ปัญหาสัญญาเช่าบ้านกับชาวต่างชาติ|ปัญหาสัญญาเช่าบ้านกับชาวต่างชาติ

ปัญหาสัญญาเช่าบ้านกับชาวต่างชาติ

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

ปัญหาสัญญาเช่าบ้านกับชาวต่างชาติ

ดิฉันได้ทำการเช่าบ้านเก่าติดชายทะเลจำนวนสองหลังในบริเวณเดียวกัน

บทความวันที่ 28 ธ.ค. 2552, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 7202 ครั้ง


ปัญหาสัญญาเช่าบ้านกับชาวต่างชาติ

 

           ดิฉันได้ทำการเช่าบ้านเก่าติดชายทะเลจำนวนสองหลังในบริเวณเดียวกัน เป็นระยะเวลาห้าปี ไ ด้ทำการปรับปรุงต่อเติม ซ่อมแซมจนอยู่ในสภาพที่ดีและสามารถอยู่อาศัยได้ โดยที่ดิฉันและครอบครัวได้อยู่อาศัยหลังหนึ่ง และเมื่อเข้าปีที่สาม ได้มีชาวฝรั่งเศสติดต่อขอเช่าพื้นที่ติดหาด  เพื่อเปิดเป็นร้านอาหารและบาร์  วันที่ทำสัญญาขอมัดจำได้จ่ายเงินไว้ก่อนเดินทางกลับประเทศไป  โดยระบุในสัญญาว่าจะเซ็นสัญญาเช่าภายในหนึ่งเดือน  หลังจากวางมัดจำโดยจะตกลงเช่าเป็นเวลาสามปี  เมื่อครบกำหนดวันชำระเงินชาวฝรั่งเศสได้เงียบหายไป  และติดต่อชำระเงินหลังจากนั้นหนึ่งอาทิตย์  โดยส่งทางเวสเทรินยูเนี่ยนเท่ากับเป็นค่าเช่าอีกหนึ่งเดือน แต่เมื่อเดินทางกลับมาเมืองไทย ชาวฝรั่งเศสได้ตกลงเซ็นสัญญาเป็นเวลาหนึ่งปี โดยที่ชำระเงินแค่ค่าเช่าสิบเดือนหักจากสองเดือนที่ชำระไว้แล้ว
            และได้ขอแบ่งเช่าหนึ่งห้องนอนของบ้านอีกหลังหนึ่งเป็นเวลาหนึ่งปีเช่นกัน  หลังจากที่ย้ายเข้ามาอยู่และเปิดกิจการ  ชาวฝรั่งเศสไม่ได้ทำตามที่ตกลงกันไว้ด้วยวาจา คือจะเปิดเป็นร้านอาหารกึ่งบาร์ บรรยากาศสบายริมทะเล  แต่ตรงกันข้ามได้จัดปาร์ตี้ เปิดเพลงเสียงดังรบกวนเพื่อนบ้านทุกคืน  เมื่อดิฉันเข้าไปพูดคุยตักเตือนก็ถูกปฏิเสธที่จะรับฟัง  จนเพื่อนบ้านและผู้ใหญ่ในละแวกบ้านมาช่วยกันพูด  และมีตำรวจมาคอยสอดส่อง  จึงได้เพลาลงไปบ้าง  ต่อมาชาวฝรั่งเศสได้กล่าวอ้างถึงสิทธิสัญญาเช่าสามปีในอัตราค่าเช่าเดิม  ซึ่งทางดิฉันได้ปฏิเสธที่จะต่อสัญญาหลังจากหนึ่งปีสิ้นสุดลง  ทำให้ชาวฝรั่งเศสไม่พอใจ มีการทะเลาะกันยิ่งทำให้ดิฉันไม่อยากต่อสัญญาหรือจะพูดคุยอะไรด้วยเลย 
            ดิฉันสงสัยและมีคำถามจะถามคือเป็นไปได้ไหมที่ชาวฝรั่งเศสจะดำเนินการฟ้องร้องหรืออ้างสิทธิในการต่อสัญญา  และหากสัญญาหนึ่งปีสิ้นสุดลงเป็นไปได้ไหมที่ชาวฝรั่งเศสจะเผาหรือทำลายข้าวของให้เกิดความเสียหาย และหากระยะเวลาในสัญญาชาวฝรั่งเศสได้ไปขอมีใบอนุญาตใช้เครื่องขยายเสียงกับทางตำรวจแล้ว เมื่อมีการเปิดเสียงดังรบกวนจะสามารถไปแจ้งความกับตำรวจได้หรือไม่

