หนี้ค้ำประกันรถ และหนี้กู้ร่วมบ้าน
ดิฉันมีเรื่องสอบถาม เกี่ยวกับการค้ำประกันรถ ดิฉันได้ไปค้ำประกันรถ ให้กับอดีตสามี ซึ่งในขณะนั้น ดิฉันมีหนี้ส่วนตัวที่ต้องชำระต่อเดือน รวมแล้วเกือบ 3 หมื่นบาท จึงคิดว่าเซ็นไปทางไฟแนนซ์อาจจะพิจารณาไม่ผ่านประกอบกับไม่เคยได้เห็นสัญญาค้ำเลย จนมาได้รับจดหมายทวงหนี้จากการที่ผู้เช่าซื้อไม่ผ่อนชำระ และล่าสุดมีจดหมายให้คืนรถ บอกเลิกสัญญา และถ้าไม่คืนจะดำเนินการทางกฏหมาย ปัญหาคือดิฉันไม่สามารถเจอทั้งรถ และตัวผู้เช่าซื้อได้เลย ดิฉันควรจะทำอย่างไรคะ
ส่วนเรื่องกู้ร่วมบ้าน ดิฉันกู้ร่วม และผ่อนไปประมาณ สาม-สี่งวด ที่เหลือเค้าผ่อน ต่อมาเค้าก็ไม่ได้ผ่อนอีก ตอนนี้ธนาคารก็จะฟ้อง ญาติเค้าอ้างว่าดิฉันไม่ได้เป็นเจ้าของบ้านไม่มีกรรมสิทธิ์ในบ้าน และจะแจ้งความหาว่า ของในบ้านหายไปทั้ง ๆ ที่ดิฉันไม่ได้เข้าไปเลย ดิฉันควรจะทำอย่างไรได้บ้างคะ จะถอนชื่อหรือขายบ้านได้อย่างไร ถ้าตัวผู้กู้หลัก หาตัวไม่เจอ เพราะตอนนี้เค้าหนีหมายจับอยู่ ค่ะ
คำแนะนำทนายคลายทุกข์
กรณีของคุณที่เป็นผู้ค้ำประกัน ตามสัญญาค้ำประกันการเช่าซื้อของอดีตสามีผู้เช่าซื้อ เมื่อทางไฟแนนซ์ได้มีหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อ และบอกกล่าวให้ทางคุณฐานะที่เป็นผู้ค้ำประกันให้ติดตามคืนรถจากผู้เช่าซื้อ และมีกำหนดว่าถ้าไม่คืนจะดำเนินการทางกฎหมายแก่ท่าน เมื่อปรากฎว่า ท่านได้ติดปัญหาที่ไม่เจอรถและอดีตสามีผู้เช่าซื้อได้เลย จึงขอแนะนำให้ท่านติดต่อจ้างนักสืบ เพื่อดำเนินการหารถยนต์และสามี
ในส่วนเรื่องที่ท่านได้กู้ยืมเงินจากธนาคารร่วมกับอดีตสามีตามกฎหมาย โดยจำนองบ้านเป็นประกันหนี้ แม้ของในบ้านได้หายไป โดยที่ท่านได้ยืนยันว่าตัวท่านไม่ได้เข้าไปหรือเอาของออกมาเลย ทางญาติของอดีตสามีตามกฎหมาย ย่อมไม่ถือว่าเขาได้รับความเสียหายอันเกิดขึ้นนั้นแต่ประการใด จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย ตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 2(4) ในอันที่จะแจ้งความหรือดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์แก่ท่านแต่ประการใด เพราะฉะนั้นญาติอดีตสามีจึงไม่มีสิทธิมาแจ้งความดำเนินคดีแก่ท่าน ไม่ว่าทางแพ่งหรือทางอาญา
อนึ่ง ในส่วนที่ท่านกับอดีตสามีได้ร่วมกันกู้ยืมกับทางธนาคาร เมื่อทางคุณหรือสามีไม่ได้ผ่อนหนี้กับธนาคาร ธนาคารในฐานะเจ้าหนี้ก็ต้องฟ้องบังคับตามสัญญาจำนองต่อไป แนะนำให้ท่านไปเจรจาเพื่อชำระต่อไป หรือเมื่อท่านถูกฟ้องควรแต่งตั้งทนายความเพื่อเจรจาแทนท่านต่อไป
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
มาตรา 2 ในประมวลกฎหมายนี้
(4) " ผู้เสียหาย " หมายความถึง บุคคล ผู้ได้รับ ความเสียหาย เนื่องจาก การกระทำผิด ฐานใดฐานหนึ่ง รวมทั้ง บุคคลอื่น ที่มีอำนาจ จัดการแทนได้ ดั่งบัญญัติไว้ใน มาตรา 4,5 และ 6