คำพิพากษา เรื่องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถที่เช่าซื้อ
ขอปรึกษาเรื่องคำพิพากษา เรื่องการขาดประโยชน์จากการใช้รถ (ย่อ) ผมผิดนัดชำระหนี้ 12 งวด งวดละ 2000 บาท แต่ผมได้ทำการชำระเรียบร้อยแล้ว แต่ในคำพิพากษา เห็นสมควรให้ผมจ่ายค่าเสียหายอีกเดือนละ 1500 บาท รวม 12 งวด เป็นเงิน 18000 บาท และค่าเลิกสัญญา 3000 บาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5 และ ค่าใช่จ่ายทนายความ(ธนชาต) อีก 3000 บาท ตอนนี้ผมก็ใช่รถอยู่ และไม่ได้ค้างงวดรถแล้ว ผมต้องทำยังไงคับ....
คำแนะนำทนายคลายทุกข์
ตามกรณีของคุณดังกล่าว ซึ่งถ้าศาลได้พิพากษา หรือมีคำสั่งอย่างใดซึ่งจะต้องมีการบังคับคดี ก็ให้ศาลมีคำบังคับกำหนดวิธีที่จะปฏิบัติตามคำบังคับในวันที่อ่านคำพิพากษา หรือคำสั่งและให้เจ้าพนักงานศาลส่งคำบังคับนั้นไปยังลูกหนี้ตามคำพิพากษา ตาม ป.วิ.แพ่ง มาตรา 272 เพราะฉะนั้น คำพิพากษาศาลเกี่ยวด้วยเรื่องค่าขาดประโยชน์ที่ออกบังคับแก่คุณในฐานะเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษา เมื่อคุณไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาในส่วนที่ให้คุณชำระค่าขาดประโยชน์ดังกล่าว คุณก็ชอบที่จะอุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าวต่อไปยังศาลอุทธรณ์ได้ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 224
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
มาตรา 224 ในคดีที่ราคาทรัพย์สินหรือจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นอุทธรณ์ไม่เกินห้าหมื่นบาทหรือไม่เกินจำนวนที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา ห้ามมิให้คู่ความอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง เว้นแต่ผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาคดีนั้นในศาลชั้นต้นได้ทำความเห็นแย้งไว้หรือได้รับรองว่ามีเหตุอันควรอุทธรณ์ได้ หรือถ้าไม่มีความเห็นแย้งหรือคำรับรองเช่นว่านี้ต้องได้รับอนุญาตให้อุทธรณ์เป็นหนังสือจากอธิบดีผู้พิพากษาชั้นต้นหรืออธิบดีผู้พิพากษาภาคผู้มีอำนาจ แล้วแต่กรณี
บทบัญญัติในวรรคหนึ่งมิได้ให้บังคับในคดีเกี่ยวด้วยสิทธิแห่งสภาพบุคคลหรือสิทธิในครอบครัวและคดีฟ้องขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ เว้นแต่ในคดีฟ้องขับไล่บุคคลใด ๆ ออกจากอสังหาริมทรัพย์อันมีค่าเช่าหรืออาจให้เช่าได้ในขณะยื่นคำฟ้องไม่เกินเดือนละสี่พันบาทหรือไม่เกินจำนวนที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา
การขอให้ผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาในคดีในศาลชั้นต้นรับรองว่ามีเหตุอันควรอุทธรณ์ได้ ให้ผู้อุทธรณ์ยื่นคำร้องถึงผู้พิพากษานั้น พร้อมกับคำฟ้องอุทธรณ์ต่อศาลชั้นต้น เมื่อศาลได้รับคำร้องเช่นว่านั้น ให้ศาลส่งคำร้องพร้อมด้วยสำนวนความไปยังผู้พิพากษาดังกล่าวเพื่อพิจารณารับรอง
มาตรา 272 ถ้าศาลได้พิพากษาหรือมีคำสั่งอย่างใดซึ่งจะต้องมีการบังคับคดีก็ให้ศาลมีคำบังคับกำหนดวิธีที่จะปฏิบัติตามคำบังคับในวันที่ได้อ่านคำพิพากษาหรือคำสั่ง และเจ้าพนักงานศาลส่งคำบังคับนั้นไปยังลูกหนี้ตามคำพิพากษา เว้นแต่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้อยู่ในศาลในเวลาที่ศาลมีคำบังคับนั้น และศาลได้สั่งให้ลงลายมือชื่อไว้เป็นสำคัญ