บัตรเครดิตหายและถูกนำไปรูดซื้อสินค้า
เราทำบัตรหายแล้วมีคนนำไปรูดจำนวนเงินประมาณ 12,200 บาท ตั้งแต่ปี 49 ค่ะ ได้แจ้งความและร้องทุกข์แล้ว แต่ก็ไม่เป็นผล เจ้าหน้าที่บัตรไม่ช่วยเหลืออะไรเลยทั้งที่เราก็ปฏิเสธแล้วว่ามันไม่ใช้ลายเซ็นต์ของเรา และก็เปลี่ยนเจ้าหน้าที่บ่อย ๆ ตอนแรกถ้าเจ้าหน้าที่บัตรบอกให้เราไปแจ้งความก่อนก็อาจจะจับคนร้ายได้แต่เขาบอกให้เราขอแบบฟอร์มในการตรวจสอบและส่งแฟ็กซ์ให้เขาโดยทางบริษัทจะทำการตรวจสอบ พอตรวจสอบก็โยนภาระให้เราโดยสรุปเราต้องใช้หนี้ที่เรามิได้ก่อ ทางบริษัทก็ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือแบบจริงใจกับลูกค้าเลยเราก็เลยไปแจ้งความ ตอนนี้เราไม่ได้ชำระมาประมาณ 2 ปีกว่านะค่ะ เพราะชำระของที่ตัวเองใช้อยู่ก่อนหน้านั้นและติดบูโรด้วย ที่ทราบเนื่องจากไปทำบัตรเครดิตแล้วไม่อนุมัติเลยทราบแต่ไม่ทราบว่าติดตั้งแต่เมื่อไหร่ตอนนี้ก็ยังมีเจ้าหน้าที่โทรมาทวงเรื่อย ๆ ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรดีค่ะ พอเราบอกเหตุผลไปก็หายไปซักพักก็มีเจ้าหน้าที่คนใหม่โทรมาทวงอีกปวดหัวจังค่ะ เพราะในอนาคตอาจต้องทำธุรกรรมทางการเงิน ทำงัยเรื่องมันจะจบค่ะ
คำแนะนำทนายคลายทุกข์
การที่คุณได้ทำบัตรหายแล้วมีครนนำไปรูด เป็นจำนวนเงิน 12,200 บาท แล้วทางธนาคารได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่มาทวงถามคุณ เพื่อเป็นการรักษาเครดิตของคุณ คุณจะต้องชำระหนี้นั้นให้แก่ธนาคารเจ้าหนี้คุณก่อน เพื่อคุณจะได้เป็นลูกหนี้ชั้นดี ในการเก็บรักษาข้อมูลเครดิตบูโร ส่วนผู้กระทำผิดที่ได้ลักลอบนำบัตรของคุณไปรูดซื้อสินค้าหรือบริการย่อมเป็นเรื่องที่คุณจะต้องไปดำเนินการเร่งรัดต่อเจ้าพนักงานตำรวจ เพื่อดำเนินการติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ในฐานะที่คุณเป็นผู้เสียหาย ตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 2 (4),(7) ได้
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
มาตรา 2 ในประมวลกฎหมายนี้
(4) “ผู้เสียหาย” หมายความถึงบุคคลผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำผิดฐานใดฐานหนึ่ง รวมทั้งบุคคลอื่นที่มีอำนาจจัดการแทนได้ ดั่งบัญญัติไว้ในมาตรา 4,5 และ 6
(7) “คำร้องทุกข์” หมายความถึงการที่ผู้เสียหายได้กล่าวหาต่อเจ้าหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ ว่ามีผู้กระทำความผิดขึ้น จะรู้ตัวผู้กระทำความผิดหรือไม่ก็ตาม
ซึ่งกระทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหาย และการกล่าวหาเช่นนั้นได้กล่าวโดยมีเจตนาจะให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษ