด็นในคำร้องขัดทรัพย์ว่าโจทก์รับจำนองไว้โดยไม่สุจริต หากไม่กล่าวไว้ก็ไม่มีประเด็นที่ผู้ร้องจะนำสืบได้ ศาลชั้นต้นยกคำร้องขัดทรัพย์ได้โดยไม่ต้องไต่สวน
21.ฎีกาที่ 1817/2542
ศาลยกคำร้องขัดทรัพย์เพราะไม่มีพยานมาสืบ เป็นการวินิจฉัยชี้ขาดประเด็นแห่งคดีแล้ว ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิร้องขัดทรัพย์อีก เป็นร้องซ้ำตามมาตรา 148
กำหนดเวลาร้องขัดทรัพย์
22. ฎีกาที่ 3030/2528
กำหนดเวลาในการยื่นร้องขัดทรัพย์จะต้องยื่นคำร้องก่อนขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดนั้น โดยต้องเป็นการขายทอดตลาดที่บริบูรณ์ด้วย การประกาศให้มีการขายทอดตลาดแล้วมีการเลื่อนออกไป ยังไม่ถือว่าเป็นการขายทอดตลาด ผู้ร้องจึงยังมีสิทธิร้องขัดทรัพย์ได้
23.ฎีกาที่ 2243/2525
ถ้ามีการขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดจนสำเร็จบริบูรณ์ไปแล้ว ผู้ร้องจึงมายื่นคำร้องว่าทรัพย์ที่ยึดเป็นของผู้ร้องขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาด มีผลเท่ากับขอให้ศาลปล่อยทรัพย์ที่ยึดตามมาตรา 288 จึงเกินกำหนดเวลาตามมาตรา 288
เจ้าพนักงานบังคับคดีต้องงดการขายทอดตลาดไว้
24.ฎีกาที่ 1900/2541
การที่ผู้ร้องขัดทรัพย์ได้เสียค่าธรรมเนียมในการส่งสำเนาคำร้องขัดทรัพย์ให้เจ้าพนักงานศาล เพื่อส่งให้แก่เจ้าพนักงานบังคับคดี เป็นการดำเนินการโดยชอบแล้ว การที่เจ้าพนักงานศาลไม่ได้นำส่งสำเนาคำร้องให้เจ้าพนักงานบังคับคดีจนเป็นเหตุให้เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์ไป จึงไม่ชอบ ศาลเพิกถอนการขายทอดตลาดได้
การพิจารณาคดีร้องขัดทรัพย์เหมือนคดีธรรมดา
25.ฎีกาที่ 310/2523
สำหรับการพิจารณาคดีร้องขัดทรัพย์ ศาลต้องพิจารณาและชี้ขาดตัดสินนั้นเหมือนคดีธรรมดานั้น ผู้ร้องขัดทรัพย์จึงมีฐานะเสมือนเป็นโจทก์ ส่วนเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา มีฐานะเสมือนเป็นจำเลย ดังนี้ โจทก์เดิมจึงต้องยื่นคำให้การแก้คดีภายใน 15 วัน นับแต่วันส่งหมายเรียก ถ้าไม่ยื่นในกำหนดถือว่าโจทก์เดิมขาดนัดยื่นคำให้การ
26.ฎีกาที่ 514/2503
ถ้าศาลไม่ได้ส่งให้ส่งหมายเรียก หรือกำหนดเวลาให้โจทก์ยื่นคำให้การแก้คำร้องขัดทรัพย์ เพียงแต่นัดพร้อม ดังนี้ โจทก์ยื่นคำให้การในวันนัดพร้อมได้
27.ฎีกาที่ 9594/2544
คำร้องขัดทรัพย์เปรียบเสมือนคำฟ้อง คำร้องขัดทรัพย์จึงต้องแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้นตาม ป.วิ.พ. มาตรา 172 วรรคสอง
ประเด็นในชั้นร้องขัดทรัพย์
28.ฎีกาที่ 54/2525
ในชั้นร้องขัดทรัพย์มีว่า ทรัพย์ที่เจ้าพนักงานบังคับคดียึดไว้เป็นของจำเลยหรือลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือไม่ ดังนี้ โจทก์จะขอให้ศาลสั่งเพิกถอน น.ส. 3 ไม่ได้
29.ฎีกาที่ 1400/2495
ในกรณีมีผู้ร้องขัดทรัพย์รายการ ผู้ร้องขัดทรัพย์ด้วยกันจะขอให้ศาลวินิจฉัยว่าใครมีสิทธิในทรัพย์นั้นไม่ได้
30.ฎีกาที่ 546/2501
ผู้ร้องขัดทรัพย์จะอ้างว่าหนี้ตามคำพิพากษาเกิดจากการสมยอมไม่ได้ เพราะไม่เกี่ยวกับประเด็นที่ว่าทรัพย์ที่ยึดเป็นของจำเลยหรือไม่
31.ฎีกาที่ 1151-1152/2503
ทางฝ่ายโจทก์หรือเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอาจยกข้อต่อสู้ได้ว่าผู้ร้องได้ทรัพย์มาโดยไม่สุจริต เป็นการฉ้อฉลตาม ป.พ.พ. มาตรา 237 ได้ โดยไม่ต้องให้เจ้าหนี้ไปฟ้องเพิกถอนการฉ้อฉลเป็นคดีใหม่ เพราะเกี่ยวกับประเด็นที่ว่าทรัพย์ที่ยึดเป็นของจำเลยหรือไม่
32.ฎีกาที่ 1227/2503
ในคดีร้องขัดทรัพย์ ผู้ร้องขัดทรัพย์จะอ้างว่าหนี้ตามคำพิพากษาเกิดจากการสมยอมไม่ได้
33.ฎีกาที่ 2105/2542
การวางเงินเพื่อประกันการชำระค่าสินไหมทดแทนสำหรับความเสียหายที่โจทก์อาจได้รับเท่านั้น ไม่จำเป็นที่โจทก์จะต้องได้รับความเสียหายจริง ๆ หรือความเสียหายยังไม่ปรากฏชัดแจ้งก็ตาม
34.ฎีกาที่ 7182-7183/2540
เมื่อเจ้าหนี้ตามคำพิพากษายื่นคำร้องขอให้ผู้ร้องขัดทรัพย์วางเงินแล้ว ถ้ามีพยานหลักฐานเบื้องต้นแสดงว่าคำร้องขัดทรัพย์นั้นไม่มีมูล ศาลอาจสั่งให้ผู้ร้องขัดทรัพย์วางประกันได้เลยโดยไม่จำต้องไต่สวนก่อนก็ได้
การขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้จำนอง (มาตรา 289)
1. ฎีกาที่ 2086/2497
เจ้าหนี้จำนองขอรับชำระหนี้ตามมาตรา 289 นี้ ไม่จำต้องเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา
2. ฎีกาที่ 3043/2528
เจ้าหนี้จำนองต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ก่อนเอาทรัพย์สินนั้นออกขายทอดตลาด
3. ฎีกาที่ 1779-1780/2509
ผู้รับจำนองจะไม่ได้ยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้ก่อนขายทอดตลาดตาม มาตรา 289 นี้ก็ไม่ทำให้จำนองระงับสิ้นไป เพราะการขายทอดตลาดทรัพย์ที่จำนองไม่ใช่เหตุทำให้การจำนองระงับสิ้นไปตาม ป.พ.พ. มาตรา 744 ทั้ง ป.วิ.พ. มาตรา 287
4. ฎีกาที่2698/2546
การที่ผู้รับจำนองจะไม่ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้จำนองก่อนขายทอดตลาดการบังคับคดีดังกล่าวไม่กระทบกระทั่งถึงสิทธิจำนอง ผู้รับจำนองอาจร้องขอให้บังคับเหนือทรัพย์สินนั้นได้ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 287 ดังนั้น ถ้าได้ขายทอดตลาดทรัพย์สินที่จำนองไปโดยปลอดจำนอง ก็ต้องชำระหนี้จำนองให้แก่ผู้รับจำนองก่อน
5. ฎีกาที่ 2825/2527
ในคดีที่โจทก์เป็นผู้รับจำนองแต่ฟ้องบังคับในมูลหนี้สามัญซึ่งเป็นหนี้ประธาน ในชั้นบังคับคดีโจทก์ก็มีสิทธิขอรับชำระหนี้ก่อนตามมาตรา 289
6. ฎีกาที่ 1767/2527
การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดทรัพย์ที่เช่าซื้อคืนจากผู้ร้อง เป็นการใช้สิทธิติดตามเอาคืนของโจทก์ มิใช่เป็นการบังคับคดีหรือบังคับชำระหนี้ ผู้ร้องจะขอรับชำระหนี้โดยอ้างสิทธิยึดหน่วงไม่ได้
7. ฎีกาที่ 5530/2539
คดีก่อนโจทก์เคยยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้จากเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลย ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 286 ศาลได้มีคำสั่งให้โจทก์ได้รับชำระหนี้ คำสั่งถึงที่สุดแล้ว การที่โจทก์นำคดีมาฟ้องบังคับจำนองจำเลยเป็นคดีนี้ เป็นฟ้องซ้ำ
8. ฎีกาที่ 2715/2545
การที่เจ้าหนี้บุริมสิทธิยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้ก่อน เมื่อพิจารณาได้ความว่า เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิยื่นคำร้องตามบทบัญญัติดังกล่าว ศาลจะสั่งให้เข้าเฉลี่ยทรัพย์ตามบทบัญญัติไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องนอกประเด็น