หลักสูตรกฎหมายแรงงานที่หัวหน้างานต้องรู้
สำนักฝึกอบรมทนายคลายทุกข์จัดฝึกอบรมสัมมนาเกี่ยวกับกฎหมายแรงงานที่หัวหน้างานหรือพนักงานต้องรู้ ปัจจุบันมีกรณีพิพาทแรงงานเกือบทุกวัน เช่น การออกใบเตือน การเลิกจ้างพนักงานทั่วไป และพนักงานทดลองงาน การทุจริตของพนักงาน การกระทำละเมิดของลูกจ้าง การฝ่าฝืนข้อบังคับการทำงาน และสัญญาห้ามทำงานกับคู่แข่งทางการค้า การเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแรงงาน หัวหน้างานจึงมีความจำเป็นจะต้องรู้กฎหมายแรงงาน มิฉะนั้น อาจทำให้เกิดปัญหาในการทำงานมากมาย ท่านใดสนใจเข้ารับการฝึกอบรม ทั้ง Public และ inhouse ท่านใดสนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ คุณศุภานัน 02-9485700 หรือ ปรึกษาคดีแรงงานกับทนายคดีแรงงาน ได้ที่เบอร์ดังกล่าวหรือส่งคำถามทางด้านกฎหมายแรงงานของท่านมาได้ที่ e-mail: [email protected]
สัญญาจ้างแรงงาน
ความหมายของจ้างแรงงาน
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 575 บัญญัติว่า “อันว่าจ้างแรงงานนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลหนึ่งเรียกว่าลูกจ้าง ตกลงจะทำงานให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่านายจ้างและนายจ้างตกลงจะให้สินจ้างตลอดเวลาที่ทำงานให้”
องค์ประกอบของสัญญาจ้างแรงงาน
o นายจ้างตกลงจ้าง
o ลูกจ้างตกลงรับทำงาน
o ตามระยะเวลาที่ตกลงกัน
o สมัครใจ
ลักษณะสำคัญของสัญญาจ้างแรงงาน
o เป็นสัญญาต่างตอบแทน
o ทั้งลูกจ้างและนายจ้างมีหน้าที่ต่อกัน กล่าวคือลูกจ้างมีหน้าที่ต้องทำงานให้แก่นายจ้าง นายจ้างมีหน้าที่ต้องจ่ายค่าจ้างหรือสินจ้างให้กับลูกจ้างในการทำงาน
o พรบ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 5 กำหนดว่า ค่าจ้างต้องเป็นเงินเท่านั้น จะจ่ายเป็นสิ่งของอย่างอื่นไม่ได้ ไม่ถือว่าเป็นค่าจ้างตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน
o มาตรา 5 บัญญัติว่า “ค่าจ้าง หมายความว่า เงินที่นายจ้างและลูกจ้างตกลงกันจ่ายเป็นค่าตอบแทนในการทำงานตามสัญญาจ้างสำหรับระยะเวลาการทำงานปกติเป็นรายชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน หรือระยะเวลาอื่น หรือจ่ายให้โดยคำนวณตามผลงานที่ลูกจ้างทำได้ในเวลาทำงานปกติของวันทำงาน และให้หมายความรวมถึงเงินที่นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างในวันหยุดและวันลาที่ลูกจ้างมิได้ทำงาน แต่ลูกจ้างมีสิทธิได้รับตามพระราชบัญญัตินี้”
o ลูกจ้างต้องทำงานภายใต้การควบคุมบังคับบัญชาของนายจ้าง จะทำงานโดยอิสระปราศจากการควบคุมบังคับบัญชาของนายจ้างไม่ได้ ถ้าลูกจ้างมีอิสระทำงานตามใจชอบไม่ถือว่าความสัมพันธ์ระหว่างกันเป็นสัญญาจ้างแรงงาน คำพิพากษาฎีกาที่ 2848/2525 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 583 ซึ่งบัญญัติว่า “ถ้าลูกจ้างจงใจขัดคำสั่งของนายจ้างชอบด้วยกฎหมายก็ดี หรือละเลยไม่นำพาต่อคำสั่งเช่นว่านั้นเป็นอาจิณก็ดี ละทิ้งการงานไปเสียก็ดี กระทำความผิดอย่างร้ายแรงก็ดี หรือทำประการอื่นอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริตก็ดี ท่านว่านายจ้างจะไล่ออกโดยมิพักต้องบอกกล่าวล่วงหน้าหรือให้สินไหมทดแทนก็ได้”
o คุณสมบัติของนายจ้างและลูกจ้างเป็นสาระสำคัญของสัญญาจ้างแรงงาน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 577 บัญญัติว่า “นายจ้างจะโอนสิทธิของตนให้แก่บุคคลภายนอกก็ได้เมื่อลูกจ้างยินยอมพร้อมใจด้วย ลูกจ้างจะให้บุคคลภายนอกทำงานแทนตนก็ได้เมื่อนายจ้างยินยอมพร้อมใจด้วย ถ้าคู่สัญญาฝ่ายใดทำการฝ่าฝืนบทบัญญัตินี้ คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งจะบอกเลิกสัญญาเสียก็ได้”
รูปแบบของสัญญาจ้างแรงงาน
- รูปแบบของสัญญาจ้างแรงงาน
ควรทำเป็นหนังสือระบุถึงสิทธิและหน้าที่ของนายจ้างและลูกจ้าง เงื่อนไขการจ่ายค่าจ้าง ระยะเวลาในการทำงาน ค่าจ้างและผลประโยชน์ตอบแทนอื่น ๆ เช่น โบนัสให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้มีข้อถกเถียงกันในอนาคต และสะดวกในการนำสืบหากมีกรณีพิพาทเกี่ยวกับคดีแรงงาน ทำให้การตกลงเกี่ยวกับข้อพิพาทแรงงานเป็นไปด้วยความเรียกร้อย
- ควรทำสัญญาจ้างเป็นหนังสือ
สาระสำคัญที่ควรมีในสัญญาจ้างแรงงาน
o ชื่อนายจ้างและลูกจ้าง
o วันที่เริ่มต้นการจ้าง
o วันเริ่มต้นการจ้างครั้งก่อน ในกรณีตกลงนับระยะเวลาทำงานต่อเนื่องจากการทำงานครั้งก่อน
o ตำแหน่ง หน้าที่ของลูกจ้าง
o อัตราค่าจ้าง วิธีการคำนวณ และกำหนดเวลาจ่ายค่าจ้าง
o ข้อตกลงเกี่ยวกับชั่วโมงทำงาน วันหยุด ค่าจ้างในวันหยุด รวมทั้งค่าทำงานในวันหยุดกรณีสัญญาจ้างสิ้นสุด
o ข้อตกลงเกี่ยวกับการไร้ความสามารถเนื่องจากเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ รวมทั้งค่าจ้างในระหว่างลาป่วย
o บำนาญและหลักเกณฑ์การจ่าย
o ระยะเวลาบอกกล่าวล่วงหน้าก่อนเลิกสัญญาจ้าง
o ระยะเวลาจ้าง กรณีจ้างชั่วคราว หากจ้างมีกำหนดเวลาแน่นอนต้องระบุวันสิ้นสุดของสัญญาจ้าง
o สถานที่ทำงาน
o ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างที่มีผลโดยตรงต่อเงื่อนไขการจ้างและการทำงานของลูกจ้าง ในกรณีนายจ้างไม่ใช่คู่สัญญาของข้อตกลง
- ทะเบียนลูกจ้าง (พรบ.คุ้มครองแรงงานมาตรา 112)
- ข้อตกลงในสัญญาจ้างแรงงาน (ป.พ.พ.มาตรา 583)
- การแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อตกลงในสัญญาจ้างแรงงาน (สัญญาจ้างแรงงานเป็นสัญญาต่างตอบแทน ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะแก้ไขโดยที่อีกฝ่ายหนึ่งไม่ยินยอมไม่ได้ คำพิพากษาฎีกาที่ 6629/2541 , 7238-7239-2544 , 1921/2545 , 3456/2545 )
นายจ้าง ลูกจ้างและบุคคลที่ต้องร่วมรับผิดกับนายจ้าง
- นายจ้าง (พรบ.คุ้มครองแรงงานมาตรา 5 , มาตรา 11/1 ) คำพิพากษาฎีกาที่ 1746-1951/2525 ป.พ.พ. มาตรา 70 , 821 ,823 , 1167
- บุคคลที่ต้องร่วมรับผิดกับนายจ้าง (พรบ.คุ้มครองแรงงานมาตรา 5 , มาตรา 12 ) ป.พ.พ. มาตรา 226
- ลูกจ้าง (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 5 ) คำพิพากษาฎีกาที่ 4471/2530 , 2970/2528 , 336/2525 , 3465/2524 ลูกจ้างประจำและลูกจ้างชั่วคราว (ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงานฯ เดิม เดือนตุลาคม 2532 ยกเลิกลูกจ้างประจำและลูกจ้างชั่วคราว คงมีแต่ลูกจ้างที่ได้รับความคุ้มครองตามพรบ.คุ้มครองแรงงาน ฉบับปี พ.ศ. 2541 เท่าเทียมกัน ไม่มีการแบ่งแยกลูกจ้าง)
การค้ำประกันการทำงานของลูกจ้าง
- ความเป็นมาของการเรียกหรือรับหลักประกัน
- ประเภทของการประกัน (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 10 ) คำพิพากษาฎีกาที่ 6633-6638/2547 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 363
- ข้อห้ามเรียกรับหลักประกัน (หลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด ตามพรบ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 10 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2551 )
- ลักษณะหรือสภาพของงานที่เรียกหรือรับหลักประกันได้ (ประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการเรียกหรือรับหลักประกันการทำงานหรือหลักประกันความเสียหายจากการทำงานจากลูกจ้าง พ.ศ. 2551 ข้อ 4)
- หลักเกณฑ์และวิธีการเรียกรับหลักประกัน (เป็นไปตามประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการเรียกหรือรับหลักประกันการทำงานหรือหลักประกันความเสียหายจากการทำงานจากลูกจ้าง พ.ศ. 2551 ข้อ 5. )
- การคืนหลักประกันและความรับผิด (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 9 , มาตรา 10 , มาตรา 144 ) คำพิพากษาฎีกาที่ 8029/2544
- อายุความฟ้องให้รับผิดตามหลักประกันการทำงาน (ป.พ.พ. มาตรา 193/30 ) อายุความฟ้องร้อง 10 ปี นับแต่เวลาที่อาจบังคับได้ตามสิทธิ
จ้างทดลองงาน
- จ้างทดลองงาน หมายถึง ทดลองการปฏิบัติภายในระยะเวลาที่กำหนด เพื่อทดสอบความรู้ความสามารถในการทำงาน ถ้าพอใจผลงานนายจ้างให้ลูกจ้างทำงานต่อ ถ้าผลงานไม่น่าพอใจ นายจ้างมีสิทธิเลิกลูกจ้างได้ในระหว่างทดลองงาน
- เงื่อนไขและระยะเวลาทดลองงาน (คำพิพากษาฎีกาที่ 2480/2525 อาจตกลงก่อนเข้าทำงานหรือตกลงภายหลังเข้าทำงานก็ได้ เดิมเลิกจ้างในระหว่างทดลองงานไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวล่วงหน้า คำพิพากษาฎีกาที่ 2658/2526 ปัจจุบันต้องบอกกล่าวล่วงหน้า ตามคำพิพากษาฎีกาที่ 5249/2545 ครบกำหนดทดลองงาน นายจ้างอาจให้ลูกจ้างทดลองงานต่ออีกได้ ถ้าลูกจ้างไม่ผ่านการประเมินจะต้องโต้แย้งการประเมินหากไม่โต้แย้งถือว่าประเมินชอบแล้ว คำพิพากษาฎีกาที่ 8682/2548
- การคุ้มครองตามกฎหมาย (ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องอัตราค่าจ้างขั้นต่ำฉบับที่ 21 ลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2521 นายจ้างจะจ่ายค่าจ้างระหว่างทดลองงานต่ำกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำไม่ได้ คำพิพากษาฎีกาที่ 4530-4535/2543 ลูกจ้างทดลองงานและลูกจ้างทั่วไปได้รับความคุ้มครองเหมือนกับลูกจ้างทั่วไป เช่น สิทธิในการลาป่วยได้รับค่าจ้างไม่เกิน 30 วันต่อปี, การหยุดประจำสัปดาห์ , การหยุดตามประเพณี , การหยุดพักผ่อนประจำปี , ค่าล่วงเวลาเป็นต้น
สิทธิหน้าที่ของนายจ้างและลูกจ้างตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
- สิทธิและหน้าที่ของลูกจ้าง
ลูกจ้างต้องทำงานตามคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของนายจ้าง เป็นคำสั่งที่ออกโดยผู้มีอำนาจ และเป็นคำสั่งที่เกี่ยวกับงานในหน้าที่ของลูกจ้าง ถ้าเป็นคำสั่งนอกเหนือจากการทำงานตามหน้าที่ลูกจ้างไม่มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม คำพิพากษาฎีกาที่ 3423/2524 , 2021/2525 , 2518/2527 , 4779/2531 คำสั่งของนายจ้างต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย ไม่พ้นวิสัย ไม่ขัดกับข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างที่มีอยู่และเป็นธรรม / ลูกจ้างต้องทำงานด้วยตนเอง ลูกจ้างต้องทำงานให้ปรากฎฝีมือตามที่ได้แสดงไว้ ป.พ.พ. มาตรา 578 / ลูกจ้างต้องไม่ละทิ้งหน้าที่โดยไม่มีเหตุอันสมควร ป.พ.พ. มาตรา 583 / ลูกจ้างต้องไม่กระทำความผิดร้ายแรง ป.พ.พ. มาตรา 583 / ลูกจ้างต้องไม่กระทำการอันไม่สมควรแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริต ป.พ.พ. มาตรา 583
- สิทธิและหน้าที่ของนายจ้าง
ป.พ.พ. มาตรา 575 นายจ้างมีหน้าที่ตามกฎหมายต้องจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างและต้องจ่ายเป็นเงินเท่านั้น พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 5 / นายจ้างมีสิทธิมอบงานให้ลูกจ้างทำ แต่เคยมีคำพิพากษาฎีกาที่ 2850/2525 วินิจฉัยว่าเป็นสิทธิของนายจ้างที่จะไม่ส่งมอบงานให้แก่ลูกจ้างทำก็ได้ แต่นายจ้างยังมีหน้าที่ต้องจ่ายค่าจ้างแก่ลูกจ้างอยู่ ถ้าไม่จ่ายค่าจ้างถือว่าเป็นการเลิกจ้างแล้ว / นายจ้างจะโอนสิทธิการเป็นนายจ้างให้บุคคลอื่นจะต้องได้รับความยินยอมจากลูกจ้าง ป.พ.พ. มาตรา 577 คำพิพากษาฎีกาที่ 1343/2526 / นายจ้างโอนลูกจ้างไปยังอีกบริษัทหนึ่งแต่ลูกจ้างไม่ยินยอมและไม่ยอมไปทำงาน และไม่ไปรายงานตัวจะถือว่าลูกจ้างละทิ้งหน้าที่ 3 วันทำงานติดต่อกันไม่ได้ กรณีโอนลูกจ้างไปทำงานกับบุคคลอื่น หากไม่ตกลงกันไว้ ต้องนับอายุงานต่อเนื่อง คำพิพากษาฎีกาที่ 587-588/2530 /กิจการของนายจ้างที่มีการเปลี่ยนตัวนายจ้าง นายจ้างคนใหม่ต้องรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ตาม พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 13 / นายจ้างต้องออกค่าเดินทางขากลับให้แก่ลูกจ้าง ป.พ.พ. มาตรา 586 /นายจ้างต้องออกหนังสือสำคัญแสดงการทำงานให้แก่ลูกจ้างเมื่อสัญญาจ้างสิ้นสุด ตาม ป.พ.พ. มาตรา 585
- อายุความฟ้องเรียกร้องสิทธิตามสัญญาจ้าง
เป็นไปตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/30 กล่าวคือมีอายุความ 10 ปี
การใช้แรงงานหญิง
- งานที่ห้ามไม่ให้ลูกจ้างหญิงทำ (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 38 )
- กำหนดเวลาที่ห้ามไม่ให้ลูกจ้างหญิงทำงาน (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 40 )
- การให้ความคุ้มครองลูกจ้างหญิงที่ตั้งครรภ์ (พรบ.คุ้มครองแรงงานมาตรา 39 , มาตรา 39/1 , มาตรา 41 , มีสิทธิขอเปลี่ยนงานชั่วคราว มาตรา 42 , ห้ามเลิกจ้างลูกจ้างหญิงเพราะเหตุตั้งครรภ์ มาตรา 43 ,ป.พ.พ. มาตรา 150 )
- การคุ้มครองความเสมอภาคระหว่างลูกจ้างหญิงกับชาย ( รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 30 , พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 15 , 53 , 89 )
- การคุ้มครองลูกจ้างหญิงจากการถูกล่วงเกินทางเพศ ( พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 16 , คำพิพากษาฎีกาที่ 1372/2545 นายจ้างชวนลูกจ้างหญิงไปเที่ยวเตร่ด้วยกันในเวลากลางคืน นอกเวลางาน ลูกจ้างหญิงไม่ไปจะกลั่นแกล้งและไม่ให้ผ่านการทดลองงานเป็นการล่วงละเมิดทางเพศ)
การใช้แรงงานเด็ก
- ห้ามรับเด็กอายุต่ำกว่า 15 เข้าทำงานเป็นลูกจ้าง (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 44 )
- การรับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีเข้าทำงานเป็นลูกจ้าง (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 45 )
- เวลาทำงานและเวลาพักของลูกจ้างที่เป็นเยาวชน (พรบ.คุ้มครองแรงงานมาตรา 46 , 47 , 48 )
- ลักษณะงานและสถานที่ที่ห้ามไม่ให้ลูกจ้างที่เป็นเยาวชนทำ (กฎกระทรวงฉบับที่ 6 พ.ศ. 2541 )ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541
- การคุ้มครองการจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างที่เป็นเยาวชน (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 51)
- การลาเพื่อพัฒนาและส่งเสริมคุณภาพชีวิตและการทำงานของลูกจ้างที่เป็นเยาวชน (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 52)
เวลาทำงานปกติและเวลาพัก
- เวลาทำงานปกติ (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 23 )
- เวลาพัก (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 27)
วันหยุดและวันลา
1.วันหยุด
oวันหยุดประจำสัปดาห์ (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 28)
oวันหยุดตามประเพณี (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 29)
oวันหยุดพักผ่อนประจำปี (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 30)
2.วันลา
oลาป่วย (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 32 )
oลาเพื่อทำหมัน (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 33 )
oลาคลอด (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 41)
oลากิจ (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 34)
oลารับราชการทหาร (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 35)
oลาเพื่อฝึกอบรม (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 36)
oลาเพื่อกิจการสหภาพแรงงาน (พรบ.แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 102)
ค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุดและค่าล่วงเวลาในวันหยุด
1.ค่าจ้าง
oความหมายของค่าจ้าง (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 5 )
oค่าจ้างขั้นต่ำ (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 78 , 79 , 80 , 82 , 84 ) ประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่องอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ (ฉบับล่าสุด)
oค่าจ้างในระหว่างปิดกิจการชั่วคราว ฎีกา 118/2525 , 1277-1278/2529 (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 75 )
oค่าจ้างในระหว่างนัดหยุดงานและปิดงาน (พรบ.แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 5 , มาตรา 6 คำพิพากษาฎีกาที่ 1612/2530 , 2608-2610/2527 )
oค่าจ้างในวันหยุดและวันลา (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 56 )
oเงินที่นายจ้างต้องจ่ายกรณีพักงานระหว่างสอบสวนความผิด (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 116 )
oเงินที่นายจ้างต้องจ่ายระหว่างพนักงานตรวจแรงงานสั่งให้หยุดกิจการชั่วคราว (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 105)
2.ค่าล่วงเวลา
oความหมาย (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 23 วรรคสอง)
oประเภทของค่าล่วงเวลา
oสิทธิของนายจ้างในการให้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลา (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 24 )
oอัตราค่าล่วงเวลา (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 61, 63 , 74 )
oการคำนวณค่าล่วงเวลา (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 68 )
oการตกลงเหมาค่าล่วงเวลารวมกับค่าจ้าง (คำพิพากษาฎีกาที่ 3269-3270/2526 ) ประมวลกฎหมายแพ่ง มาตรา 50
oลูกจ้างที่ไม่มีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลา (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 65 )
oอายุความฟ้องเรียกค่าล่วงเวลา (มีอายุความ 2 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/34 (9) คำพิพากษาฎีกาที่ 2073/2531 , 2754/2523 , 2923/2523
3.ค่าทำงานในวันหยุด
oความหมาย
oสิทธินายจ้างในการให้ลูกจ้างทำงานในวันหยุด (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 25)
oอัตราค่าทำงานในวันหยุด (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 62)
oลูกจ้างที่ไม่มีสิทธิได้รับค่าทำงานในวันหยุด พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 65(1)
4.การจ่ายค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด
oจ่ายโดยเสมอภาคให้แก่ลูกจ้างชายและหญิง (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 53)
oจ่ายด้วยเงินตราไทย (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 54)
oจ่าย ณ สถานที่ที่ลูกจ้างทำงาน (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 55)
oกำหนดเวลาจ่าย (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 70)
oความรับผิดในดอกเบี้ยและเงินเพิ่ม (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 9 )
oการหักค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 76 , 77 )
oอายุความฟ้องเรียกค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด
การฟ้องคดีเพื่อเรียกค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด ค่าล่วงเวลาในวันหยุด รวมถึงค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี มีอายุความ 2 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/34 (8)(9)
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานและข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง
1.ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน
oนายจ้างที่มีลูกจ้าง 10 คนขึ้นไปต้องมีข้อบังคับฯเป็นหนังสือ (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 108 )
oการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 108 วรรคสองและวรรคสี่ และมาตรา 110 )
2.ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง
oข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง (พรบ.แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 10 )
oองค์ประกอบของข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง (พรบ.แรงงานสัมพันธ์ มาตรา 5 )
oประเภทของข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง
oข้อเหมือนและข้อแตกต่างระหว่างข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างที่เกิดและไม่ได้เกิดจากการแจ้งข้อเรียกร้อง
oผลของข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง
oการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง
oผลผูกพันของข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง
วินัยและการลงโทษทางวินัย
-ความหมายและวัตถุประสงค์
-ผู้มีอำนาจกำหนดวินัย (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 5 )
-วินัยและการลงโทษปรากฏในข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 108)
-ประเภทของวินัย
-ขอบเขตของวินัย
-วินัยที่ดี
-สาเหตุของการฝ่าฝืนวินัย
-โทษทางวินัย
-ขั้นตอนการลงโทษทางวินัย
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า
1.หลักเกณฑ์การบอกกล่าวล่วงหน้า (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 582 , 583 , พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 17 )
