หลอกต้มว่าได้รางวัลแต่ต้องจ่ายค่าภาษีเกือบ 20,000 บาท
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2553 ที่ผ่านมาดิฉันได้นำจดหมายที่บอกว่าได้รับของฟรีนั้นไปรับที่บริษัท ซึ่งบริษัทแห่งนี้ตั้งอยู่ตรงข้ามโรงพยาบาลเกษมราษสระบุรี เลยโลตัสไปทางโคราช 1 ก.ม. ซึ่งเมื่อไปถึงก็มีพนักงานมาต้อนรับอย่างดี และก็ได้อธิบายว่ารางวัลนี้เราได้มาอย่างไร ซึ่งเค้าบอกว่าเราเป็นผู้โชคดีจากการส่งบัตรรับประกันสินค้าของเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆที่เราส่งไป ซึ่งจะแจกของฟรีให้เรา 1 ชิ้น ซึ่งจะตรวจตามบาโค๊คที่ไปพร้อมกับจดหมายว่า ตรงกันสินค้าอะไรซึ่งดิฉันได้เพียงกระทะเล็กๆ 1 ใบ แต่ชิ้นที่ 2 เค้าบอกว่าต้องตรวจดูว่า เรามาทัน 50 คนแรกของอำเภอที่เราอยู่หรือเปล่า บังเอิญดิฉันเป็นคนที่ 37 ก็เลยมีสิทธิลุ้น ซึ่งรางวัลก็มีเครื่องใช้ไฟฟ้าและทองคำหนัก 5 บาท แต่ก็มีส่วนที่ไม่ได้อะไรเลยก็มี ซึ่งทางร้านแจ้งว่าให้จับเพียง 1 ครั้ง แต่ถ้าครั้งแรกได้คำว่า ขอบคุณ นั่นหมายถึงไม่ได้อะไรเลย จะให้โอกาสจับครั้งที่ 2 แต่ถ้าครั้งที่ 2 ยังไม่ได้อีกก็คือ อด ไม่ได้อะไรเลย แต่ครั้งที่ 2 ดิฉันจับได้รางวัลใหญ่ ซึ่งประกอบด้วย ชุดโฮมเธียเตอร์ชุดใหญ่ 1 ชุดยี่ห้อ SOKING ราคา 65,990 บาท ( ซึ่งของจริงราคาไม่น่าจะถึง),เครื่องเล่น DVD ไดสตาร์ 1 เครื่อง ราคา 1,990 บาท (ดูในโลตัส 990 บาทเอง), หม้อสุกี้ OTTO 1 เครื่อง ราคา 2,990 บาท , ฝาอบไฟฟ้า HaWord 1 เครื่อง ราคา 3,990 บาท และคูปองเงินสดอีก 1,000 บาท
ซึ่งพอเราจับได้มันดูเยอะแยะมากมาย และพนักงานได้ติดต่อโทรศัพท์หาทางหัวหน้าของเขา และมาแจ้งอีกว่าดิฉันได้รับรางวัล VIP. ซึ่งจะได้รับเงินสดอีก 40,000 บาท ตอนนั้นเราก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเป็นของฟรี เราก็เลยดีใจ แต่แล้ว พนักงานก็แจ้งให้ทราบว่า การได้รับรางวัลเกิน 20,000 บาท จะต้องจ่ายภาษี 7 % และบวกค่าธรรมเนียมอีก 20 % แต่ว่าค่าธรรมเนียมจะได้คืนภายหลัง ดังนั้นดิฉันจึงต้องจ่ายเงินซึ่งอ้างว่าเป็นค่าภาษีและค่าธรรมเนียม จำนวน 17,817 บาท ให้แก่พนักงานไป ซึ่งพนักงานแจ้งว่าจะจัดส่ง บัตรสมาชิก VIP. พร้อมบัตรเชิญให้มาร่วมงานกินเลี้ยงสมาชิกของบริษัทในเดือน กรกฎาคม 2553 และงานจะจัดขึ้นวันที่ 9 สิงหาคม 2553 ณ สนามกีฬา จ.สระบุรี และจะให้เราไปรับเงินที่อ้างว่าป็นค่าธรรมเนียมคืนหลังจากที่เราได้รับบัตรเชิญ และเงินสดอีก 40,000 บาท ในวันงานซึ่งจะต้องขึ้นรับบนเวทีและอาจจะต้องถูกถามว่ารู้สึกอย่างไรและตอบคำถามบนเวทีด้วย ซึ่งรางวัลเงินสด 40,000 บาทนี้ เค้าบอกว่าเป็นค่าพรีเซ็นเตอร์โฆษณาสินค้าให้เค้า และเค้าก็จัดการถ่ายรูปเราไปแล้วบอกว่ารูปเราอาจจะไปขึ้นที่ข้างกล่องของสินค้า แล้วอย่าตกใจเพราะรูปอาจจะสวยหล่อเกินจริง
หลังจากนั้นทางร้านก็จัดส่งสินค้าพร้อมติดตั้งให้ และก็บอกให้ดิฉันรอรับบัตรเชิญ ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งทางร้านไม่มีเอกสารหรือหลักฐานใดๆเลยที่จะแสดงว่า เราได้รับรางวัลจริง มีแต่ใบเสร็จรับเงิน ที่ระบุถึงชื่อของสินค้าที่เรารับมาโดยไม่ได้ระบุราคาของสินค้าแต่ละชิ้น แต่สรุปเอาตรงยอดรวมชำระ คือ 17,817 บาท ดิฉันจึงคิดว่าดิฉันถูกหลอกให้ซื้อสินค้าทั้งหมดในราคานี้หรือเปล่า และถ้าดิฉันถูกหลอกจริง ดิฉันจะสามารถเรียกเงินคืนจากทางร้านได้มั๊ย และสามารถดำเนินคดีกับทางร้านได้หรือเปล่า และตอนนี้ดิฉันสามารถแจ้งความได้เลยหรือเปล่า เพราะกลัวว่าถ้ารอจนถึงวันที่ทางร้านนัดแล้ว ถ้าเค้าคิดหลอกเราจริงๆ เค้าก็คงนี้ไปไกลแล้ว แล้วทางตำรวจอาจจะตามจับไม่ได้ และเค้าก็จะไปหลอกคนอื่นๆทั่วประเทศต่อไป แต่ถ้าเคาไม่ได้หรอกเรา แล้วรางวัลแบบนี้ก็มีจริง เราจะโดนข้อหาแจ้งความเท็จ หรือเปล่า
คำแนะนำทนายคลายทุกข์
กรณีของคุณต้องรอก่อนว่าทางบริษัทได้ส่งบัตรสมาชิก VIP พร้อมด้วยบัตรสมาชิกมาให้คุณหรือเปล่า หากไม่มีการส่งตามที่โฆษณาไว้ ถือว่าเป็นการหลอกลวง มีความผิดฐานฉ้อโกง ตาม ป.อ. มาตรา 341 เพราะฉะนั้น หากไม่เป็นไปตามที่กล่าวอ้าง คุณในฐานะผู้เสียหายสามารถแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนในความผิดต่อส่วนตัวดังกล่าว และยังสามารถฟ้องคดีเพื่อเรียกเงินที่ถูกโกงไปจากบริษัทคืนได้ ปัจจุบันนี้มีการกระทำแบบนี้ในต่างจังหวัดเป็นจำนวน อย่าหลงเชื่อและจ่ายเงินไปเพราะท่านอาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพเหล่านี้ ซึ่งของฟรีไม่มีในโลกหรอกค่ะ
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 341 ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