คำแนะนำทนายคลายทุกข์
            การที่ชาวฝรั่งเศสได้ตกลงกับคุณในตอนแรกตอนที่วางมัดจำ  ว่าเขาจะเซ็นสัญญาเช่าภายใน 1 เดือนหลังจากวางมัดจำ  โดยตกลงจะเช่าเป็นเวลา 3 ปี  กรณีดังกล่าวจึงเป็นกรณีที่ชาวฝรั่งเศสนั้นให้คำมั่นว่าจะทำสัญญาเช่ากัน 3 ปี  ดังนั้น ชาวฝรั่งเศสผู้นี้จะต้องมาทำสัญญาเช่านั้นให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือนหลังจากวางมัดจำนั้น  จึงจะทำให้เกิดผลเป็นสัญญาเช่ากันมีกำหนด 3 ปี  คำมั่นว่าจะเช่า 3 ปี  ของชาวฝรั่งเศสจึงสิ้นผลไปบังคับไม่ได้
           และเมื่อปรากฏว่า  ชาวฝรั่งเศสผู้นั้นได้มาตกลงเซ็นสัญญาเช่าเป็นระยะ 1 ปี  เขาจึงมีสิทธิที่จะใช้หรือได้รับประโยชน์ในทรัพย์สินที่เช่าภายในระยะเวลา 1 ปีนั้น  ตาม ป.พ.พ. มาตรา 537  เท่านั้น  ดังนั้น  เมื่อระยะเวลา 1 ปี ตามสัญญาเช่านี้สิ้นสุดลง  สัญญาเช่าดังกล่าว  จึงระงับสิ้นไป  เมื่อสิ้นกำหนดเวลาที่ได้ตกลงกันไว้  โดยไม่ต้องบอกกล่าวก่อน  ตาม ป.พ.พ. มาตรา 564  เพราะฉะนั้น  เมื่อสัญญาเช่าฉบับนี้ครบระยะเวลาเช่า 1 ปีแล้ว  ก็เป็นสิทธิของคุณที่จะต่อสัญญาให้แก่เขาต่อไปหรือไม่  ชาวฝรั่งเศสไม่มีอำนาจที่จะมาฟ้องคดีบังคับให้คุณต่อสัญญาเช่าให้แก่เขา  เพราะเป็นสิทธิของคุณดังกล่าวมาแล้ว  ซึ่งคำมั่นที่ชาวฝรั่งเศสได้ให้คำมั่นว่าจะเช่า 3 ปี  คำมั่นนั้นย่อมสิ้นผลไปแล้ว  หลังจากครบกำหนด 1 เดือนนั้น
           ส่วนหลังจากสัญญาเช่า 1 ปี  สิ้นสุดลงแล้ว  หากเขาจะเผาหรือทำลายข้าวของให้เกิดความเสียหาย  กรณีก็ย่อมเป็นการทำละเมิดแก่คุณ  ซึ่งเขาไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะกระทำได้ และหากเขากระทำจริง  คุณก็ย่อมมีสิทธิฟ้องคดีเรียกค่าสินไหมทดแทนจากเขาได้  ตาม ป.พ.พ.มาตรา 420
         ส่วนกรณีที่เขามีการเปิดเครื่องขยายเสียง  เป็นที่รบกวนจนทำให้ประชาชนตกใจ  หรือเดือดร้อนแม้เขาจะมีใบอนุญาตใช้เครื่องขยายเสียงกับทางตำรวจก็ตาม  แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะสามารถเปิดเสียงให้ดังเท่าใดก็ได้  โดยไม่สนใจว่าประชาชนจะเดือดร้อนหรือไม่  ดังนั้น  เขาจึงมีความผิดฐานทำให้เกิดเสียงหรือกระทำความอื้ออึงโดยไม่มีเหตุอันสมควร  จนทำให้ประชาชนตกใจ  หรือเดือดร้อน ตาม ป.อ. มาตรา 370  คุณก็ย่อมมีสิทธิที่จะแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจได้  กฎหมายไม่ห้าม

ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา 420  ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิดจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น

มาตรา 537  อันว่าเช่าทรัพย์สินนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่าผู้ให้เช่าตกลงให้บุคคลอีกคนหนึ่งเรียกว่าผู้เช่าได้ใช้หรือได้รับประโยชน์ในทรัพย์สินอย่างใดอย่างหนึ่งชั่วระยะเวลาอันมีจำกัด และผู้เช่าตกลงจะให้ค่าเช่าเพื่อการนั้น

มาตรา 564  อันสัญญาเช่านั้น ท่านว่าย่อมระงับไปเมื่อสิ้นกำหนดเวลาที่ได้ตกลงกันไว้ มิพักต้องบอกกล่าวก่อน

ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 370
ผู้ใดส่งเสียง ทำให้เกิดเสียงหรือกระทำความอื้ออึง โดยไม่มีเหตุอันสมควร จนทำให้ประชาชนตกใจหรือเดือดร้อน ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งร้อยบาท


 

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 5

ดิฉันมีบ้านให้เช่าทำสัญญาไว้1ปีตอนทำสัญญาดิฉันได้ขอสำเนาพาสปอร์ตแต่ไม่ได้ขอหน้าวีซ่าตอนหลังมารู้เขามีวีซ่าท่องเที่ยวตอนไปแจ้งที่ต.มค่ะเขาเป็นผู้หญิงมีลูกติดมา1คนตอนนี้ลูกสาวเค้าคงน่าจะ18 แล้วค่ะปัญหาคือตอนนี้คนที่ดิฉันทำสัญญาเช่าคือคุณแม่ได้วีซ่าทำงานแต่ลูกสาวมีวีซ่าท่องเที่ยวดิฉันอยากรู้ว่าว่าดิฉันในฐานะผู้เช่ายังต้องไปแจ้งต.ม ทุกครั้งไหมที่ลูกสาวเค้าไปทำวีซ่าใหม่ค่ะมันเป็นหน้าที่ของผู้ให้เช่าหรือผู้เช่าต้องไปแจ้งต.ม. ค่ะ