oการจ้างที่มีกำหนดเวลา เมื่อครบกำหนดสัญญาจ้างสิ้นสุดโดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า
oการจ้างที่ไม่มีกำหนดเวลา ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าเป็นหนังสือก่อนเลิกจ้าง
2.ข้อยกเว้นไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า
ลูกจ้างจงในขัดคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของนายจ้าง , ไม่นำพาต่อคำสั่งของนายจ้างเป็นอาจิณ , ละทิ้งหน้าที่โดยไม่มีเหตุผลอันสมควรเป็นเวลานานอันสมควร , ทำผิดร้ายแรง ,กระทำการไม่สมควรแก่การปฏิบัติหน้าที่โดยถูกต้องและสุจริต , ทุจริต หรือกระทำผิดอาญา โดยเจตนาต่อนายจ้าง , จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายร้ายแรง , ทำผิดซ้ำและนายจ้างได้ตักเตือนเป็นหนังสือแล้วยังฝ่าฝืนทำผิดอีกภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ออกหนังสือเตือน ละทิ้งหน้าที่เป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน โดยไม่มีเหตุอันสมควร , ได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก )
3.ดอกเบี้ย การตกลงสละสิทธิและอายุความ ป.พ.พ. มาตรา 193/30 , 224 , 582 (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 17)
ค่าชดเชย
1.ความหมาย
2.หลักเกณฑ์การจ่ายค่าชดเชย (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 118 วรรคแรก)
oต้องมีการเลิกจ้าง
oลูกจ้างทำงานติดต่อกันครบ 120 วันขึ้นไป
3.ข้อยกเว้นไม่จ่ายค่าชดเชย
4.อัตราค่าชดเชย
5.การตกลงยกเว้นหรือสละสิทธิเรียกค่าชดเชย ดอกเบี้ยและอายุความ
oการตกลงยกเว้นหรือสละสิทธิ์เรียกค่าชดเชย
oดอกเบี้ย
oอายุความฟ้องค่าชดเชย
ค่าชดเชยพิเศษ
-ค่าชดเชยพิเศษเนื่องจากการย้ายสถานประกอบกิจการ (คำพิพากษาฎีกาที่ 1927-2163/2526 , 1972-2102/2534 ) (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 120 )
-ค่าชดเชยพิเศษเนื่องจากนำเครื่องจักรหรือเทคโนโลยีแทนลูกจ้าง (พรบ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 121 , 122 )
-อายุความฟ้องร้องเรียกค่าชดเชยพิเศษ (ป.พ.พ. 193/30 มีอายุความ 10 ปี นับแต่อาจบังคับได้ตามสิทธิ)
เลิกจ้างไม่เป็นธรรม
1.หลักเกณฑ์เลิกจ้างไม่เป็นธรรม (พรบ.จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 49 )
2.กรณีถือว่าเลิกจ้างไม่เป็นธรรม
3.กรณีไม่ถือว่าเลิกจ้างไม่เป็นธรรม
4.เลิกจ้างเป็นธรรมทั้งในเนื้อหาและวิธีพิจารณา
5.ผลของการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม
oกรณีให้นายจ้างรับกลับเข้าทำงาน
oกรณีให้นายจ้างใช้ค่าเสียหาย
6.ข้อสังเกตเกี่ยวกับเลิกจ้างไม่เป็นธรรม
oเลิกจ้างไม่เป็นธรรมกับค่าชดเชย
oไม่ต้องยื่นคำร้องต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก่อนฟ้อง
oเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายคุ้มครองแรงงาน
oอาจตกลงสละสิทธิเรียกค่าเสียหายเลิกจ้างไม่เป็นธรรม
oนายจ้างยกเหตุเลิกจ้างขึ้นอ้างในภายหลังเพื่อต่อสู้คดีได้
oดอกเบี้ย
oอายุความฟ้องร้องคดีเลิกจ้างไม่เป็นธรรม
การกระทำอันไม่เป็นธรรม
1.หลักเกณฑ์การกระทำอันไม่เป็นธรรม
oการกระทำอันไม่เป็นธรรม ตามมาตรา 121
oการกระทำอันไม่เป็นธรรม ตามมาตรา 122
o การกระทำอันไม่เป็นธรรม ตามมาตรา 123
2. ผลของการกระทำอันเป็นไม่เป็นธรรม
o การดำเนินคดีส่วนแพ่ง
o การดำเนินคดีอาญา