โดยคุณ บ้านใหม่ 23 มี.ค. 2562, 21:18

ความคิดเห็นที่ 4

สามีเป็นคนเยอรมันค่ะ...ซื้อบ้านเช่าระยะยาว30ปีต่อจากชาวเยอรมันค่ะ..และชาวเยอรมันคนนี้ที่ขายบ้านเช่าให้สามี..เค้าซื้อเช่าช่วง30ปีจากเจ้าของคนไทยอีกทีค่ะ...และตอนนี้..ชาวเยอรมันที่ขายบ้านเช่าช่วงให้..เค้าแบ่งที่จอดรถให้พวกหนูแค่2เมตรค่ะ...ทั้งๆที่จอดรถกว้างตั้ง8เมตรที่จอดรถอยู่ติดกับเขตพื้นที่บ้านที่ซื้อพอดีค่ะ....หนูอยากรู้และอยากถามว่า...ในเมื่อเค้าขายบ้านเช่าช่วง30ปีให้พวกหนูแล้ว..เค้าจะมีสิทธิ์ครอบครองในพื้นที่จอดรถอีกมั้ยค่ะ...เพราะว่าเค้าขายสิทธิ์ของเค้า...30ปีที่เค้าซื้อต่อจากคนไทย...ขายไปแล้ว...เค้ายังคิดว่าเค้ายังมีสิทธิ์เป็นเจ้าของที่จอดรถอ่ะค่ะ...รบกวนช่วยตอบหนูด้วยน่ะค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ

โดยคุณ ก้อย 17 ต.ค. 2560, 02:48

ความคิดเห็นที่ 3

ชอบมากเลย คุณอริย พูดดีมาก ขอปรบมือให้จ๊ะ

โดยคุณ อู๊ด 28 มี.ค. 2554, 16:33

ความคิดเห็นที่ 2

ขอบอกว่าอย่าไปกลัวพวกฝรั่งเศสถ่อยแบบนี้ค่ะ คือคุยกับเขาแบบดีๆแต่ต้องเชือดนิ่มๆ บอกกับเขาว่า ถ้าเขาไม่มีวัฒนธรรม ก็ไม่ควรมาอยู่เมืองไทย เพราะขนาดบ้านเมืองเขาเองยังไม่เอาเขาเลย เขาคงมีเงินแค่ก้อนเล็กๆน่ะค่ะ แล้วมาหากินเพื่อขุดทองในเมืองไทย เพราะได้ยินกิตติศัพท์ว่าคนไทยหิวเงิน ดังนั้น อย่าให้เขาต่อสัญญาเด็ดขาด บอกว่า คุณไม่ยอมรับคนไม่มีวัฒนธรรม ที่แสดงกริยาต่ำๆกับคุณ คุณรู้ได้เลยว่า เขาเป็นคนฝรั่งเศสแบบไหน

              คนฝรั่งเศสระดับดีๆ เขาไม่ค่อยไปยุ่งกับใคร ค่อนข้างเลือกคบ เลือกสังคม

          การที่คุณเกรงว่าจะเกิดความเสียหาย ในการที่เขาทำเป็นตีรวนและหาเรื่องทะเลาะ คุณเอากล้องถ่ายภาพและอัดเสียงไว้ได้เลย  นอกจากนี้ พยายามหาที่อยู่ของเขาในฝรั่งเศสให้แน่ชัด  ควรทราบบัญชีธนาคารของเขาไว้ด้วย เพื่อจำเป็นในการขอปิดบัญชีของเขาเวลามีปัญหา 

              อย่างน้อย ขออวยพรให้รอดพ้นจากฝรั่งเศสชั้นสวะคนนี้เร็วๆอย่างราบรื่นค่ะ ถ้าเขาไม่ยอมออก ก็จัดการขั้นเด็ดขาด

            ถ้าโกรธมากๆ ก็บอกว่า  วู เซ็ต แอสส์-แปสส์ เดอ แมร์ก-เดอะ

            ถ้้ายิ่งกลัว มันจะยิ่งได้ใจ  พวกนี้ไม่ใช่คนเท่าไหร่หรอก อาจเป็นพวกคนทำงานระดับล่างที่พอเก็บเงินได้ก็หาประเทศที่ดีๆสบายๆอยู่ 

โดยคุณ อริย 9 ม.ค. 2553, 15:31

ความคิดเห็นที่ 1

เราคนไทย  เรารัก  เราเทิดทูน  ในหลวงของเรา

โดยคุณ วินัย 29 ธ.ค. 2552, 08:15

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก